สธ. ยังเฝ้าระวังผู้สัมผัสศพ 27 คน แม้ผลตรวจชัดเจนนักท่องเที่ยวอังกฤษตายไม่เกี่ยวข้องอีโบลา ปรับปรุงมาตรการเฝ้าระวัง เพิ่มแนวทางดำเนินการการชันสูตร และจัดการศพสงสัยติดเชื้ออีโบลา การกำจัดขยะติดเชื้อ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามคนอยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรค ขณะที่ เมอร์ส-โควี ยังไม่เข้าประเทศไทย
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า แม้ผลการตรวจยืนยันนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เสียชีวิตที่ จ.ภูเก็ต จะชัดเจนแล้วว่า ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา แต่ สธ. ได้ใช้มาตรการป้องกันควบคุมโรคขั้นสูงสุด โดยจะติดตามเฝ้าระวังอาการของผู้ที่สัมผัสศพทั้ง 27 คน นับตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 2557 เพื่อความมั่นใจ ซึ่งจะมีการตรวจวัดไข้และสอบถามอาการทุกวันต่อเนื่อง จนครบ 21 วัน จนถึงวันนี้ยังไม่พบรายใดมีอาการผิดปกติ โดยได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมอนามัย เข้าไปทำลายเชื้อและทำความสะอาดที่ห้องพักของผู้เสียชีวิต
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า กรณีที่ภูเก็ตนี้ทำให้ สธ. ได้เรียนรู้ว่าจะต้องมีการปรับปรุงมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น การกำจัดขยะติดเชื้อ การจัดการและดูแลศพผู้เสียชีวิตโดยปลอดภัย รวมทั้งการชันสูตรศพผู้สงสัยติดเชื้ออีโบลา โดยจะจัดทำคู่มือแนวทางการดำเนินงานทั้ง 2 ด้านนี้ให้แก่เจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยชันสูตรศพ หน่วยนิติเวช ใช้ปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. ในฐานะประธานวอร์รูมโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ กล่าวว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกจังหวัด เพิ่มความเข้มงวดในการติดตามเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาให้ได้ครบถ้วนและประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทั้งด่านอากาศ ด่านทางเรือและด่านทางบก เพื่อให้สามารถค้นหาผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว และสามารถควบคุมป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงที โดยในสัปดาห์หน้าจะประชุมทางไกลผ่านวีดีโอกับผู้บริหารสาธารณสุขในพื้นที่ 15 จังหวัดที่มีด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ เพื่อเน้นย้ำมาตรการการป้องกันควบคุมโรคให้เป็นแนวทางเดียวกัน สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลา ยังน่าเป็นห่วง 3 ประเทศ คือ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ร่าลีโอน ยังพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 3 ประเทศ คือ กินี ไลบีเรีย และ เซียร์ราลีโอน สธ. จะคงมาตรการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่กล่าวมา รวมทั้งเซเนกัล ไนจีเรีย และดีอาร์คองโก เมื่อวานนี้มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 35 คน มีผู้ที่ต้องเฝ้าระวังใน 21 วัน จำนวน 24 คน ในภาพรวมคัดกรองสะสม 2,478 คน ยังไม่มีผู้ติดเชื้ออีโบลา
สำหรับการติดตามเฝ้าระวังโรคเมอร์-โควี หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2012 ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นติดตามกลุ่มที่กลับจากการแสวงบุญฮัจญ์ประจำปี 2557 จำนวน 10,149 คน ใน 50 จังหวัด คนละ 15 วัน ซึ่งขณะนี้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วร้อยละ 86 พบผู้มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด 29 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทุกราย พบว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ไม่มีรายใดติดเชื้อเมอร์ส-โควี
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า แม้ผลการตรวจยืนยันนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เสียชีวิตที่ จ.ภูเก็ต จะชัดเจนแล้วว่า ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา แต่ สธ. ได้ใช้มาตรการป้องกันควบคุมโรคขั้นสูงสุด โดยจะติดตามเฝ้าระวังอาการของผู้ที่สัมผัสศพทั้ง 27 คน นับตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 2557 เพื่อความมั่นใจ ซึ่งจะมีการตรวจวัดไข้และสอบถามอาการทุกวันต่อเนื่อง จนครบ 21 วัน จนถึงวันนี้ยังไม่พบรายใดมีอาการผิดปกติ โดยได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมอนามัย เข้าไปทำลายเชื้อและทำความสะอาดที่ห้องพักของผู้เสียชีวิต
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า กรณีที่ภูเก็ตนี้ทำให้ สธ. ได้เรียนรู้ว่าจะต้องมีการปรับปรุงมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น การกำจัดขยะติดเชื้อ การจัดการและดูแลศพผู้เสียชีวิตโดยปลอดภัย รวมทั้งการชันสูตรศพผู้สงสัยติดเชื้ออีโบลา โดยจะจัดทำคู่มือแนวทางการดำเนินงานทั้ง 2 ด้านนี้ให้แก่เจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยชันสูตรศพ หน่วยนิติเวช ใช้ปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. ในฐานะประธานวอร์รูมโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ กล่าวว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกจังหวัด เพิ่มความเข้มงวดในการติดตามเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาให้ได้ครบถ้วนและประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทั้งด่านอากาศ ด่านทางเรือและด่านทางบก เพื่อให้สามารถค้นหาผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว และสามารถควบคุมป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงที โดยในสัปดาห์หน้าจะประชุมทางไกลผ่านวีดีโอกับผู้บริหารสาธารณสุขในพื้นที่ 15 จังหวัดที่มีด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ เพื่อเน้นย้ำมาตรการการป้องกันควบคุมโรคให้เป็นแนวทางเดียวกัน สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลา ยังน่าเป็นห่วง 3 ประเทศ คือ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ร่าลีโอน ยังพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 3 ประเทศ คือ กินี ไลบีเรีย และ เซียร์ราลีโอน สธ. จะคงมาตรการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่กล่าวมา รวมทั้งเซเนกัล ไนจีเรีย และดีอาร์คองโก เมื่อวานนี้มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 35 คน มีผู้ที่ต้องเฝ้าระวังใน 21 วัน จำนวน 24 คน ในภาพรวมคัดกรองสะสม 2,478 คน ยังไม่มีผู้ติดเชื้ออีโบลา
สำหรับการติดตามเฝ้าระวังโรคเมอร์-โควี หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2012 ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นติดตามกลุ่มที่กลับจากการแสวงบุญฮัจญ์ประจำปี 2557 จำนวน 10,149 คน ใน 50 จังหวัด คนละ 15 วัน ซึ่งขณะนี้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วร้อยละ 86 พบผู้มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด 29 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทุกราย พบว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ไม่มีรายใดติดเชื้อเมอร์ส-โควี
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่