“หมอรัชตะ” มอบของขวัญปีใหม่คนไทย สานต่อโครงการพระราชดำริพัฒนางานสาธารณสุขให้คนไทยเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น จัดหมอประจำครอบครัวดูแลทุกครัวเรือนเริ่ม 1 ม.ค. 2558 สร้างความเท่าเทียม 3 กองทุนสุขภาพ
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วย สธ. และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ได้เข้าร่วมประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 21 ต.ค. 2557 โดยมีผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากส่วนกลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และตัวแทน ผอ.โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) จากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
ทั้งนี้ ศ.นพ.รัชตะ ได้อภิปรายนโยบายการดำเนินงานของ สธ. ว่า การดำเนินงานของตนทั้ง 10 ข้อนั้น ถือเป็นการเตรียมของขวัญปีใหม่ 2558 ให้คนไทยได้รับบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1. พัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เช่น ให้หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากท้องทุกคนได้รับยาเสริมไอโอดีนครบ ใน เม.ย. 2558 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ดำเนินการ 19 จังหวัดในภาคอีสานภายใน ม.ค. 2558 ฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คามทูม หัดเยอรมัน ในประชากรเด็กอายุ 2.5-7 ปี ไม่น้อยกว่า 95% ใน พ.ค.- ธ.ค. 2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี บริการรากฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการผู้ด้อยโอกาส 8,400 ราย และให้บริการฟันเทียมผู้สูงอายุ 35,000 ราย ตามโครงการรากฟันเทียม และฟันเทียมพระราชทาน เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ เป็นต้น
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า 2. พัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ทุกคนเข้าถึงบริการ เช่น ทุกพื้นที่ต้องมีหมอประจำครอบครัวดูแลประชาชนทุกครัวเรือนในเขตชนบท โดย รพช. ต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวอย่างต่ำ 100 แห่ง และใน รพท. จะต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งละ 2 คน เพื่อเป็นที่ปรึกษา และประสานส่งต่อ เริ่มดำเนินการวันที่ 1 ม.ค. 2558 การสร้างความกลมกลืนในทุกกองทุนสุขภาพ แต่ไม่ใช่การยุบเป็นกองทุนเดียว แต่จะต้องทำให้สิทธิประโยชน์เท่าเทียม ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ การสร้างเสริมสุขภาวะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง และผู้ป่วยระยะท้ายของชีวิต โดยให้มีผู้ดูแลอย่างพอเพียง จังหวัดละ 1 - 3 อำเภอ ดำเนินการทั้งประเทศใน เม.ย. 2558 ตรวจคัดกรองและผ่าตัดต้อกระจกใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ใน ธ.ค. 2557 และทั่วปรเทศใน ก.ย. 2558 พัฒนาหน่วยดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคองใน รพศ./รพท. ทุกแห่งใน ธ.ค. 2557 ก.ย. 2558
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า 3. สร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตคนไทยทุกช่วงชีวิต โดยกำจัดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพตามกลุ่มวัย 4. สร้างเสริมความเข้มแข็งของกลไกนโยบายสาธารณะเน้นทำงานอย่างมีส่วนร่วม 5. พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการบุคลากรสุขภาพ โดยผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ใช้แรงจูงใจทั้งการเงินและไม่ใช่เงิน วางแผนกำลังคนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทห่างไกล 6. พัฒนาความมั่นคงของระบบยา 7. จัดการโรคติดต่อและภัยคุกคามด้านสุขภาพ โดยให้ห้องปฏิบัติการ รพศ./รพท. ทุกแห่งที่มีสนามบินได้รับการรับรอง DRA ในการตรวจวินิจฉัยโรคติดต่ออุบัติใหม่ ใน ธ.ค. 2557 8. สนับสนุนการพัมนาระบบสุขภาพโลก 9. สนับสนุนการวิจัยสุขภาพอย่างครบวงจร และ 10. สร้างระบบธรรมาภิบาลใน สธ. โดยกำหนดกติกาโยกย้ายที่เป็นรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ กลไกเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยทำให้ สธ. เป็นกระทรวงสีขาว มีแนวทางจัดซื้อจัดจ้างชัดเจน ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอการบริหารงบหองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2558 ซึ่งยังมีความเห็นแตกต่างกัน ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ยังคงยืนยันตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่งการจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2558 ในไตรมาสแรกให้ดำเนินการตามแนวทางเดิมเหมือนปี 2557 ส่วนในไตรมาสสองให้คณะอนุกรรมการพัฒนาการระบบการเงินการคลัง ในบอร์ด สปสช. หารือให้ได้ข้อสรุปใน 2 เดือน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วย สธ. และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ได้เข้าร่วมประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 21 ต.ค. 2557 โดยมีผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากส่วนกลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และตัวแทน ผอ.โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) จากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
ทั้งนี้ ศ.นพ.รัชตะ ได้อภิปรายนโยบายการดำเนินงานของ สธ. ว่า การดำเนินงานของตนทั้ง 10 ข้อนั้น ถือเป็นการเตรียมของขวัญปีใหม่ 2558 ให้คนไทยได้รับบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1. พัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เช่น ให้หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากท้องทุกคนได้รับยาเสริมไอโอดีนครบ ใน เม.ย. 2558 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ดำเนินการ 19 จังหวัดในภาคอีสานภายใน ม.ค. 2558 ฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คามทูม หัดเยอรมัน ในประชากรเด็กอายุ 2.5-7 ปี ไม่น้อยกว่า 95% ใน พ.ค.- ธ.ค. 2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี บริการรากฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการผู้ด้อยโอกาส 8,400 ราย และให้บริการฟันเทียมผู้สูงอายุ 35,000 ราย ตามโครงการรากฟันเทียม และฟันเทียมพระราชทาน เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ เป็นต้น
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า 2. พัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ทุกคนเข้าถึงบริการ เช่น ทุกพื้นที่ต้องมีหมอประจำครอบครัวดูแลประชาชนทุกครัวเรือนในเขตชนบท โดย รพช. ต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวอย่างต่ำ 100 แห่ง และใน รพท. จะต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งละ 2 คน เพื่อเป็นที่ปรึกษา และประสานส่งต่อ เริ่มดำเนินการวันที่ 1 ม.ค. 2558 การสร้างความกลมกลืนในทุกกองทุนสุขภาพ แต่ไม่ใช่การยุบเป็นกองทุนเดียว แต่จะต้องทำให้สิทธิประโยชน์เท่าเทียม ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ การสร้างเสริมสุขภาวะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง และผู้ป่วยระยะท้ายของชีวิต โดยให้มีผู้ดูแลอย่างพอเพียง จังหวัดละ 1 - 3 อำเภอ ดำเนินการทั้งประเทศใน เม.ย. 2558 ตรวจคัดกรองและผ่าตัดต้อกระจกใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ใน ธ.ค. 2557 และทั่วปรเทศใน ก.ย. 2558 พัฒนาหน่วยดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคองใน รพศ./รพท. ทุกแห่งใน ธ.ค. 2557 ก.ย. 2558
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า 3. สร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตคนไทยทุกช่วงชีวิต โดยกำจัดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพตามกลุ่มวัย 4. สร้างเสริมความเข้มแข็งของกลไกนโยบายสาธารณะเน้นทำงานอย่างมีส่วนร่วม 5. พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการบุคลากรสุขภาพ โดยผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ใช้แรงจูงใจทั้งการเงินและไม่ใช่เงิน วางแผนกำลังคนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทห่างไกล 6. พัฒนาความมั่นคงของระบบยา 7. จัดการโรคติดต่อและภัยคุกคามด้านสุขภาพ โดยให้ห้องปฏิบัติการ รพศ./รพท. ทุกแห่งที่มีสนามบินได้รับการรับรอง DRA ในการตรวจวินิจฉัยโรคติดต่ออุบัติใหม่ ใน ธ.ค. 2557 8. สนับสนุนการพัมนาระบบสุขภาพโลก 9. สนับสนุนการวิจัยสุขภาพอย่างครบวงจร และ 10. สร้างระบบธรรมาภิบาลใน สธ. โดยกำหนดกติกาโยกย้ายที่เป็นรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ กลไกเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยทำให้ สธ. เป็นกระทรวงสีขาว มีแนวทางจัดซื้อจัดจ้างชัดเจน ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอการบริหารงบหองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2558 ซึ่งยังมีความเห็นแตกต่างกัน ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ยังคงยืนยันตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่งการจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2558 ในไตรมาสแรกให้ดำเนินการตามแนวทางเดิมเหมือนปี 2557 ส่วนในไตรมาสสองให้คณะอนุกรรมการพัฒนาการระบบการเงินการคลัง ในบอร์ด สปสช. หารือให้ได้ข้อสรุปใน 2 เดือน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น