บอร์ด กช. เห็นชอบแพกเกจอุ้มโรงเรียนเอกชน เจียดงบจัดซื้อแท็บเล็ตเดิมให้ ร.ร. เอกชน ซื้ออุปกรณ์ไอซีที พร้อมจัดสรรงบให้ ไม่เกิน 120 คน ซื้ออุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมเพื่อรับชมรายการจาก ร.ร.วังไกลกังวล ทั้งจัดงบให้โรงเรียนเอกชนในเขตภัยพิบัติ ซ่อมแซมอาคารเรียนที่ได้รับความเสียหาย
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า สืบเนื่องจาก ฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เห็นชอบการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 - 2557 โครงการจัดซื้อแท็บเล็ตของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มาเป็นจัดสรรเงินให้โรงเรียนเอกชน ทำไปจัดซื้อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำมาใช้พัฒนาการจัดการเรียนการสอน และได้มอบให้ทาง สช. ไปจัดทำหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินในส่วนนี้ให้กับโรงเรียนเอกชน ซึ่งการประชุมดังกล่าว ที่ประชุมเห็นชอบร่างประกาศ กช. เรื่องหลักเกณฑ์วิธีการให้เงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ สช. ได้นำเสนอ
“หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเป็นการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่โรงเรียนที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษาตอนต้น ที่มีระบบประกันคุณภาพภายในแต่ขาดแคลนครุภัณฑ์และอุปกรณ์ ได้จัดซื้อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอน โดย สช. จะกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางของครุภัณฑ์/อุปกรณ์ จากนั้นโรงเรียนต่างๆ สามารถยื่นขอรับเงินอุดหนุนต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือ สช. จังหวัดได้ อย่างไรก็ตาม การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในครั้งนี้ ไม่ได้จัดหาเพื่อแจกแก่นักเรียน แต่ใช้เป็นส่วนกลางของโรงเรียน จึงควรคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับและความคุ้มค่ากับงบประมาณ รวมทั้งมีความโปร่งใสในการดำเนินการ ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษา (สพป.) สช.จังหวัด จะเป็นหน่วยงานหลักที่จะต้องดำเนินการตรวจติดตามและประเมินผลการจัดซื้อของโรงเรียน” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น สช. จะจัดสรรงบประมาณเพื่อให้โรงเรียนเอกชนได้จัดซื้อชุดอุปกรณ์รับสัญญาณการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมจาก ร.ร.วังไกลกังวล พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือ ร.ร. ที่ประสบภัยพิบัติด้วย สช. จึงได้ยกร่างระเบียบในการพิจารณาจัดสรรเงินขึ้นและเสนอให้ ที่ประชุม กช. ให้ความเห็นชอบ โดยในส่วนของร่างประกาศ กช. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการให้เงินอุดหนุนโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในโรงเรียนเอกชนนั้น สช. จะให้เงินอุดหนุนแก่โรงเรียนที่เปิดสอนไม่เกินระดับประถมศึกษาและมีนักเรียนไม่เกิน 120 คน และเป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์จัดการศึกษาเพื่อผู้ยากไร้โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา เช่น โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจน โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนการกุศลของวัด โรงเรียนการศึกษาพิเศษ หรือการศึกษาสงเคราะห์ ฯลฯ ส่วน ร่างประกาศ กช. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการขอรับเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคารเรียน อาคารประกอบ หรือสถานที่ใช้สำหรับจัดการเรียนการสอน อุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการศึกษานั้น โรงเรียนที่จะได้รับการอุดหนุน คือ เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติจากทางราชการ และอาคารเรียน หรืออาคารประกอบ หรือสถานที่ที่ใช้สำหรับจัดการเรียนการสอน รวมทั้งอุปกรณ์และครุภัณฑ์ได้รับความเสียหาย จากเหตุแผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย
“ทั้ง 3 หลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว ได้กำหนดเงื่อนไขว่าโรงเรียนจะต้องการนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนการดำเนินงาน หากโรงเรียนใดมีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนผิดพลาด หรือโดยไม่มีสิทธิ หรือทำการทุจริต ในการขอรับเงินอุดหนุนทั้ง 3 หลักเกณฑ์ดังกล่าว จะต้องถูกเรียกเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี และถูกดำเนินคดีอาญาและคดีอื่นตามที่กฎหมายกำหนดแก่ผู้กระทำความผิดด้วย” รมว.ศธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า สืบเนื่องจาก ฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เห็นชอบการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 - 2557 โครงการจัดซื้อแท็บเล็ตของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มาเป็นจัดสรรเงินให้โรงเรียนเอกชน ทำไปจัดซื้อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำมาใช้พัฒนาการจัดการเรียนการสอน และได้มอบให้ทาง สช. ไปจัดทำหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินในส่วนนี้ให้กับโรงเรียนเอกชน ซึ่งการประชุมดังกล่าว ที่ประชุมเห็นชอบร่างประกาศ กช. เรื่องหลักเกณฑ์วิธีการให้เงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ สช. ได้นำเสนอ
“หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเป็นการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่โรงเรียนที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษาตอนต้น ที่มีระบบประกันคุณภาพภายในแต่ขาดแคลนครุภัณฑ์และอุปกรณ์ ได้จัดซื้อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอน โดย สช. จะกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางของครุภัณฑ์/อุปกรณ์ จากนั้นโรงเรียนต่างๆ สามารถยื่นขอรับเงินอุดหนุนต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือ สช. จังหวัดได้ อย่างไรก็ตาม การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในครั้งนี้ ไม่ได้จัดหาเพื่อแจกแก่นักเรียน แต่ใช้เป็นส่วนกลางของโรงเรียน จึงควรคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับและความคุ้มค่ากับงบประมาณ รวมทั้งมีความโปร่งใสในการดำเนินการ ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษา (สพป.) สช.จังหวัด จะเป็นหน่วยงานหลักที่จะต้องดำเนินการตรวจติดตามและประเมินผลการจัดซื้อของโรงเรียน” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น สช. จะจัดสรรงบประมาณเพื่อให้โรงเรียนเอกชนได้จัดซื้อชุดอุปกรณ์รับสัญญาณการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมจาก ร.ร.วังไกลกังวล พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือ ร.ร. ที่ประสบภัยพิบัติด้วย สช. จึงได้ยกร่างระเบียบในการพิจารณาจัดสรรเงินขึ้นและเสนอให้ ที่ประชุม กช. ให้ความเห็นชอบ โดยในส่วนของร่างประกาศ กช. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการให้เงินอุดหนุนโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในโรงเรียนเอกชนนั้น สช. จะให้เงินอุดหนุนแก่โรงเรียนที่เปิดสอนไม่เกินระดับประถมศึกษาและมีนักเรียนไม่เกิน 120 คน และเป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์จัดการศึกษาเพื่อผู้ยากไร้โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา เช่น โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจน โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนการกุศลของวัด โรงเรียนการศึกษาพิเศษ หรือการศึกษาสงเคราะห์ ฯลฯ ส่วน ร่างประกาศ กช. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการขอรับเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคารเรียน อาคารประกอบ หรือสถานที่ใช้สำหรับจัดการเรียนการสอน อุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการศึกษานั้น โรงเรียนที่จะได้รับการอุดหนุน คือ เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติจากทางราชการ และอาคารเรียน หรืออาคารประกอบ หรือสถานที่ที่ใช้สำหรับจัดการเรียนการสอน รวมทั้งอุปกรณ์และครุภัณฑ์ได้รับความเสียหาย จากเหตุแผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย
“ทั้ง 3 หลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว ได้กำหนดเงื่อนไขว่าโรงเรียนจะต้องการนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนการดำเนินงาน หากโรงเรียนใดมีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนผิดพลาด หรือโดยไม่มีสิทธิ หรือทำการทุจริต ในการขอรับเงินอุดหนุนทั้ง 3 หลักเกณฑ์ดังกล่าว จะต้องถูกเรียกเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี และถูกดำเนินคดีอาญาและคดีอื่นตามที่กฎหมายกำหนดแก่ผู้กระทำความผิดด้วย” รมว.ศธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น