xs
xsm
sm
md
lg

จวกธุรกิจน้ำเมาต้าน กม.ขายเหล้าปีใหม่ ชี้ฟันกำไรมาก ควรสร้างกุศลบ้าง - เอ็นจีโอหนุนสุดตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอ็นจีโอหนุนสุดตัวออก กม. ห้ามขายเหล้าช่วงปีใหม่ ชี้ต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่ม เหตุสถิติเจ็บตายอุบัติเหตุไม่ลดลง ย้ำห้ามขายวันสำคัญ “ปีใหม่ - สงกรานต์” ช่วยลดการซื้อเหล้าเบียร์เพิ่ม ตัดโอกาสซิ่งออกไปซื้อข้างทางหรือร้านค้า แนะคอทองแดงวางแผนการดื่มล่วงหน้า ด้าน “หมอสมาน” จี้ธุรกิจน้ำเมา ได้กำไรมาก ควรสร้างกุศลงดขายเหล้าวันสำคัญบ้าง
นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมผลักดันอนุบัญญัติ 5 ฉบับ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ตามลำดับ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องของการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันปีใหม่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. ของทุกปี รวมอยู่ด้วย ว่า หากดูจากสถิติอุบัติเหตุและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว อย่างช่วงปีใหม่ หรือสงกรานต์ จะพบว่าที่ผ่านมาสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้เรื่อยๆ แต่ช่วง 2 - 3 ปีหลังที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตค่อนข้างคงที่ ไม่มีแนวโน้มลดลงคืออยู่ที่ประมาณ 300 กว่าศพ นั่นหมายความว่า มาตรการการควบคุมที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ซึ่งศูนย์อำนายการความปลอดภัยทางถนนก็มอบให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปคิดหาทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งในส่วนของ สธ. ก็คงมีการเสนอเรื่องการห้ามขายเหล้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ขึ้นมา ซึ่งจริงๆ มีการเสนอมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการผลักดันออกมาเป็นกฎหมาย

เข้าใจว่าที่กฎหมายไม่สามารถออกมาได้เสียทีนั้น เป็นเพราะที่ผ่านมามีคนค้าน อย่างธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แน่นอนว่าเดือดร้อนแน่ อย่างการจัดกิจกรรมลานเบียร์ตามที่ต่างๆ ก็จะไม่สามารถทำได้เลย แต่ถามว่าหากออกเป็นกฎหมายแล้วมีการบังคับใช้จริงนั้นมั่นใจว่าสามารถลดอุบัติเหตุได้แน่นอน ลดการเสียชีวิตได้อย่างแน่นอน เพราะกฎหมายห้ามแค่การขาย ไม่ได้ห้ามการดื่ม ดังนั้น นักดื่มยังสามารถดื่มได้ แต่ต้องวางแผนการดื่มให้ดี จะซื้อมาตุนดื่มมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตรงนี้จะช่วยลดการขับขี่ออกไปซื้อเหล้าเบียร์ได้ ลดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามข้างถนน โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็ลดลง เพราะหลายปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุเมาแล้วขับบนถนนสายรองมีมากขึ้น ซึ่งล้วนเกิดจากการดื่มแล้วไม่พอ ต้องออกไปซื้อมาดื่มเพิ่มนั่นเอง” ภก.สงกรานต์ กล่าว

ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า ส่วนการจะผลักดันให้ออกมาเป็นกฎหมายได้หรือไม่ คงต้องลองฟังเสียงกันดูว่าสังคมยอมรับได้มากน้อยเพียงใด คือ ไม่ใช่ว่าฝ่ายรณรงค์จะไม่ฟังเสียงของคนค้านเลย แต่อยากให้มีการออกมาตรการเพิ่มเติมที่รับได้กันทั้งสองฝ่าย เพราะขณะนี้เมื่อดูสถิติการเสียชีวิตช่วง 7 วันอันตรายของไทย ยังมากกว่าของญี่ปุ่นทั้งปีด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม หากผลักดันไม่สำเร็จ อย่างน้อยที่จะออกมาควบคุมคือ การห้ามขายบนทางสาธารณะ ซึ่งประเทศไทยมีการให้ใบอนุญาตในการขายมากถึง 6 แสนใบ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ให้อิสระมากว่าขนาดนี้ โดยมองว่ากรมสรรพสามิตรออกใบอนุญาตขายเหล้าง่ายเกินไป ซึ่งงานวิจัยก็ชัดเจนว่าทำให้เยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่ายเพียงไม่กี่นาที จึงอยากให้มีการขายในที่เฉพาะเพียงเท่านั้น ไม่ควรขายในที่สาธารณะ

นายธีรภัทร์ คหะวงษ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดิ่มหน้าใหม่ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสำคัญที่คนจะเดินทางวันหยุดยาวอย่างช่วงปีใหม่ สงกรานต์ หรือวันพ่อนั้น เห็นด้วยว่าควรมีการควบคุมเรื่องการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางวันเหล่านี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ลดอุบัติเหตุ แม้ปัจจุบันกฎหมายห้ามดื่มบนรถจะมีแล้ว แต่ถ้าห้ามขายไปเลยในวันสำคัญเหล่านี้ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุและการเจ็บตายลงได้ อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายก็อาจเป็นการจำกัดสิทธิบางส่วน แต่อยากให้มองภาพย้อนกลับถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ และค่ารักษาพยาบาลด้วยว่า เราไปละเมิดสิทธิของกลุ่มไม่ดื่ม แต่อาจได้รับผลกระทบ หรือกลุ่มเหยื่อเมาแล้วขับหรือไม่ ตรงนี้ต้องเอาความจริงมาคุยกัน

หลายเรื่องเป็นความท้าทายของหน่วยงานรัฐ อย่างการจัดโซนนิงรอบสถานศึกษาก็ผลักดันมา 5 - 6 ปี ประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้น เราก็อยากให้มีกฎหมาย การคุมแค่ 2 - 3 วันในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ อาจจะกระทบบ้างกับผู้มีส่วนได้เสีย แต่ถ้ามองภาพรวมจริงๆ บ้านเราควรมีกฎหมายเรื่องพวกนี้ออกมา ซึ่งสุดท้ายกฎหมายผ่านหรือไม่ผ่าน เราก็ไม่อาจก้าวล่วง แต่อยากให้รัฐบาลมีความกล้าหาญในการออกกฎหมาย ซึ่งมีผลดีมากกว่าเสีย” นายธีรภัทร์ กล่าว

ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สคอ. กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมพร้อมจะเสนออนุบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ที่มี รมว.สาธารณสุขเป็นประธาน โดยกำหนดวันประชุมคือ วันที่ 19 ธ.ค. นี้ หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติ ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หากพิจารณาผ่านก็จะเสนอนายกรัฐมนตรีลงนาม จากนั้นจะนำขึ้นเข้าสู่กระบวนการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

สำหรับข้อกังวลและเสียงต้านของภาคธุรกิจและนักดื่มในเรื่องห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่ 31 ธ.ค. 1 ม.ค. และ 13 - 15 เม.ย.ของทุกปี จริงๆ ก็ไม่แตกต่างจากการห้ามขายในวันพระ วันสำคัญทางศาสนา และการที่กลุ่มธุรกิจน้ำเมาไม่เห็นด้วย ย่อมชัดเจนว่าการควบคุมเช่นนี้ได้ผลจริง เพราะพวกเขาเดือดร้อนจากการขายเหล้า คนดื่มลด อุบัติเหตุลด ส่วนกลุ่มนักดื่มที่ไม่เห็นด้วยนั้นจะโทษพวกเขาไม่ได้ เพราะที่ผ่านมามีการสื่อสารการตลาด ส่งเสริมการขายต่างๆ จนเกิดการสร้างภาพลักษณ์ ว่า ปีใหม่ต้องมีการเฉลิมฉลองด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ใช่ของคนไทยแต่ดั้งเดิม ทั้งที่การขึ้นปีใหม่ หรือแม้แต่เทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย ควรเป็นเรื่องของการทำบุญทำกุศล สวดมนต์ข้ามปี แต่กลับมาสร้างวัฒนธรรมให้เป็นการเฉลิมฉลองด้วยเหล้าแทน จึงอยากวอนขอธุรกิจเหล้า เมื่อได้กำไรมามากแล้ว ควรทำบุญกุศลบ้าง” นพ.สมาน กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น