สบส. เปิดตัว “สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์” ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ ปราบหมอ - คลินิกเถื่อน หวังรับแจ้งเหตุการกระทำผิดกฎหมาย โฆษณาเกินจริง ระบุหากตรวจสอบพบผิดจริง เตรียมประสานหน่วยงานต่างๆ เอาผิด พร้อมแชร์แฉข้อมูลต่อ สกัดประชาชนตกเป็นเหยื่อรับบริการ
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่โรงแรมทีเค พาร์เลซ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวในการประชุมสัมมนา “การขับเคลื่อนบทบาทการคุ้มครองผู้บริโภคงานสถานพยาบาลส่วนภูมิภาค” ว่า ปัจจุบันมีการเปิดสถานพยาบาลมากขึ้น เพื่อรองรับความตื่นตัวของประชาชนในการดูแลสุขภาพและความงาม โดยอาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการสื่อสาร เพื่อหันมาติดต่อกับผู้รับบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต ด้วยสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ เป็นต้น เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ รวมถึงจูงใจให้เข้ารับบริการ ที่น่าห่วงคือมีสถานพยาบาลที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและแพทย์เถื่อนก็ใช้วิธีเดียวกันนี้ในการจูงใจคนให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่มักผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม เช่น โฆษณาเกินจริง ซึ่งแม้แต่สถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายก็มีการกระทำผิดมากเช่นกัน แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึง
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การคุ้มครองผู้บริโภคจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันกับยุค โดย สบส. ในฐานะเป็นหน่วยงานกำกับ ดูแลสถานพยาบาลเอกชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค จึงจัดการประชุมดังกล่าวขึ้น ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งภายหลังการประชุมน่าจะได้แนวทางยุทธศาสตร์ในการทำงานร่วมกัน โดยอาจมีการตั้งคณะทำงาน หรือลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ เพราะการกระทำผิดเกี่ยวกับสถานพยาบาลไม่ได้มีแค่ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 เพียงกฎหมายเดียว แต่ยังมีกฎหมายอื่นร่วมด้วย เช่น กฎหมายยา เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานดูแล รวมไปถึงการสืบสวน การปิดเว็บไซต์ต่างๆ การตั้งคณะทำงานก็จะช่วยบูรณาการและลดขั้นตอนในการดำเนินงานเพื่อเอาผิดผู้กระทำความผิดได้ง่ายขึ้น
“นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเปิดตัว “สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์” ของสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะด้วย ซึ่งเราจะใช้ชื่อนี้ทั้งในเฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ เพื่อเป็นแหล่งชุมชนบนโลกออนไลน์ที่คนสามารถเข้ามาแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับสถานพยาบาลโดยทั่วๆ ไปได้ ทั้งโฆษณาเกินจริง การกระทำผิดกฎหมายต่างๆ การแอบฉีดเฟรชเซลล์ เป็นต้น ซึ่ง สบส. จะมีการตรวจสอบและทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเอาผิด และหากพบว่าดำเนินการผิดจริงๆ ก็จะมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ เพื่อให้คนได้รับทราบว่าสถานพยาบาลใดกระทำผิดเรื่องใด เพื่อให้เกิดการแชร์และป้องกันการตกเป็นเหยื่อไปหลงเชื่อและรับบริการ” รองอธิบดี สบส. กล่าวและว่า สำหรับสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ เป็นการต่อยอดมาจากมือปราบคลินิกเถื่อน ซึ่ง สบส. เปิดเป็นเพจเพื่อรับแจ้งเรื่องคลินิกเถื่อนโดยเฉพาะ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่โรงแรมทีเค พาร์เลซ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวในการประชุมสัมมนา “การขับเคลื่อนบทบาทการคุ้มครองผู้บริโภคงานสถานพยาบาลส่วนภูมิภาค” ว่า ปัจจุบันมีการเปิดสถานพยาบาลมากขึ้น เพื่อรองรับความตื่นตัวของประชาชนในการดูแลสุขภาพและความงาม โดยอาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการสื่อสาร เพื่อหันมาติดต่อกับผู้รับบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต ด้วยสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ เป็นต้น เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ รวมถึงจูงใจให้เข้ารับบริการ ที่น่าห่วงคือมีสถานพยาบาลที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและแพทย์เถื่อนก็ใช้วิธีเดียวกันนี้ในการจูงใจคนให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่มักผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม เช่น โฆษณาเกินจริง ซึ่งแม้แต่สถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายก็มีการกระทำผิดมากเช่นกัน แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึง
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การคุ้มครองผู้บริโภคจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันกับยุค โดย สบส. ในฐานะเป็นหน่วยงานกำกับ ดูแลสถานพยาบาลเอกชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค จึงจัดการประชุมดังกล่าวขึ้น ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งภายหลังการประชุมน่าจะได้แนวทางยุทธศาสตร์ในการทำงานร่วมกัน โดยอาจมีการตั้งคณะทำงาน หรือลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ เพราะการกระทำผิดเกี่ยวกับสถานพยาบาลไม่ได้มีแค่ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 เพียงกฎหมายเดียว แต่ยังมีกฎหมายอื่นร่วมด้วย เช่น กฎหมายยา เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานดูแล รวมไปถึงการสืบสวน การปิดเว็บไซต์ต่างๆ การตั้งคณะทำงานก็จะช่วยบูรณาการและลดขั้นตอนในการดำเนินงานเพื่อเอาผิดผู้กระทำความผิดได้ง่ายขึ้น
“นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเปิดตัว “สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์” ของสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะด้วย ซึ่งเราจะใช้ชื่อนี้ทั้งในเฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ เพื่อเป็นแหล่งชุมชนบนโลกออนไลน์ที่คนสามารถเข้ามาแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับสถานพยาบาลโดยทั่วๆ ไปได้ ทั้งโฆษณาเกินจริง การกระทำผิดกฎหมายต่างๆ การแอบฉีดเฟรชเซลล์ เป็นต้น ซึ่ง สบส. จะมีการตรวจสอบและทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเอาผิด และหากพบว่าดำเนินการผิดจริงๆ ก็จะมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ เพื่อให้คนได้รับทราบว่าสถานพยาบาลใดกระทำผิดเรื่องใด เพื่อให้เกิดการแชร์และป้องกันการตกเป็นเหยื่อไปหลงเชื่อและรับบริการ” รองอธิบดี สบส. กล่าวและว่า สำหรับสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ เป็นการต่อยอดมาจากมือปราบคลินิกเถื่อน ซึ่ง สบส. เปิดเป็นเพจเพื่อรับแจ้งเรื่องคลินิกเถื่อนโดยเฉพาะ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
