ดุสิตโพล สำรวจความเห็นหลัง คสช. เข้าแทรกแซงการนำเสนอข่าว ไทยพีบีเอส ส่วนใหญ่ 81% เห็นว่าสื่อควรนำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เป็นประโยชน์ส่วนรวม 81% เห็นว่า คสช. สามารถเข้าดำเนินการได้ภายใต้กฎอัยการศึก พร้อมเรียกร้องสื่อเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ขณะเดียวกัน แนะ คสช. หากต้องเข้าแทรกแซงควรคำนึงถึงผลดี ผลเสีย ควรพูดคุยสร้างความเข้าใจระหว่าง คสช. กับสื่อ วอนทุกฝ่ายสมัครสมานสามัคคี
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดผลสำรวจความคิดเห็น ประชาชนจากทั่วประเทศ 1,257 คน ระหว่างวันที่ 17 - 21 พ.ย. กรณี “สื่อ” กับ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล” ณ วันนี้ หลัง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถูก คสช. สั่งระงับรายการ “เสียงประชาชนที่ต้องฟังก่อนปฏิรูป” และได้มีการปรับเปลี่ยน น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ ผู้ดำเนินรายการออก พบว่า ร้อยละ 81.15 เห็นว่า สื่อควรทำหน้าที่นำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ร้อยละ 80.67 เห็นว่า คสช. สามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎอัยการศึก เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยก ขณะที่ ร้อยละ 58.71 เห็นว่าประชาชนควรได้รับข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง เพื่อได้รู้ถึงความเป็นไปของบ้านเมือง
ส่วนสื่อในยุคที่อยู่ภายใต้กฎอัยการศึกควรวางตัว หรือปฏิบัติหน้าที่อย่างไร พบว่า ร้อยละ 75.42 เห็นว่า ควรนำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงการนำเสนอที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง ร้อยละ 59.43 เห็นว่า ควรให้ความร่วมมือและทำตามกฎระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน เมื่อถามว่า คสช. ควรปฏิบัติต่อสื่อ ณ วันนี้อย่างไร พบว่า ร้อยละ 66.35 เห็นว่า หากจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงการทำงานของสื่อ ควรคำนึงถึงผลดีผลเสียที่จะตามมา ร้อยละ 62.53 เห็นว่า ควรมีการประชุมพูดคุยสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่าง คสช. กับสื่อต่างๆ
อย่างไรก็ตาม พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 69.45 เห็นว่า ทุกฝ่ายควรสมัครสมานสามัคคีเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
