xs
xsm
sm
md
lg

3 เด็กอนุบาลเก่งที่สุดในไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สิ้นสุดไปแล้วกับการแข่งขัน “TKAT Season 3” ชิงถ้วยประทานจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกร รัศมีโชติ จัดโดยเว็บไซต์ ถามครู.com ซึ่งเป็นการแข่งขันทดสอบความถนัดทางการเรียนรู้แบบปรับระดับอัตโนมัติ (Adaptive Test) สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2-7 ขวบ โดยเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา นางวิมลพร พันธุมนตรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้มาเป็นประธานในงานมอบรางวัลการแข่งขัน
ด.ญ.พนัสรมย์ ศรีศุภอรรถ
โดยผลการแข่งขันเด็กที่เก่งที่สุดในประเทศไทย แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1.ระดับอนุบาล คือ ด.ญ.พนัสรมย์ ศรีศุภอรรถ อายุ 4 ขวบ จากโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา ทำคะแนนได้ 86.61 คะแนน 2. ระดับเตรียมเข้าประถมศึกษา ด.ช.ปัณณทัต เมธาจรัส อายุ 5 ขวบ จากโรงเรียนอนุบาลโรจน์จิราภา ทำคะแนนได้ 107.35 คะแนน และ 3.ระดับชั้นประถมต้น ด.ช.ธฤษณัช วรรณะพาหุณ อายุ 6 ขวบ จากโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ทำคะแนนได้ 106.35 คะแนน

นางวิมลพร กล่าวว่า การแข่งขันดังกล่าวนักวิชาการของทางถามครูได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น มีจำนวนข้อสอบมากกว่า 400,000 ข้อ โดยมีเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 20,000 คน
ด.ช.ปัณณทัต เมธาจรัส
ด้าน ดร.ม.ล.จันทร์กฤษณา ผลวิวัฒน์ บรรณาธิการเว็บไซต์ถามครู.com กล่าวว่า แบบทดสอบ TKAT ใช้หลักการสร้างชุดแบบทดสอบตามมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับแบบทดสอบ SAT GMAT GRE ฯลฯ ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก โดยแบบทดสอบ TKAT แต่ละชุดจะมีการออกแบบให้เหมาะสมกับความสามารถของเด็กแต่ละคน ซึ่งจะใช้แบบทดสอบต่างชุดกัน โดยมีการคัดเลือกข้อสอบที่มีความยากเหมาะสมกับระดับความสามารถของเด็กที่สอบเป็นรายบุคคล ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่คัดเลือกข้อสอบบนพื้นฐานของผลการตอบข้อสอบในข้อที่ผ่านมาของเด็ก ซึ่งเมื่อเด็กได้ทำข้อสอบในชุดแรกแล้ว ระบบจะวิเคราะห์และประเมินผลระดับความสามารถของเด็ก เพื่อจะคัดเลือกข้อสอบที่เหมาะสมข้อต่อไป โดยมีหลักเกณฑ์ว่าถ้าเด็กตอบข้อสอบถูกต้องข้อสอบถัดไปจะยากขึ้น แต่ถ้าเด็กตอบผิดข้อสอบถัดไปก็จะง่ายลง ซึ่งภายในการแข่งขันครั้งนี้
ด.ช.ธฤษณัช วรรณะพาหุณ
ดร.ม.ล.จันทร์กฤษณา กล่าวว่า ทางฝ่ายวิจัยการศึกษาของแอปพลิเคชัน Taamkru ได้มีการทำวิจัยในหัวข้อ “อันดับ และความฉลาดของเด็กไทยในยุคการเข้าสู่ AEC” โดยใช้ฐานข้อมูลจากเยาวชนอายุ 3-6 ปีทั่วทวีปเอเชีย จำนวน 34,000 คน ที่ได้เข้ามาใช้แอปพลิเคชัน ซึ่งจากภาพรวมของเด็กปฐมวัยในประเทศไทยพบว่า 1. มีความฉลาดด้านคณิตศาสตร์ ร้อยละ 65 2. มีความฉลาดด้านวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 63 3. มีความฉลาดด้านภาษาอังกฤษ ร้อยละ 74 และ 4. มีความฉลาดด้านไอคิว ร้อยละ 69

และเมื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับเด็กปฐมวัยในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน พบว่า 1. ด้านคณิตศาสตร์ ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 4 รองจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และ เวียดนาม 2. ด้านวิทยาศาสตร์ อยู่อันดับที่ 4 รองจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย 3.ด้านไอคิว ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และ 4.ด้านภาษาอังกฤษ ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 5 รั้งท้ายสุด โดยมีประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นผู้ได้อันดับที่ 1-4

นอกจากนี้ ทางฝ่ายวิจัยการศึกษายังได้พบว่า การทำแบบฝึกหัดของ Taamkru เพียง 10 นาทีต่อวัน นานติดต่อกัน 15 วัน จะทำให้เด็กไทยได้คะแนนสูงเพิ่มมากขึ้นถึง 26.8% โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.taamkru.com และ www.facebook.com/taamkru

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่

Loading

เครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น

View on Instagram




กำลังโหลดความคิดเห็น