ผงะ! คนไทยมีเซ็กซ์กว่า 30 ล้านคน แต่การตรวจเลือดหาเชื้อเอดส์ต่ำมาก แค่หลักแสน ชี้ตรวจเร็ว รักษาเร็วช่วยลดการแพร่เชื้อ เอ็นจีโอเอดส์จ่อดันชุมชนมีส่วนช่วยตรวจเอดส์ และชุดตรวจเอดส์ขาย ไม่เฉพาะใน รพ. เท่านั้น
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า เป้าหมายการทำงานลดเอดส์ให้เหลือศูนย์ สิ่งสำคัญคือกระตุ้นให้ประชาชนเข้าถึงบริการ ซึ่งปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่า หากตรวจเชื้อเร็ว และเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็ว สามารถป้องกันการแพร่เชื้อได้ โดยที่ผ่านมาได้ทำโครงการเอดส์ รู้เร็ว รักษาได้ จากข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พบว่า มีประชาชนมาขอรับการตรวจเลือดเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในหลักแสนเท่านั้น ยังห่างไกลเป้าหมาย หากคิดจากตัวเลขการมีเพศสัมพันธ์แล้วมีประมาณ 30 ล้านคน ควรจะได้รับการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวีอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต โดยแต่ละปีควรมีการตรวจอย่างน้อยร้อยละ 10
นายนิมิตร์ กล่าวว่า การตรวจหาเชื้อเอชไอวี ปัจจุบันยังต้องทำการตรวจหาในสถานพยาบาล ซึ่งกำลังมีการผลักดันให้เกิดการตรวจในชุมชน โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมทำให้เกิดการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้น โดยปีก่อนได้ทดลองทำโครงการตรวจเลือดในชุมชน 90 แห่ง สามารถตรวจไปได้ประมาณ 4,000 คน อย่างไรก็ตาม บางประเทศเริ่มมีการอนุญาตให้ประชาชนสามารถซื้อชุดตรวจแบบรวดเร็วเพื่อตรวจด้วยตัวเองได้แล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา อนุญาตให้ขายชุดตรวจที่ใช้วิธีการป้ายในกระพุงแก้ม ซึ่งสามารถให้ผลใกล้เคียงกว่าร้อยละ 90 ส่วนประเทศไทย ยังไม่อนุญาต เนื่องจากติดประเด็นแง่วิชาชีพ สามารถใช้ชุดตรวจแบบรวดเร็วได้แค่ในสถานพยาบาลเท่านั้น
“ชุดตรวจแบบรวดเร็วพัฒนามาเป็นเวลานานแล้ว โดยใช้วิธีหยดเลือดจากปลายนิ้วลงบนชุดตรวจหากผลเป็นลบหมายถึงไม่ติดเชื้อ แต่หากให้ผลบวกจะต้องทำการตรวจอีก 3 ครั้งจาก 3 ยี่ห้อเพื่อยืนยันผล โดยประสิทธิภาพในการตรวจถือว่าสูง อย่างไรก็ตาม จะมีการผลักดันชุดตรวจนี้ต่อไปในอนาคต เพราะการตรวจหาเชื้อให้ทราบผลเร็ว และเข้าสู่กระบวนการรักษารวดเร็วพบว่า เมื่อรับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องในปีแรก ก็แทบจะตรวจหาเชื้อไม่พบและทำให้ลดการแพร่เชื้อลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายนิมิตร์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่