“หมอสมาน” ทำหนังสือถึงนายกฯ แจงละเอียดยิบ 5 ข้อ เหตุผลที่ต้องห้ามขายเหล้าช่วงปีใหม่ - สงกรานต์ เผยต่างประเทศก็มีการห้าม ยกองค์การอนามัยโลกให้เหตุผลช่วยลดอุบัติเหตุ 30% ลดตาย 40% หวัง “บิ๊กตู่” พิจารณาผลักดันมาตรการ
วันนี้ (17 ธ.ค.) นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ตนได้ทำหนังสือส่งข้อมูลวิชาการ เพื่อสนับสนุนการออกมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาล ถึงที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านสังคม โดยข้อมูลมีอยู่ 5 ประเด็น คือ 1. หลายประเทศมีการจำกัดวันและเวลาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยสมาชิกองค์การอนามัยโลก 194 ประเทศ มี 112 ประเทศ ที่มีมาตรการจำกัดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางวันหรือบางเทศกาล ซึ่งในที่นี้เป็นการห้ามขายทุกวันถึง 10 ประเทศ โดยประเทศที่ห้ามขายเหล้าช่วงปีใหม่ อาทิ นิวซีแลนด์ และหลายมลรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น คอนเนกติกัต แคนซัส เป็นต้น
นพ.สมาน กล่าวอีกว่า 2. องค์การอนามัยโลก เสนอแนะทางเลือกมาตรการการควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หนึ่งในนั้นคือ การควบคุมวันและเวลาการขายปลีก หากห้ามขายจะทำให้การดื่มสุราลดลงร้อยละ 20 การเกิดอุบัติเหตุทางถนนลดลงร้อยละ 30 การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงร้อยละ 35 การเสียชีวิตลดลงร้อยละ 40 และการรักษาผู้หญิงที่ถูกทำร้ายลดลงร้อยละ 50 ถ้าไทยห้ามขายเหล้าช่วงปีใหม่จะช่วยให้คนไทยประมาณ 150 คนรอดชีวิต 3. ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ โดยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ระหว่างปี 2551 - 2557 พบว่าเห็นด้วยถึงร้อยละ 81.79 ไม่เห็นด้วยเพียงร้อยละ 9.85 และไม่แสดงความคิดเห็นร้อยละ 8.35 เป็นต้น
นพ.สมาน กล่าวว่า 4. มาตรการนี้ไม่เป็นการกีดกันทางการค้า เพราะเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันทั้งสินค้าที่ผลิตในประเทศ และนำเข้า และ 5. เหตุที่ต้องห้ามขาย เพราะช่วงเทศกาลมีการดื่มสุรามากและบาดเจ็บหนักกว่าช่วงปกติ 2 เท่า ส่วนเดือนที่มีวันหยุดยาวจำนวนคดีอุบัติเหตุจราจรตามเทศกาลจะสูงกว่าเดือนอื่นๆ ซึ่งมักจะมาจากการเมาเหล้าถึงร้อยละ 80 - 90 เช่นกัน ขณะที่เดือนอื่นๆ ไม่มีเทศกาลหยุดยาวจะมีการเมาสุราเข้ามาเกี่ยวข้องเพียงร้อยละ 30 - 40
“ผมจึงได้ทำข้อเสนอถึงนายกฯ เพื่อพิจารณาขอให้ผลักดันและสนับสนุนมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงปีใหม่วันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. รวมทั้งเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งขอให้พิจารณาสั่งการพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มี รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ยังคงมีการประชุมในวันที่ 19 ธ.ค. ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่คณะกรรมการ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีรองนายกฯ เป็นประธาน วันที่ 24 ธ.ค.” นพ.สมาน กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (17 ธ.ค.) นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ตนได้ทำหนังสือส่งข้อมูลวิชาการ เพื่อสนับสนุนการออกมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาล ถึงที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านสังคม โดยข้อมูลมีอยู่ 5 ประเด็น คือ 1. หลายประเทศมีการจำกัดวันและเวลาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยสมาชิกองค์การอนามัยโลก 194 ประเทศ มี 112 ประเทศ ที่มีมาตรการจำกัดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางวันหรือบางเทศกาล ซึ่งในที่นี้เป็นการห้ามขายทุกวันถึง 10 ประเทศ โดยประเทศที่ห้ามขายเหล้าช่วงปีใหม่ อาทิ นิวซีแลนด์ และหลายมลรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น คอนเนกติกัต แคนซัส เป็นต้น
นพ.สมาน กล่าวอีกว่า 2. องค์การอนามัยโลก เสนอแนะทางเลือกมาตรการการควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หนึ่งในนั้นคือ การควบคุมวันและเวลาการขายปลีก หากห้ามขายจะทำให้การดื่มสุราลดลงร้อยละ 20 การเกิดอุบัติเหตุทางถนนลดลงร้อยละ 30 การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงร้อยละ 35 การเสียชีวิตลดลงร้อยละ 40 และการรักษาผู้หญิงที่ถูกทำร้ายลดลงร้อยละ 50 ถ้าไทยห้ามขายเหล้าช่วงปีใหม่จะช่วยให้คนไทยประมาณ 150 คนรอดชีวิต 3. ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ โดยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ระหว่างปี 2551 - 2557 พบว่าเห็นด้วยถึงร้อยละ 81.79 ไม่เห็นด้วยเพียงร้อยละ 9.85 และไม่แสดงความคิดเห็นร้อยละ 8.35 เป็นต้น
นพ.สมาน กล่าวว่า 4. มาตรการนี้ไม่เป็นการกีดกันทางการค้า เพราะเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันทั้งสินค้าที่ผลิตในประเทศ และนำเข้า และ 5. เหตุที่ต้องห้ามขาย เพราะช่วงเทศกาลมีการดื่มสุรามากและบาดเจ็บหนักกว่าช่วงปกติ 2 เท่า ส่วนเดือนที่มีวันหยุดยาวจำนวนคดีอุบัติเหตุจราจรตามเทศกาลจะสูงกว่าเดือนอื่นๆ ซึ่งมักจะมาจากการเมาเหล้าถึงร้อยละ 80 - 90 เช่นกัน ขณะที่เดือนอื่นๆ ไม่มีเทศกาลหยุดยาวจะมีการเมาสุราเข้ามาเกี่ยวข้องเพียงร้อยละ 30 - 40
“ผมจึงได้ทำข้อเสนอถึงนายกฯ เพื่อพิจารณาขอให้ผลักดันและสนับสนุนมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงปีใหม่วันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. รวมทั้งเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งขอให้พิจารณาสั่งการพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มี รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ยังคงมีการประชุมในวันที่ 19 ธ.ค. ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่คณะกรรมการ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีรองนายกฯ เป็นประธาน วันที่ 24 ธ.ค.” นพ.สมาน กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
