สปส.ลงนามร่วม ธ.กรุงเทพ เปิดแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ในเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมส่งเสริมการจ้างงาน เริ่มปล่อยกู้ถึงสิ้นปีนี้
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่สำนักงานประกันสังคมสำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง นางปราณิน มุตาหารัช เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในโครงการสนับสนุนการจ้างงานในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา
นายนคร กล่าวว่า การดำเนินโครงการนี้สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงแรงงานในการสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนประกันสังคม เพื่อเป็นสินเชื่อผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการและผู้ประกันตนในพื้นที่ 5 จังหวัดเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เป็นการดำเนินโครงการต่อเนื่องมาจากการร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยยังมีธนาคารอีกหลายธนาคารที่สนใจและอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการบริหารของธนาคารเพื่อพิจารณา
นางปราณิน กล่าวว่า สปส. สนับสนุนเงินฝากตามยอดอนุมัติสินเชื่อโดยได้รับดอกเบี้ยเงินฝากที่ร้อยละ 1 ต่อปี คงที่ 5 ปี โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถานประกอบการ ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี คงที่ 5 ปี โดยปล่อยกู้รายละไม่เกิน 5,000,000 บาท และคิดอัตราดอกเบี้ยจากผู้ประกันตนไม่เกินร้อยละ 6 ต่อปี คงที่ 5 ปี โดยปล่อยกู้รายละไม่เกิน 150,000 บาท โดยสถานประกอบการและผู้ประกันตนที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนนายจ้างกับ สปส. มีที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน ส่วนผู้ประกันตนต้องประกอบอาชีพในพื้นที่กำหนดและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนไม่น้อยกว่า 3 เดือน โดยสามารถยื่นความประสงค์กับธนาคารกรุงเทพฯ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558
เลขาธิการ สปส. กล่าวว่า จากการลงนามกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยไปแล้วนั้นมีผู้ประกอบการขอยื่นกู้เพียง 4 รายเท่านั้น ส่วนผู้ประกันตนยังไม่มีการขอยื่นกู้ เนื่องจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยไม่มีสาขาที่ 5 จงหวัดชายแดนใต้ แต่ผู้ที่สนใจสามารถส่งหลักฐานขอยื่นกู้ได้ทางอีเมล และหากมีสถานประกอบการและผู้ประกันตนยื่นความประสงค์ขอกู้จำนวนมากก็จะมีการจัดหน่วยเคลื่อนที่ไปตามจุดต่างๆ ส่วนธนาคารกรุงเทพนั้น เชื่อว่า จะมีผู้ขอยื่นกู้จำนวนมาก เพราะมีสาขาอยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการจะสามารถปล่อยกู้ได้ 2,000 ล้านบาทตามเป้าหมายและมีผู้ประกันตนใน 5 จังหวัดภาคใต้ ได้รับประโยชน์กว่า 8.9 แสนคน
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่สำนักงานประกันสังคมสำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง นางปราณิน มุตาหารัช เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในโครงการสนับสนุนการจ้างงานในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา
นายนคร กล่าวว่า การดำเนินโครงการนี้สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงแรงงานในการสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนประกันสังคม เพื่อเป็นสินเชื่อผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการและผู้ประกันตนในพื้นที่ 5 จังหวัดเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เป็นการดำเนินโครงการต่อเนื่องมาจากการร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยยังมีธนาคารอีกหลายธนาคารที่สนใจและอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการบริหารของธนาคารเพื่อพิจารณา
นางปราณิน กล่าวว่า สปส. สนับสนุนเงินฝากตามยอดอนุมัติสินเชื่อโดยได้รับดอกเบี้ยเงินฝากที่ร้อยละ 1 ต่อปี คงที่ 5 ปี โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถานประกอบการ ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี คงที่ 5 ปี โดยปล่อยกู้รายละไม่เกิน 5,000,000 บาท และคิดอัตราดอกเบี้ยจากผู้ประกันตนไม่เกินร้อยละ 6 ต่อปี คงที่ 5 ปี โดยปล่อยกู้รายละไม่เกิน 150,000 บาท โดยสถานประกอบการและผู้ประกันตนที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนนายจ้างกับ สปส. มีที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน ส่วนผู้ประกันตนต้องประกอบอาชีพในพื้นที่กำหนดและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนไม่น้อยกว่า 3 เดือน โดยสามารถยื่นความประสงค์กับธนาคารกรุงเทพฯ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558
เลขาธิการ สปส. กล่าวว่า จากการลงนามกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยไปแล้วนั้นมีผู้ประกอบการขอยื่นกู้เพียง 4 รายเท่านั้น ส่วนผู้ประกันตนยังไม่มีการขอยื่นกู้ เนื่องจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยไม่มีสาขาที่ 5 จงหวัดชายแดนใต้ แต่ผู้ที่สนใจสามารถส่งหลักฐานขอยื่นกู้ได้ทางอีเมล และหากมีสถานประกอบการและผู้ประกันตนยื่นความประสงค์ขอกู้จำนวนมากก็จะมีการจัดหน่วยเคลื่อนที่ไปตามจุดต่างๆ ส่วนธนาคารกรุงเทพนั้น เชื่อว่า จะมีผู้ขอยื่นกู้จำนวนมาก เพราะมีสาขาอยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการจะสามารถปล่อยกู้ได้ 2,000 ล้านบาทตามเป้าหมายและมีผู้ประกันตนใน 5 จังหวัดภาคใต้ ได้รับประโยชน์กว่า 8.9 แสนคน
