สธ. ออกระเบียบการจัดซื้อจัดหา “ยาและเวชภัณฑ์” ตั้ง คกก. ทำบัญชียาทุกระดับ ทั้งหน่วยงาน อำเภอ จังหวัด และเขต ให้สอดคล้องปัญหาแต่ละพื้นที่ พร้อมจัดระบบติดตามประสิทธิผล ความคุ้มค่า และความปลอดภัยผู้ป่วย รายงานผลทุกเดือน
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การสร้างระบบธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ เพื่อให้ สธ. เป็นกระทรวงสีขาว โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตนั้น รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการบริหารจัดการด้านยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2557 เพื่อให้การบริหารจัดการด้านยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ได้แก่ วัสดุการแพทย์ วัสดุทันตกรรม วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ วัสดุเอกซเรย์ และวัสดุอื่นๆ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้กับผู้ป่วยเฉพาะราย เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานทั่วประเทศ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งบประมาณ และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สาระสำคัญในระเบียบ ประกอบด้วย 1. กำหนดให้จัดตั้งคณะกรรมการ 4 ระดับ คือ ระดับเขต จังหวัด อำเภอ และหน่วยงาน คณะกรรมการ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้สั่งใช้ ผู้ใช้ ผู้รับผิดชอบจัดซื้อจัดหา และหน่วยงานผู้รับผิดชอบ เพื่อทำหน้าที่จัดทำบัญชีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนจัดซื้อของแต่ละหน่วยงาน สอดคล้องกับปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่และการใช้ตามศักยภาพของสถานบริการ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จัดทำกรอบบัญชีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด เพื่อใช้ในสถานบริการแต่ละระดับ เป็นประโยชน์ในการให้บริการและดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ใกล้บ้าน
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า 2. การจัดซื้อให้ยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 อย่างเคร่งครัด ส่วนรายการที่มีมูลค่าต่อหน่วยสูงหรือเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ยาเสพติดให้โทษ ให้จัดระบบควบคุมกำกับตรวจสอบการใช้อย่างเข้มงวดและรายงานการใช้ทุกเดือน 3. การสั่งใช้ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาจะต้องมีระบบกำกับประเมินและตรวจสอบการใช้ 3 ด้าน คือ ประสิทธิผล ความคุ้มค่า และความปลอดภัยของผู้ป่วย เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาให้แล้วเสร็จภายใน พ.ย. 2557 มอบหมายให้นายแพทย์ สสจ. เป็นผู้อนุมัติแผนการจัดซื้อ เพื่อดำเนินการจัดซื้อร่วมกันในระดับจังหวัดหรือในระดับเขตตามความจำเป็นและเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ได้ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาที่มีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม
“ขณะนี้สามารถจัดซื้อยาร่วมในระดับเขต ส่วนเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาอยู่ระหว่างการหารือและประสานงานกับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้เช่นเดียวกับการจัดซื้อยา ทั้งนี้ กำหนดให้หัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าส่วนราชการจะต้องประกาศเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการจัดซื้อจัดหาและการส่งเสริมการขายยา และเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาไว้ในที่เปิดเผยเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เกิดธรรมาภิบาล โดยจะมีการประกาศยกย่องเชิดชูหน่วยงานที่ปฏิบัติตามระเบียบหลักเกณฑ์จริยธรรมที่ดีเพื่อเป็นแรงจูงใจด้วย” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การสร้างระบบธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ เพื่อให้ สธ. เป็นกระทรวงสีขาว โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตนั้น รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการบริหารจัดการด้านยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2557 เพื่อให้การบริหารจัดการด้านยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ได้แก่ วัสดุการแพทย์ วัสดุทันตกรรม วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ วัสดุเอกซเรย์ และวัสดุอื่นๆ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้กับผู้ป่วยเฉพาะราย เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานทั่วประเทศ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งบประมาณ และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สาระสำคัญในระเบียบ ประกอบด้วย 1. กำหนดให้จัดตั้งคณะกรรมการ 4 ระดับ คือ ระดับเขต จังหวัด อำเภอ และหน่วยงาน คณะกรรมการ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้สั่งใช้ ผู้ใช้ ผู้รับผิดชอบจัดซื้อจัดหา และหน่วยงานผู้รับผิดชอบ เพื่อทำหน้าที่จัดทำบัญชีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนจัดซื้อของแต่ละหน่วยงาน สอดคล้องกับปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่และการใช้ตามศักยภาพของสถานบริการ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จัดทำกรอบบัญชีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด เพื่อใช้ในสถานบริการแต่ละระดับ เป็นประโยชน์ในการให้บริการและดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ใกล้บ้าน
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า 2. การจัดซื้อให้ยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 อย่างเคร่งครัด ส่วนรายการที่มีมูลค่าต่อหน่วยสูงหรือเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ยาเสพติดให้โทษ ให้จัดระบบควบคุมกำกับตรวจสอบการใช้อย่างเข้มงวดและรายงานการใช้ทุกเดือน 3. การสั่งใช้ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาจะต้องมีระบบกำกับประเมินและตรวจสอบการใช้ 3 ด้าน คือ ประสิทธิผล ความคุ้มค่า และความปลอดภัยของผู้ป่วย เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาให้แล้วเสร็จภายใน พ.ย. 2557 มอบหมายให้นายแพทย์ สสจ. เป็นผู้อนุมัติแผนการจัดซื้อ เพื่อดำเนินการจัดซื้อร่วมกันในระดับจังหวัดหรือในระดับเขตตามความจำเป็นและเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ได้ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาที่มีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม
“ขณะนี้สามารถจัดซื้อยาร่วมในระดับเขต ส่วนเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาอยู่ระหว่างการหารือและประสานงานกับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้เช่นเดียวกับการจัดซื้อยา ทั้งนี้ กำหนดให้หัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าส่วนราชการจะต้องประกาศเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการจัดซื้อจัดหาและการส่งเสริมการขายยา และเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาไว้ในที่เปิดเผยเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เกิดธรรมาภิบาล โดยจะมีการประกาศยกย่องเชิดชูหน่วยงานที่ปฏิบัติตามระเบียบหลักเกณฑ์จริยธรรมที่ดีเพื่อเป็นแรงจูงใจด้วย” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
