xs
xsm
sm
md
lg

นิด้าโพล ชี้ ปชช.หนุน แบนตลอดชีพนักการเมืองทำผิด จี้ ผู้บริหารท้องถิ่นแจงบัญชี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โพลนิด้า เผย ผลสำรวจ ปชช. เรื่อง ข้อเสนอแก้ กม. ป.ป.ช. ส่วนใหญ่เห็นด้วยแบนนักการเมืองที่ถูกศาลชี้ผิดตลอดชีวิต เหตุกลับมาคงทำแบบเดิม เปิดทางให้คนมีคุณภาพทำหน้าที่แทน พร้อมหนุนให้ผู้บริหารท้องถิ่นต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน เพื่อความโปร่งใส และเห็นด้วยเพิ่มอำนาจ ป.ป.ช. สั่งขัง ผู้ถูกกล่าวหาที่เบี้ยวรายงานตัว

วันนี้ (30 พ.ย.) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ข้อเสนอแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช.” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 26 - 27 พฤศจิกายน 2557 จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับข้อเสนอแก้ไขกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” ด้วยความน่าจะเป็นด้วยวิธีแบบเป็นระบบ (Systematic Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4

จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ถูกศาลตัดสิน ชี้ขาดให้พ้นจากตำแหน่ง ห้ามไม่ให้กลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต (จากเดิมห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 69.28 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะผู้ที่เคยกระทำผิดไม่ควรกลับเข้ามาเล่นการเมือง จะได้ไม่เกิดการกระทำผิดอีก ถ้ากลับมาดำรงตำแหน่งอีกอาจเป็นเหมือนเดิม เป็นการคัดกรองและเปิดโอกาสให้คนที่มีคุณภาพ ตั้งใจทำงานเข้ามาแทนดีกว่า รองลงมา ร้อยละ 26.08 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะควรให้ระยะเวลา สิทธิ และโอกาสในการปรับปรุงตนเอง หากไม่ให้กลับเข้ามาเลยก็จะเป็นการเอาเปรียบและไม่ยุติธรรมแก่ผู้กระทำผิด และอาจเกิดเกิดปัญหาความแตกแยกตามมา และร้อยละ 4.64 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ให้ผู้บริหารท้องถิ่น, รองผู้บริหารท้องถิ่น และผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. (จากเดิมไม่มีกำหนดไว้) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 90.40 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเป็นการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ถึงที่ไปที่มาของทรัพย์สิน โดยเฉพาะทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ เช่น การทุจริตคอร์รัปชัน การตัดไม้ทำลายป่า (การค้าไม้เถื่อน) การยักยอกเงิน เป็นต้น เป็นการให้ความชัดเจนแก่ประชาชนด้วย มีเพียงร้อยละ 8.32 ที่ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะถือเป็นข้อมูลและสิทธิส่วนบุคคลที่จะเปิดเผยหรือไม่ก็ได้ และร้อยละ 1.28 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. โดยให้อำนาจ ป.ป.ช. สามารถจับและคุมขังผู้ถูกกล่าวหาที่ไม่ไปรายงานตัวตามที่กำหนด (จากเดิม ป.ป.ช. มีอำนาจแค่แจ้งให้ตำรวจดำเนินการ) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.64 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายเดียวอาจจัดการได้ไม่ดีพอ หรือเกิดการติดสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ เป็นการเพิ่มความรวดเร็วในการจับผู้กระทำผิดมารับโทษ เพราะบางครั้งส่งเรื่องให้อัยการแล้วบางทีเรื่องล่าช้า ผู้ที่กระทำผิดควรได้รับโทษตามกฎหมาย รองลงมา ร้อยละ 32.96 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ ป.ป.ช. ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจถึงขั้นดังกล่าว เพราะเป็นหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนเกินไป ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และเป็นไปตามขั้นตอน ร้อยละ 8.40 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ


กำลังโหลดความคิดเห็น