จี้ ก.คลัง แก้ พ.ร.บ.สุรา คุมปัญหาเหล้าปั่น - ร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ตามมติ ครม. เสนอร้านเหล้าห่างมหาวิทยาลัย 300 เมตร เพิ่มกฎเหล็กห้ามขายเหล้าปั่นทุกชนิด
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่กระทรวงการคลัง เวลา 10.30 น. นายปรากฎการณ์ วัฒนสาร เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ นำกลุ่มนักเรียน นักศึกษา จากหลายสถาบัน ในนามเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอฮอล์ เครือข่ายเยาวชนงดเหล้า รวม 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเรียกร้องให้แก้กฎกระทรวงว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตฯตาม พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบมหาวิทยาลัยในรัศมี 300 เมตร รวมถึงแก้ไขอายุจากเดิมห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้เป็น 20 ปี และแก้ พ.ร.บ.สุราฯ มาตรา 23 เพิ่มเติมห้ามขายเหล้าปั่นทุกชนิด เนื่องจากเป็นการมอมเมาเยาวชนเพิ่มจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้มารับเรื่องแทน
นายปรากฎการณ์ กล่าวว่า ปัญหาร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยมีมานานกลายเป็นปัญหาเรื้อรังโดยไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังกว่า 6 ปีแล้ว ที่เครือข่ายเยาวชนฯพยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการควบคุมด้วยการจัดโซนนิ่ง เพื่อให้ยากต่อการเข้าถึงและยับยั้งการมอมเมาเยาวชน ป้องกันการเกิดนักดื่มหน้าใหม่ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หากลงพื้นที่รอบสถานศึกษาจะพบว่าแทบทุกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดหลังเลิกเรียนจะมีกลุ่มนักดื่มที่อยู่ในเครื่องแบบนักศึกษาเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และยิ่งเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ร้านจะแน่นไปจนดึกหรือบางร้านเปิดจนสว่าง
นายปรากฎการณ์ กล่าวว่า หากย้อนดูข้อมูลศูนย์วิจัยปัญหาสุราปี 2552 พบว่า ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แทบทุกมหาวิทยาลัยมีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล้อมรอบในรัศมี 500 เมตร เฉลี่ย 57 ร้านต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ลดลงแต่อย่างใดขณะเดียวกันเมื่อสำรวจร้านเหล้าผับบาร์จะทำบรรยากาศตกแต่งร้านให้สะดุดตา มีป้ายไฟมีข้อความจูงใจ ที่สำคัญ มีการจัดโปรโมชันเรียกลูกค้า เช่น มาก่อน 3 ทุ่ม ซื้อ 1 ขวด แถม 1 ขวด ผู้หญิงมา 4 คนก่อน 3 ทุ่ม รับเหล้าฟรี 1 ขวด เป็นต้น นอกจากนี้ เครือข่ายเยาวชนฯยังเคยสำรวจพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษาทั้งหญิงและชายพบว่า เกินครึ่งหรือ 55% ให้เหตุผลในการดื่มเหล้าเบียร์เพราะเข้าถึงง่าย ร้านเหล้าอยู่ใกล้หอพัก และใกล้สถานศึกษา หากสังเกตรอบสถานศึกษาพบว่าร้านเหล้ามากกว่าร้านหนังสือหรือลานกีฬาด้วยซ้ำ
“จากการประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุดที่ให้ควบคุมปัญหาเหล้าปั่น และร้านเหล้ารอบสถานศึกษาอย่างจริงจัง รวมถึงนายกรัฐมนตรีได้มีการพูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติต่อเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เครือข่ายเยาวชนฯเริ่มมีความหวังว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมองเห็นปัญหาและต้องการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น เพื่อขานรับแนวทางของคณะรัฐมนตรี กระทรวงการคลังต้องเร่งแก้กฎหมายดังต่อไปนี้ 1. แก้ไขกฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในรัศมี 300 เมตร และแก้ไขอายุจากเดิมห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็น 20 ปี สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และ 2. แก้ไข พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ควบคุมความหนาแน่นของร้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มโทษร้านที่ขายโดยไม่มีใบอนุญาต และกำหนดห้ามขายเหล้าปั่นทุกชนิด เนื่องจากเป็นการมอมเมาเยาวชนและเพิ่มจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนว่า แอลกอฮอล์ทำลายสมอง โดยเฉพาะพัฒนาการของเด็กและเยาวชน แต่สังคมไทยปล่อยให้เยาวชนซื้อได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาที ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกปล่อยปละละเลยขนาดนี้” นายปรากฎการณ์ กล่าว
ด้านนายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า จะให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังลงพื้นที่สำรวจร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ซึ่งในเดือน ต.ค. คือ ช่วงต่ออายุการออกใบอนุญาต คงต้องดูความเหมาะสมและนำปัญหาต่างๆมาร่วมพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม ยินดีรับข้อเสนอของเครือข่ายเยาวชนฯไปพิจารณาโดยเฉพาะเรื่องการจัดโซนนิ่งร้านเหล้าห่างจากสถานศึกษา 300 เมตร
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่กระทรวงการคลัง เวลา 10.30 น. นายปรากฎการณ์ วัฒนสาร เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ นำกลุ่มนักเรียน นักศึกษา จากหลายสถาบัน ในนามเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอฮอล์ เครือข่ายเยาวชนงดเหล้า รวม 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเรียกร้องให้แก้กฎกระทรวงว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตฯตาม พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบมหาวิทยาลัยในรัศมี 300 เมตร รวมถึงแก้ไขอายุจากเดิมห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้เป็น 20 ปี และแก้ พ.ร.บ.สุราฯ มาตรา 23 เพิ่มเติมห้ามขายเหล้าปั่นทุกชนิด เนื่องจากเป็นการมอมเมาเยาวชนเพิ่มจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้มารับเรื่องแทน
นายปรากฎการณ์ กล่าวว่า ปัญหาร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยมีมานานกลายเป็นปัญหาเรื้อรังโดยไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังกว่า 6 ปีแล้ว ที่เครือข่ายเยาวชนฯพยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการควบคุมด้วยการจัดโซนนิ่ง เพื่อให้ยากต่อการเข้าถึงและยับยั้งการมอมเมาเยาวชน ป้องกันการเกิดนักดื่มหน้าใหม่ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หากลงพื้นที่รอบสถานศึกษาจะพบว่าแทบทุกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดหลังเลิกเรียนจะมีกลุ่มนักดื่มที่อยู่ในเครื่องแบบนักศึกษาเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และยิ่งเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ร้านจะแน่นไปจนดึกหรือบางร้านเปิดจนสว่าง
นายปรากฎการณ์ กล่าวว่า หากย้อนดูข้อมูลศูนย์วิจัยปัญหาสุราปี 2552 พบว่า ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แทบทุกมหาวิทยาลัยมีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล้อมรอบในรัศมี 500 เมตร เฉลี่ย 57 ร้านต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ลดลงแต่อย่างใดขณะเดียวกันเมื่อสำรวจร้านเหล้าผับบาร์จะทำบรรยากาศตกแต่งร้านให้สะดุดตา มีป้ายไฟมีข้อความจูงใจ ที่สำคัญ มีการจัดโปรโมชันเรียกลูกค้า เช่น มาก่อน 3 ทุ่ม ซื้อ 1 ขวด แถม 1 ขวด ผู้หญิงมา 4 คนก่อน 3 ทุ่ม รับเหล้าฟรี 1 ขวด เป็นต้น นอกจากนี้ เครือข่ายเยาวชนฯยังเคยสำรวจพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษาทั้งหญิงและชายพบว่า เกินครึ่งหรือ 55% ให้เหตุผลในการดื่มเหล้าเบียร์เพราะเข้าถึงง่าย ร้านเหล้าอยู่ใกล้หอพัก และใกล้สถานศึกษา หากสังเกตรอบสถานศึกษาพบว่าร้านเหล้ามากกว่าร้านหนังสือหรือลานกีฬาด้วยซ้ำ
“จากการประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุดที่ให้ควบคุมปัญหาเหล้าปั่น และร้านเหล้ารอบสถานศึกษาอย่างจริงจัง รวมถึงนายกรัฐมนตรีได้มีการพูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติต่อเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เครือข่ายเยาวชนฯเริ่มมีความหวังว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมองเห็นปัญหาและต้องการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น เพื่อขานรับแนวทางของคณะรัฐมนตรี กระทรวงการคลังต้องเร่งแก้กฎหมายดังต่อไปนี้ 1. แก้ไขกฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในรัศมี 300 เมตร และแก้ไขอายุจากเดิมห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็น 20 ปี สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และ 2. แก้ไข พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ควบคุมความหนาแน่นของร้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มโทษร้านที่ขายโดยไม่มีใบอนุญาต และกำหนดห้ามขายเหล้าปั่นทุกชนิด เนื่องจากเป็นการมอมเมาเยาวชนและเพิ่มจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนว่า แอลกอฮอล์ทำลายสมอง โดยเฉพาะพัฒนาการของเด็กและเยาวชน แต่สังคมไทยปล่อยให้เยาวชนซื้อได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาที ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกปล่อยปละละเลยขนาดนี้” นายปรากฎการณ์ กล่าว
ด้านนายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า จะให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังลงพื้นที่สำรวจร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ซึ่งในเดือน ต.ค. คือ ช่วงต่ออายุการออกใบอนุญาต คงต้องดูความเหมาะสมและนำปัญหาต่างๆมาร่วมพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม ยินดีรับข้อเสนอของเครือข่ายเยาวชนฯไปพิจารณาโดยเฉพาะเรื่องการจัดโซนนิ่งร้านเหล้าห่างจากสถานศึกษา 300 เมตร
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น