สกอ.สั่งปิดสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า “ปทุมวัน” 3 วัน และวิศวกรรมโยธา-ลอจิสติกส์ “อุเทนถวาย” 9 วัน เชือดเหตุเปิดศึกทะเลาะวิวาท ย้ำ นศ.ยิ่งแห่ตีกันมากยิ่งปิดนานขึ้นแบบคูณ 3 ระบุหากไม่รู้สาขาวิชาจะปิดทั้งสถาบัน ขู่เสียชีวิตปิดยาว 1 ภาคเรียน - 1 ปีการศึกษา เล็งจับปฐมนิเทศร่วมกันแก้ปัญหา ปรับเครื่องแบบใส่ชุดเหมือนกัน
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ได้เชิญ ผศ.สืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย รศ.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และผู้บริหารทั้งสองสถาบันมาร่วมหารือกรณีนักศึกษาทั้งสองสถาบันก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยเมื่อเวลา 10.30 น. รศ.นพ.กำจรเปิดเผยภายหลังหารือว่า สกอ.ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษาทั้งสองสถาบัน โดยนักศึกษาจากสถาบันฯ ปทุมวันได้ขึ้นรถประจำทางสาย 29 จากหมอชิต เมื่อมาถึงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีนักศึกษาจากอุเทนถวายขึ้นมาบนรถจำนวน 3 คน จากนั้นมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ตำรวจสามารถจับนักศึกษาที่ก่อเหตุได้ 4 คน เป็นนักศึกษาสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันฯ ปทุมวัน 1 คน นักศึกษาอุเทนถวาย 3 คน แบ่งเป็นสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา 1 คน และสาขาลอจิสติกส์ 2 คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เนื่องจากนักศึกษาทั้งสองฝ่ายให้การต่างกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย
รศ.นพ.กำจรกล่าวว่า ตนได้รายงานเรื่องนี้ต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ก็สั่งให้ดำเนินการตามนโยบายที่ตกลงกันไว้ จึงได้เชิญผู้บริหารทั้งสองสถาบันมารับทราบข้อมูล โดยขอให้ทั้งสองสถาบันปิดการเรียนการสอนในสาขาวิชาที่นักศึกษาก่อเหตุเรียนอยู่ โดยให้สถาบันฯ ปทุมวัน ปิดสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าชั้นปีที่ 1-4 เป็นเวลา 3 วัน ส่วนอุเทนถวายให้ปิดสาขาวิศวกรรมโยธา และสาขาลอจิสติกส์ ชั้นปีที่ 1-4 เช่นกัน เป็นเวลา 9 วัน เนื่องจากไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุก่อน สำหรับมาตรฐานในการสั่งปิดนั้นจะดูจากจำนวนนักศึกษาที่ก่อเหตุเป็นหลัก คือยิ่งมีนักศึกษาก่อเหตุมากก็จะยิ่งปิดการเรียนการสอนนานขึ้น โดยกรณีนี้ยึดการปิดการเรียนการสอน 3 วันเป็นหลัก ทำให้อุเทนถวายที่มีนักศึกษาก่อเหตุ 3 คน จึงถูกปิดการเรียนการสอนนานกว่าเป็นเวลา 9 วัน
“มาตรการการปิดการเรียนการสอนนี้เชื่อว่าจะทำให้เด็กหลาบจำ และไม่ให้เกิดการซ่องสุมรวมตัวกันเพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่การแก้แค้นภายหลัง ส่วนจะเริ่มปิดตั้งแต่วันใดและจะดำเนินการอย่างไรกับนักศึกษาเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยที่จะต้องไปดูแล สำหรับสาเหตุที่เลือกใช้มาตรการปิดเฉพาะสาขาแทนการปิดสถาบันเพราะรู้สึกเห็นใจนักศึกษาที่ตั้งใจเรียน ซึ่งการปิดการเรียนการสอนในครั้งนี้จะมีนักศึกษาทุกชั้นปีของสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันฯปทุมวัน ได้รับผลกระทบ 70 คน ส่วนนักศึกษาทุกชั้นปีของสาขาวิศวกรรมโยธา และสาขาลอจิสติกส์ อุเทนถวายรวมกัน 700 คน แต่นี่เป็นมาตรการที่เบาที่สุดแล้ว ดังนั้น ถ้านักศึกษาไม่ต้องการให้มีการปิดการเรียนการสอน แต่ละสาขาก็ต้องช่วยดูแลกันเอง ไม่ให้เกิดการยกพวกตีกันอีก อย่างไรก็ตาม หากไม่ทราบว่าเด็กที่ก่อเหตุเรียนอยู่สาขาใด ก็ต้องสั่งปิดทั้งสถาบัน หากถึงขั้นเสียชีวิตก็ต้องปิดอย่างน้อย 1 ภาคเรียนถึง 1 ปีการศึกษา ซึ่งทำให้นักศึกษาเดือดร้อนมากขึ้นไปอีก แต่หากทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุก่อนก็จะสั่งปิดเพียงสถาบันนั้น” เลขาธิการ กกอ.กล่าว
รศ.นพ.กำจรกล่าวว่า มาตรการสั่งปิดการเรียนการสอนเป็นมาตรการขั้นต้น ส่วนมาตรการระยะยาวได้มีการหารือไประดับหนึ่งแล้ว โดยขอดูรูปแบบการแก้ปัญหาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งจะให้เด็กมาทำกิจกรรมร่วมกัน ในปีการศึกษาหน้า แต่ระดมศึกษาที่มีปัญหามีแค่อุเทนถวายกับปทุมวัน ดังนั้นในปีการศึกษาหน้าจะให้มีการปฐมนิเทศร่วมกัน และมีแนวคิดที่จะให้ทั้งสองสถาบันแต่งเครื่องแบบนักศึกษาเหมือนกัน ทั้งเข็มสัญลักษณ์ และเข็มขัด แต่ก็ต้องไปพิจารณาข้อดีข้อเสีย เพราะอาจจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนพ. แล้ว และเห็นด้วยกับมาตรการปิดสถาบันชั่วคราวตามที่ กกอ.ได้ชี้แจงไป ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้ไว้ ทั้งนี้ หากทั้ง 2 สถาบันยังก่อเหตุไม่เลิก คุยไม่รู้เรื่อง ก็จะมีการทบทวนมาตรการที่เด็ดขาดขึ้นเรื่อยๆ หากมีการบาดเจ็บ เสียชีวิต และมีผลกระทบถึงบุคคลที่ 3 ก็ต้องใช้มาตรการรุนแรงขึ้น แต่การปิดสถาบันไปเลยนั้นรวมถึงการงดรับนักเรียนนักศึกษาในปีต่อไปนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมาตรการที่นำมาใช้ต้องไม่ให้กระทบนักเรียนนักศึกษาคนอื่นๆ ส่วนมาตรการระยะยาวนั้นโครงการเตรียมอาชีวะศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานักเรียนตีกันได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ได้เชิญ ผศ.สืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย รศ.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และผู้บริหารทั้งสองสถาบันมาร่วมหารือกรณีนักศึกษาทั้งสองสถาบันก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยเมื่อเวลา 10.30 น. รศ.นพ.กำจรเปิดเผยภายหลังหารือว่า สกอ.ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษาทั้งสองสถาบัน โดยนักศึกษาจากสถาบันฯ ปทุมวันได้ขึ้นรถประจำทางสาย 29 จากหมอชิต เมื่อมาถึงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีนักศึกษาจากอุเทนถวายขึ้นมาบนรถจำนวน 3 คน จากนั้นมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ตำรวจสามารถจับนักศึกษาที่ก่อเหตุได้ 4 คน เป็นนักศึกษาสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันฯ ปทุมวัน 1 คน นักศึกษาอุเทนถวาย 3 คน แบ่งเป็นสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา 1 คน และสาขาลอจิสติกส์ 2 คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เนื่องจากนักศึกษาทั้งสองฝ่ายให้การต่างกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย
รศ.นพ.กำจรกล่าวว่า ตนได้รายงานเรื่องนี้ต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ก็สั่งให้ดำเนินการตามนโยบายที่ตกลงกันไว้ จึงได้เชิญผู้บริหารทั้งสองสถาบันมารับทราบข้อมูล โดยขอให้ทั้งสองสถาบันปิดการเรียนการสอนในสาขาวิชาที่นักศึกษาก่อเหตุเรียนอยู่ โดยให้สถาบันฯ ปทุมวัน ปิดสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าชั้นปีที่ 1-4 เป็นเวลา 3 วัน ส่วนอุเทนถวายให้ปิดสาขาวิศวกรรมโยธา และสาขาลอจิสติกส์ ชั้นปีที่ 1-4 เช่นกัน เป็นเวลา 9 วัน เนื่องจากไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุก่อน สำหรับมาตรฐานในการสั่งปิดนั้นจะดูจากจำนวนนักศึกษาที่ก่อเหตุเป็นหลัก คือยิ่งมีนักศึกษาก่อเหตุมากก็จะยิ่งปิดการเรียนการสอนนานขึ้น โดยกรณีนี้ยึดการปิดการเรียนการสอน 3 วันเป็นหลัก ทำให้อุเทนถวายที่มีนักศึกษาก่อเหตุ 3 คน จึงถูกปิดการเรียนการสอนนานกว่าเป็นเวลา 9 วัน
“มาตรการการปิดการเรียนการสอนนี้เชื่อว่าจะทำให้เด็กหลาบจำ และไม่ให้เกิดการซ่องสุมรวมตัวกันเพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่การแก้แค้นภายหลัง ส่วนจะเริ่มปิดตั้งแต่วันใดและจะดำเนินการอย่างไรกับนักศึกษาเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยที่จะต้องไปดูแล สำหรับสาเหตุที่เลือกใช้มาตรการปิดเฉพาะสาขาแทนการปิดสถาบันเพราะรู้สึกเห็นใจนักศึกษาที่ตั้งใจเรียน ซึ่งการปิดการเรียนการสอนในครั้งนี้จะมีนักศึกษาทุกชั้นปีของสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันฯปทุมวัน ได้รับผลกระทบ 70 คน ส่วนนักศึกษาทุกชั้นปีของสาขาวิศวกรรมโยธา และสาขาลอจิสติกส์ อุเทนถวายรวมกัน 700 คน แต่นี่เป็นมาตรการที่เบาที่สุดแล้ว ดังนั้น ถ้านักศึกษาไม่ต้องการให้มีการปิดการเรียนการสอน แต่ละสาขาก็ต้องช่วยดูแลกันเอง ไม่ให้เกิดการยกพวกตีกันอีก อย่างไรก็ตาม หากไม่ทราบว่าเด็กที่ก่อเหตุเรียนอยู่สาขาใด ก็ต้องสั่งปิดทั้งสถาบัน หากถึงขั้นเสียชีวิตก็ต้องปิดอย่างน้อย 1 ภาคเรียนถึง 1 ปีการศึกษา ซึ่งทำให้นักศึกษาเดือดร้อนมากขึ้นไปอีก แต่หากทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุก่อนก็จะสั่งปิดเพียงสถาบันนั้น” เลขาธิการ กกอ.กล่าว
รศ.นพ.กำจรกล่าวว่า มาตรการสั่งปิดการเรียนการสอนเป็นมาตรการขั้นต้น ส่วนมาตรการระยะยาวได้มีการหารือไประดับหนึ่งแล้ว โดยขอดูรูปแบบการแก้ปัญหาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งจะให้เด็กมาทำกิจกรรมร่วมกัน ในปีการศึกษาหน้า แต่ระดมศึกษาที่มีปัญหามีแค่อุเทนถวายกับปทุมวัน ดังนั้นในปีการศึกษาหน้าจะให้มีการปฐมนิเทศร่วมกัน และมีแนวคิดที่จะให้ทั้งสองสถาบันแต่งเครื่องแบบนักศึกษาเหมือนกัน ทั้งเข็มสัญลักษณ์ และเข็มขัด แต่ก็ต้องไปพิจารณาข้อดีข้อเสีย เพราะอาจจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนพ. แล้ว และเห็นด้วยกับมาตรการปิดสถาบันชั่วคราวตามที่ กกอ.ได้ชี้แจงไป ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้ไว้ ทั้งนี้ หากทั้ง 2 สถาบันยังก่อเหตุไม่เลิก คุยไม่รู้เรื่อง ก็จะมีการทบทวนมาตรการที่เด็ดขาดขึ้นเรื่อยๆ หากมีการบาดเจ็บ เสียชีวิต และมีผลกระทบถึงบุคคลที่ 3 ก็ต้องใช้มาตรการรุนแรงขึ้น แต่การปิดสถาบันไปเลยนั้นรวมถึงการงดรับนักเรียนนักศึกษาในปีต่อไปนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมาตรการที่นำมาใช้ต้องไม่ให้กระทบนักเรียนนักศึกษาคนอื่นๆ ส่วนมาตรการระยะยาวนั้นโครงการเตรียมอาชีวะศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานักเรียนตีกันได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น