อนาถ! “สิงห์บุรี-นครนายก” เหลือเงินบัตรทองดูแล ปชช.แค่หลักร้อย ปชค.สธ.ข้องใจไม่ฟังเสียงพื้นที่

ปชค.สธ. ข้องใจ “หมอรัชตะ” ตั้ง คกก. ตรวจสอบการเงิน รพ. สังกัด สธ. ชี้ไม่จำเป็นต้องตรวจ เหตุข้อมูลชัดเจน เผย “สิงห์บุรี - นครนายก” เหลืองบบริการประชาชนแค่หลักร้อยบาท ยันต้องเกลี่ยงบที่ระดับเขต หลังปะเงินช่วยกันในจังหวัดไม่พอ จ่อยื่น คสช. ผู้ตรวจฯ ศาลปกครองตรวจสอบงบบัตรทอง

วันนี้ (17 ธ.ค.) นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ในฐานะรักษาการประธานประชาคมสาธารณสุข (ปชค.สธ.) กล่าวว่า ความขัดแย้งเรื่องกลไกการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัว กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นั้น เกิดจากการที่โรงพยาบาลที่ให้บริการสิทธิบัตรทอง ซึ่งกว่า 80% อยู่ในสังกัด สธ. สะท้อนปัญหาเรื่องการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวแบบที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนรับบริการและเข้าถึงบริการอย่างไม่เป็นธรรม แต่ก็ไม่ได้รับการสนใจ จึงเสนอต่อปลัด สธ. และมีการระดมสมองหาแนวทางแก้ปัญหา จนได้นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) แต่กลับมีการต้านแล้วใส่ความว่า สธ. บริหารจัดการไม่ได้ประสิทธิภาพ ทั้งที่ความจริงเป็นเพราะการบริหารจัดการงบรายหัวที่ไม่เป็นธรรม

“ปชค.สธ. ได้ประชุมหารือกันและมีมติเห็นว่า จะดำเนินการส่งข้อมูลให้องค์กรกลาง ทั้งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลปกครอง และประธานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เร็วๆ นี้ ให้เข้ามาตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทอง โดยให้มีการตรวจสอบทั้งฝั่ง สธ. และ สปสช. รวมถึงตรวจสอบกรณีการโอนงบบัตรทองไปยังหน่วยบริการแล้วเรียกคืน เหมือนเป็นการยักย้ายถ่ายเท และนำงบไปจัดสรรให้องค์กรอื่นที่ไม่ใช่หน่วยบริการ เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม” นพ.สุทัศน์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ จะอุทธรณ์ รมว.สาธารณสุข กรณีลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบและปรับปรุงสถานะทางการเงินของหน่วยบริการในสังกัด สป.สธ. ด้วย เพราะเลขานุการของคณะกรรมการ เป็นรองเลขาธิการ สปสช. ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ สธ. และไม่ทราบว่าการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวต้องการอะไร เพราะที่ผ่านมาหน่วยบริการสังกัด สธ.ก็ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาแล้ว จึงควรรับฟังในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี สปสช. ระบุว่า มีกลไกช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง ไม่จำเป็นต้องปรับกลไกการจัดสรรงบรายหัว นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา โรงพยาบาชุมชน (รพช.) โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) มีการช่วยเหลือด้านการเงินแก่หน่วยบริการภายในจังหวัดกันมาตลอด ต้องปะเงินกันไปมา จนเกินจะปะกันในจังหวัดแล้ว ปัจจุบันบางจังหวัดไม่สามารถดำเนินการปะได้แล้ว เพราะหน่วยบริการจนทั้งจังหวัด จึงเสนอแนวทางแก้ปัญหา ให้มีการจัดสรรงบฯในระดับเขต มิเช่นนั้นประชาชนจะเดือดร้อน แต่ สปสช. ไม่เคยรับรู้เพราะไม่เคยลงไปดู มีแต่จัดสรรงบฯลงไป

“การแก้ปัญหาเรื่องกลไกการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทองต้องดำเนินการในระดับเขตสุขภาพ เพื่อที่จะสามารถเกลี่ยงบช่วยเหลือให้เพียงพอกับหน่วยบริการแต่ละแห่งภายในเขต เนื่องจากในระดับจังหวัดไม่สามารถเกลี่ยงบช่วยกันได้แล้ว โดยเฉพาะจังหวัดที่มีประชากรน้อย เช่น แม่ฮ่องสอน สิงห์บุรี พังงา นครนายก เป็นต้น อย่างสิงห์บุรีเมื่อหักเงินเดือนบุคลากรออกจากงบรายหัว จะมีเงินให้บริการประชาชนน้อยกว่า 100 บาทต่อคน นครนายกเหลือน้อยกว่า 300 บาทต่อคน เพราะฉะนั้น รมว.สาธารณสุข ไม่ต้องสั่งให้มีการตรวจสอบโรงพยาบาลสังกัด สธ. ใหม่ เพราะมีการตรวจสอบและเสนอทางแก้ปัญหาแล้ว เพียงแต่นำไปปฏิบัติเท่านั้น" นพ.สุทัศน์ กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่