ครม. ไฟเขียว อภ. เดินหน้าการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก คาดจะผลิตวัคซีน รุ่นทดลองได้ในในต้นปี 2561
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ทีผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบตามที่องค์การเภสัชกรรมเสนอ ในการดำเนินการเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ตามมาตรฐานจีเอ็มพี (GMP) ขององค์การอนามัยโลก เพื่อเป็นสถานที่ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทั้งในสถานการณ์ปกติและในกรณีเกิดการระบาดใหญ่ใช้ในประเทศไทย โดยหลังจากนี้จะใช้เวลาในการก่อสร้างอีกประมาณ 513 วัน ควบคู่กับการติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน คาดว่าต้นปี พ.ศ. 2561 จะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในการทดลองทางคลินิก หากผลการทดสอบผ่านและได้รับการอนุมัติทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ประเทศไทยก็จะมีวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดนก ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ไว้ใช้บริการแก่ประชาชนต่อไป
ภญ.วนิชา ใจสำราญ รองผู้อำนวยการรักษาการผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การก่อสร้างโรงงานวัคซีนขององค์การเภสัชกรรมนี้ ถือเป็นโรงงานผลิตวัคซีนแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีกระบวนการผลิตครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจนได้วัคซีนสำเร็จรูป ซึ่งมีความซับซ้อนทั้งในด้านกระบวนการและเทคโนโลยี การผลิต การก่อสร้างจึงต้องมีการทบทวน ตรวจสอบการออกแบบในรายละเอียดให้มีความเหมาะสมรอบคอบ ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการ โดยมีเหตุผลทางวิชาการและเหตุผลทางเทคนิคสนับสนุนตามข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก และสถาบันคาเค็ตสุเกน (kaketsuken) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและความปลอดภัยต่อชุมชนรอบข้างโรงงานให้สูงขึ้น
“โรงงานนี้ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลชนิดเชื้อตาย เริ่มต้นปีละ 2 ล้านโด๊ส และสูงสุดถึง 10 ล้านโด๊สต่อปี และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตกรณีเกิดการระบาดใหญ่ (Pandemic) ได้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านโดส ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนในการพึ่งพาตนเองของประเทศไทยในด้านวัคซีน รองรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่มีความรุนแรงและมีแนวโน้ม จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต”ภญ.วนิชา กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ทีผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบตามที่องค์การเภสัชกรรมเสนอ ในการดำเนินการเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ตามมาตรฐานจีเอ็มพี (GMP) ขององค์การอนามัยโลก เพื่อเป็นสถานที่ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทั้งในสถานการณ์ปกติและในกรณีเกิดการระบาดใหญ่ใช้ในประเทศไทย โดยหลังจากนี้จะใช้เวลาในการก่อสร้างอีกประมาณ 513 วัน ควบคู่กับการติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน คาดว่าต้นปี พ.ศ. 2561 จะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในการทดลองทางคลินิก หากผลการทดสอบผ่านและได้รับการอนุมัติทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ประเทศไทยก็จะมีวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดนก ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ไว้ใช้บริการแก่ประชาชนต่อไป
ภญ.วนิชา ใจสำราญ รองผู้อำนวยการรักษาการผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การก่อสร้างโรงงานวัคซีนขององค์การเภสัชกรรมนี้ ถือเป็นโรงงานผลิตวัคซีนแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีกระบวนการผลิตครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจนได้วัคซีนสำเร็จรูป ซึ่งมีความซับซ้อนทั้งในด้านกระบวนการและเทคโนโลยี การผลิต การก่อสร้างจึงต้องมีการทบทวน ตรวจสอบการออกแบบในรายละเอียดให้มีความเหมาะสมรอบคอบ ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการ โดยมีเหตุผลทางวิชาการและเหตุผลทางเทคนิคสนับสนุนตามข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก และสถาบันคาเค็ตสุเกน (kaketsuken) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและความปลอดภัยต่อชุมชนรอบข้างโรงงานให้สูงขึ้น
“โรงงานนี้ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลชนิดเชื้อตาย เริ่มต้นปีละ 2 ล้านโด๊ส และสูงสุดถึง 10 ล้านโด๊สต่อปี และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตกรณีเกิดการระบาดใหญ่ (Pandemic) ได้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านโดส ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนในการพึ่งพาตนเองของประเทศไทยในด้านวัคซีน รองรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่มีความรุนแรงและมีแนวโน้ม จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต”ภญ.วนิชา กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่