ผุดโครงการ Be Sure ปรึกษาคุมกำเนิด วางแผนครอบครัว ลดการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ให้วัยรุ่นและประชาชน ผ่านร้านขายยาทั่วประเทศ
วันนี้ (24 ก.ย.) นพ.ณัฐพร วงษ์ศุทธิภากร รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลัง แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Be Sure ปรึกษาได้ มั่นใจชัวร์ ว่า เป็นการให้ความรู้การคุมกำเนิดผ่านร้านขายยาทั่วประเทศที่ผ่านการอบรมจากกรมอนามัย ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งให้ความรู้และการปรึกษาเรื่องการวางแผนครอบครัว ตลอดจนวิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง เนื่องจากประเทศไทยมีร้านขายยากระจายในเขตต่างๆ ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพจากร้านยาได้ง่าย ซึ่งจากการเก็บข้อมูลปี 2556 พบว่าร้านขายยาเป็นแหล่งที่ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดเข้ามาหาข้อมูลมากที่สุดกว่าร้อยละ 70
นพ.ณัฐพร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันวัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น และอายุน้อยลงเรื่อยๆ เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ตามมา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ได้ป้องกันร้อยละ 46 คุมกำเนิดไม่สม่ำเสมอ ร้อยละ 28 เหตุที่ไม่คุมกำเนิด เนื่องจากขาดความรู้ในการคุมกำเนิด ร้อยละ 9 และเข้าใจผิดคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียวอาจไม่ตั้งครรภ์ หรือหากใช้ถุงยางจะขัดขวางความรู้สึกทางเพศ และไม่รู้ว่าตนเองจะมีโอกาสตั้งครรภ์เมื่อใด นอกจากนี้ วัยรุ่นยังไม่กล้าเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับบริการคุมกำเนิด ส่งผลให้วัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงบริการคุมกำเนิด ซึ่งในปี 2556 มีเด็กวัยรุ่นอายุ 10 - 19 ปี คลอดบุตรเฉลี่ยวันละ 334 คน โดยวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปีคลอดบุตรวันละ 9 คน เปรียบเทียบกับปี 2543 พบว่าวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี คลอดบุตรเฉลี่ยวันละ 240 คน ในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี คลอดบุตรวันละ 4 คน และในปีเดียวกัน (ปี 2556) พบว่าจำนวนหญิงคลอดอายุต่ำกว่า 20 ปี มีจำนวน 125,371 คน โดยแยกเป็นหญิงคลอดอายุระหว่าง 15 - 19 ปี มีจำนวน121,956 ราย หญิงคลอดอายุต่ำกว่า 15 ปี มีจำนวน 3,415 ราย และพบว่าหญิงตั้งครรภ์ซ้ำและคลอด อายุต่ำกว่า 20 ปี มีถึง 15,295 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.1
“โครงการนี้ จะทำให้ร้านขายยาเป็นสื่อกลางและเป็นช่องทางหนึ่งที่ประชาชนจะเข้าถึงการบริการคุมกำเนิด ผู้ปฏิบัติงานในร้านสามารถให้ความรู้ และคำแนะนำเกี่ยวกับการคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย โดยจัดอบรมด้านให้คำปรึกษาเรื่องการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในร้านขายยา และมีการจัดทำคู่มือให้การปรึกษาด้านการวางแผนครอบครัว ทั้งนี้ จะมีการมอบประกาศนียบัตรและสัญลักษณ์โครงการติดหน้าร้านที่ผ่านการอบรม ซึ่งตั้งเป้าหมายเป็นร้านขายยาทั่วไปที่มี เภสัชกรปฏิบัติหน้าที่ประจำร้านจำนวน 1,000 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2558” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (24 ก.ย.) นพ.ณัฐพร วงษ์ศุทธิภากร รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลัง แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Be Sure ปรึกษาได้ มั่นใจชัวร์ ว่า เป็นการให้ความรู้การคุมกำเนิดผ่านร้านขายยาทั่วประเทศที่ผ่านการอบรมจากกรมอนามัย ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งให้ความรู้และการปรึกษาเรื่องการวางแผนครอบครัว ตลอดจนวิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง เนื่องจากประเทศไทยมีร้านขายยากระจายในเขตต่างๆ ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพจากร้านยาได้ง่าย ซึ่งจากการเก็บข้อมูลปี 2556 พบว่าร้านขายยาเป็นแหล่งที่ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดเข้ามาหาข้อมูลมากที่สุดกว่าร้อยละ 70
นพ.ณัฐพร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันวัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น และอายุน้อยลงเรื่อยๆ เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ตามมา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ได้ป้องกันร้อยละ 46 คุมกำเนิดไม่สม่ำเสมอ ร้อยละ 28 เหตุที่ไม่คุมกำเนิด เนื่องจากขาดความรู้ในการคุมกำเนิด ร้อยละ 9 และเข้าใจผิดคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียวอาจไม่ตั้งครรภ์ หรือหากใช้ถุงยางจะขัดขวางความรู้สึกทางเพศ และไม่รู้ว่าตนเองจะมีโอกาสตั้งครรภ์เมื่อใด นอกจากนี้ วัยรุ่นยังไม่กล้าเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับบริการคุมกำเนิด ส่งผลให้วัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงบริการคุมกำเนิด ซึ่งในปี 2556 มีเด็กวัยรุ่นอายุ 10 - 19 ปี คลอดบุตรเฉลี่ยวันละ 334 คน โดยวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปีคลอดบุตรวันละ 9 คน เปรียบเทียบกับปี 2543 พบว่าวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี คลอดบุตรเฉลี่ยวันละ 240 คน ในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี คลอดบุตรวันละ 4 คน และในปีเดียวกัน (ปี 2556) พบว่าจำนวนหญิงคลอดอายุต่ำกว่า 20 ปี มีจำนวน 125,371 คน โดยแยกเป็นหญิงคลอดอายุระหว่าง 15 - 19 ปี มีจำนวน121,956 ราย หญิงคลอดอายุต่ำกว่า 15 ปี มีจำนวน 3,415 ราย และพบว่าหญิงตั้งครรภ์ซ้ำและคลอด อายุต่ำกว่า 20 ปี มีถึง 15,295 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.1
“โครงการนี้ จะทำให้ร้านขายยาเป็นสื่อกลางและเป็นช่องทางหนึ่งที่ประชาชนจะเข้าถึงการบริการคุมกำเนิด ผู้ปฏิบัติงานในร้านสามารถให้ความรู้ และคำแนะนำเกี่ยวกับการคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย โดยจัดอบรมด้านให้คำปรึกษาเรื่องการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในร้านขายยา และมีการจัดทำคู่มือให้การปรึกษาด้านการวางแผนครอบครัว ทั้งนี้ จะมีการมอบประกาศนียบัตรและสัญลักษณ์โครงการติดหน้าร้านที่ผ่านการอบรม ซึ่งตั้งเป้าหมายเป็นร้านขายยาทั่วไปที่มี เภสัชกรปฏิบัติหน้าที่ประจำร้านจำนวน 1,000 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2558” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่