“กำจร” การันตี อธิการปทุมวัน ไม่เคยเสนอยุบสถาบัน มีเพียงเสนอขอเปิดวิทยาเขตที่ จ.พิจิตร เท่านั้น ชี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด วอนทุกฝ่ายหันมาร่วมมือแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาการทะเลาะวิวาท ซึ่งสังคมจับตามอง
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ศิษย์เก่าของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน รวมตัวสอบถามข้อข้องใจกับ รศ.ดร.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันฯ ทั้งในเรื่องการบริหารงาน การเสียชีวิตของนักศึกษา รวมทั้งกระแสการเสนอยุบและย้ายสถาบันฯ ไปอยู่ที่ จ.พิจิตร โดยทางศิษย์เก่าอ้างว่าได้สอบถามไปยังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พบว่าอธิการบดี ได้ทำหนังสือขอยุบและย้ายสถาบันฯ ไปยัง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร จริง จึงมาขอให้อธิการบดีชี้แจงให้เกิดความชัดเจน รวมทั้งเรียกร้องให้ รศ.ดร.ปัญญา ลาออกจากตำแหน่งโดยให้เวลาตัดสินใจ 3 วัน หากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องจะล่ารายชื่อ 1,000 รายชื่อยื่นสภาสถาบันฯ ถอดถอนออกจากตำแหน่ง ว่า ตนรับทราบเรื่องดังกล่าวในเบื้องต้นแล้ว อธิการบดี ต้องหารือกับสภาสถาบันฯ เพราะอำนาจการตัดสินใจต่างๆ อยู่ที่สภาสถาบันฯ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเข้าใจถึงประเด็นความไม่พอใจของศิษย์เก่า แต่เรื่องนี้อาจเป็นความเข้าใจผิดในเรื่องการสื่อสาร โดยยืนยันว่า นายปัญญา ไม่ได้เสนอยุบสถาบันฯ แต่เสนอโครงการจัดตั้งวิทยาเขต ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนสอนของสถาบันฯให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น
เลขาธิการ กกอ. กล่าวต่อว่า ส่วนการเข้าพบ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น เพื่อขอรับนโยบายรวมทั้งเสนอของบประมาณไปใช้ในการจัดตั้งวิทยาเขต ตามที่มีผู้แสดงความประสงค์บริจาคที่ดินจำนวน 500 ไร่ ที่ จ.พิจิตร ให้สถาบันฯ ซึ่งในระหว่างการพูดคุย ข้อดี ข้อเสีย จึงเกิดแนวคิดการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบโรงเรียนประจำ เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาทักษะฝีมือ โดยไม่ได้มีประเด็นเรื่องยุบสถาบันแน่นอน
“ถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะหากมีข้อเสนอยุบสถาบันฯ เข้ามาต้องส่งถึง สกอ. และผมก็จะต้องรู้เรื่อง แต่เท่าที่ดูไม่มี จะมีก็แต่เรื่องเสนอขอจัดตั้งวิทยาเขต ดังนั้น จึงอยากขอให้ศิษย์เก่าใจเย็นๆ มาช่วยกันแก้ไขปัญหา รวมทั้งเลิกพูดถึงความเป็นอริกับมหาวิยาลัยเทคโนโลยี (มทร.) ราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และไม่ต้องคิดเรื่องใครต้องยอมลงก่อนกัน วันนี้ควรมาร่วมกันแก้ปัญหาโดยเฉพาะกรณีทะเลาะวิวาท ที่สังคมกำลังจับตามอง เพราะที่ผ่านมาเห็นชัดเจนแล้วว่า มีแต่ความเสียหาย อุเทนฯเองแทนที่จะได้อยู่อย่างสงบก็ต้องหวาดระแวง ส่วนปทุมวันฯ แทนที่จะได้งบประมาณไปพัฒนาการศึกษา มามีปัญหาเช่นนี้ก็อาจจะไม่ได้งบฯ ผลกระทบก็เกิดกับรุ่นน้อง หรือเด็กใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ต่อไปก็ศิษย์ก็อาจจะต้องระดมเงินเพื่อมาช่วยพัฒนามหาวิทยาลัยเอง”รศ.นพ.กำจร กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ศิษย์เก่าของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน รวมตัวสอบถามข้อข้องใจกับ รศ.ดร.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันฯ ทั้งในเรื่องการบริหารงาน การเสียชีวิตของนักศึกษา รวมทั้งกระแสการเสนอยุบและย้ายสถาบันฯ ไปอยู่ที่ จ.พิจิตร โดยทางศิษย์เก่าอ้างว่าได้สอบถามไปยังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พบว่าอธิการบดี ได้ทำหนังสือขอยุบและย้ายสถาบันฯ ไปยัง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร จริง จึงมาขอให้อธิการบดีชี้แจงให้เกิดความชัดเจน รวมทั้งเรียกร้องให้ รศ.ดร.ปัญญา ลาออกจากตำแหน่งโดยให้เวลาตัดสินใจ 3 วัน หากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องจะล่ารายชื่อ 1,000 รายชื่อยื่นสภาสถาบันฯ ถอดถอนออกจากตำแหน่ง ว่า ตนรับทราบเรื่องดังกล่าวในเบื้องต้นแล้ว อธิการบดี ต้องหารือกับสภาสถาบันฯ เพราะอำนาจการตัดสินใจต่างๆ อยู่ที่สภาสถาบันฯ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเข้าใจถึงประเด็นความไม่พอใจของศิษย์เก่า แต่เรื่องนี้อาจเป็นความเข้าใจผิดในเรื่องการสื่อสาร โดยยืนยันว่า นายปัญญา ไม่ได้เสนอยุบสถาบันฯ แต่เสนอโครงการจัดตั้งวิทยาเขต ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนสอนของสถาบันฯให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น
เลขาธิการ กกอ. กล่าวต่อว่า ส่วนการเข้าพบ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น เพื่อขอรับนโยบายรวมทั้งเสนอของบประมาณไปใช้ในการจัดตั้งวิทยาเขต ตามที่มีผู้แสดงความประสงค์บริจาคที่ดินจำนวน 500 ไร่ ที่ จ.พิจิตร ให้สถาบันฯ ซึ่งในระหว่างการพูดคุย ข้อดี ข้อเสีย จึงเกิดแนวคิดการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบโรงเรียนประจำ เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาทักษะฝีมือ โดยไม่ได้มีประเด็นเรื่องยุบสถาบันแน่นอน
“ถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะหากมีข้อเสนอยุบสถาบันฯ เข้ามาต้องส่งถึง สกอ. และผมก็จะต้องรู้เรื่อง แต่เท่าที่ดูไม่มี จะมีก็แต่เรื่องเสนอขอจัดตั้งวิทยาเขต ดังนั้น จึงอยากขอให้ศิษย์เก่าใจเย็นๆ มาช่วยกันแก้ไขปัญหา รวมทั้งเลิกพูดถึงความเป็นอริกับมหาวิยาลัยเทคโนโลยี (มทร.) ราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และไม่ต้องคิดเรื่องใครต้องยอมลงก่อนกัน วันนี้ควรมาร่วมกันแก้ปัญหาโดยเฉพาะกรณีทะเลาะวิวาท ที่สังคมกำลังจับตามอง เพราะที่ผ่านมาเห็นชัดเจนแล้วว่า มีแต่ความเสียหาย อุเทนฯเองแทนที่จะได้อยู่อย่างสงบก็ต้องหวาดระแวง ส่วนปทุมวันฯ แทนที่จะได้งบประมาณไปพัฒนาการศึกษา มามีปัญหาเช่นนี้ก็อาจจะไม่ได้งบฯ ผลกระทบก็เกิดกับรุ่นน้อง หรือเด็กใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ต่อไปก็ศิษย์ก็อาจจะต้องระดมเงินเพื่อมาช่วยพัฒนามหาวิทยาลัยเอง”รศ.นพ.กำจร กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น