8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพปัดเหตุปลด “หมอสุวัช” พ้น อภ. เป็นเรื่องการเมือง ชี้เพราะบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหายาขาดไม่ได้ ระบุ ผอ. คนใหม่ควรเป็นเภสัชฯ มีบารมีคุมคนในได้ ด้านกรรมการบอร์ด อภ. เผยการประเมินผลทำงาน “หมอสุวัช” ยังไม่เสร็จ แต่ไม่เกี่ยวการเลิกจ้างที่ขาดประสิทธิภาพ
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ในฐานะ 1 ใน 8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพ กล่าวถึงกรณีการปลด นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา จากการเป็นผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ว่า ยืนยันว่า การไปเรียกร้องให้ตรวจสอบการบริหารงานของ นพ.สุวัช ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ไม่ได้มองที่ตัวบุคคล และไม่ได้สนใจว่ามาจากกลุ่มก๊วนใด หรือเป็นคนของฝ่ายการเมืองใด แต่เราสนใจประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของการบริหารงาน เพราะที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ พบปัญหายาต้านไวรัสเอชไอวีไม่เพียงพอ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่ง ผอ.อภ. ไม่สามารถบริหารจัดการแก้ปัญหาในกระบวนการผลิต การบริหารวัตถุดิบต่างๆ ได้ ทั้งในการสั่งซื้อวัตถุดิบ การนำเข้า การผลิตว่าจะเพียงพอต่อผู้ป่วยหรือไม่ ทั้งที่ อภ. เป็นผู้สนับสนุนยารายใหญ่ของรัฐ ไม่น่าจะเกิดปัญหาเช่นนี้ ที่สำคัญยังไปลดการผลิตยาเพื่อปรับปรุงสายการผลิต และหันไปซื้อจากภาคเอกชน ทำให้รายได้ อภ. ลดลงด้วย
นายนิมิตร์ กล่าวว่า การขาดยาไม่ควรเกิดขึ้นในระดับองค์กรเช่นนี้ แต่อาจเป็นเพราะ นพ.สุวัช ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารเชิงธุรกิจ การสรรหา ผอ.อภ.คนใหม่ จึงควรเป็นคนที่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ หากเป็นไปได้อยากให้เป็นเภสัชกรมาบริหารงาน เพราะน่าจะเข้าใจระบบยาได้ดี แต่ต้องเป็นเภสัชกรที่มีฝีมือ บริหารระบบยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญจำเป็นต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กรได้ด้วย คือ มีบารมี ทำงานเข้ากับคนข้างในได้ เป็นที่ยอมรับ ไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหา
นพ.อำพล จินดาวัฒนะ กรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) และกรรมการสรรหา ผอ.อภ. คนใหม่ กล่าวว่า การปลด นพ.สุวัช ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองภายในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เนื่องจากบอร์ด อภ. มีมติพิจารณาจากภาพรวมการทำงาน และการเลิกจ้างก่อนสัญญาก็เป็นไปตามสัญญาที่ว่า หากเลิกจ้างก่อนจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้า 30 วันและจ่ายค่าตอบแทน 6 เดือน ส่วนที่เลิกจ้างครั้งนี้มีเหตุผลว่าต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนความขัดแย้งภายในองค์กรก็ต้องมีผู้บริหารที่ดีที่สามารถจัดการได้ สำหรับการประเมินผลการทำงานของ ผอ.อภ. ต้องบอกว่า ยังไม่เสร็จ เนื่องจากต้องใช้เวลา ซึ่งคนละเรื่องกัน ต้องแยกประเด็นให้ดี เพราะเรื่องการบริหารต้องมองภาพรวมทั้งประเทศ ยิ่งการบริหารจัดการยาให้ผู้ป่วย จะมีปัญหาไม่ได้
“ผมไม่เข้าใจว่าไปคิดเองได้อย่างไรว่า การเลิกจ้าง นพ.สุวัช ไปเชื่อมโยงกับ ผอ.อภ. คนเก่า และยังไปเชื่อมกับการเมืองภายใน สธ. คนละเรื่องโดยสิ้นเชิง อย่าง นพ.สุวัช ก็นับเป็นน้องผม รู้จักกัน ส่วนการสรรหา ผอ.คนใหม่ ยังไม่มีการประชุม ซึ่งต้องเป็นไปตามขั้นตอน” นพ.อำพล กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่