“ณรงค์” สั่ง ศธ.เข้มงวด นร.-นศ.ฝึกวินัยเพิ่มขึ้นแก้ปัญหาเด็กตีกัน ขณะที่ สช.เตรียมเรียก 18 อาชีวะเอกชนในกทม.ปริมมณฑล รับทราบมาตรการแก้ไขปัญหาวิวาท และสั่งปิดสถานศึกษาที่ก่อเหตุทันที 3-7 วันตามนโยบายนายกฯ
วันนี้ (19 ก.ย.) นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 22 กันยายนนี้ จะเชิญวิทยาลัยอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงประมาณ 6 โรงและวิทยาลัยอาชีวะเอกชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ตั้งอยู่ใกล้วิทยาลัยกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งหมด 18 โรงมาประชุมร่วมกันเวลา 09.00 น.ที่อาคารสำนักงานชั่วคราวของ สช.โรงเรียนโยนออฟอาร์ค เพื่อซักซ้อมมาตรการแก้ไขปัญหานักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาท ที่ได้ปรับใหม่ตามแนวทางชอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยสาระสำคัญของเกณฑ์ที่ปรับใหม่ คือ เมื่อนักศึกษาของโรงเรียนใดก่อเหตุจะถูกปิดการเรียนการสอนทันที ตั้งแต่ 3-7 วันระหว่างที่มีการสอบสวนหากโรงเรียนไม่สามารถทำแผนป้องกันเหตุให้ผ่านการพิจารณาของ สช.ได้ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เปิด ขณะเดียวกัน ถ้าโรงเรียนใดเป็นฝ่ายก่อเหตุครบ 3 ครั้งต่อปีให้งดรับนักศึกษาในปีการศึกษาถัดไป
ด้าน นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ในการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง พล.ร.อ.ณรงค์ และผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.วันนี้ (19 ก.ย.) รมว.ศึกษาธิการ ได้ย้ำถึงการป้องกันปัญหานักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีกครั้งและรมว.ศึกษาธิการได้ให้ความเห็นในที่ประชุมว่าควรมีการฝึกระเบียบวินัยให้แก่นักเรียน นักศึกษาเพิ่มขึ้นเพราะปัจจุบันวินัยของนักเรียน นักศึกษาค่อนข้างย่อหย่อน เด็กจึงทำอะไรไม่ยั้งคิด อาทิเช่น ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน เพราะฉะนั้นจะต้องเข้มงวดระเบียบวินัย ซึ่งตนได้ย้ำไปทาง สช.แล้วว่าถ้าโรงเรียนใดก่อเหตุครบ 3ครั้งให้งดรับนักศึกษาในปีถัดไป แต่ทันทีที่เกิดเหตุให้ปิดการเรียนการสอน 3-7 วันโดยเป็นอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาสั่งปิดได้ทันทีและให้รายงานมายัง สช.
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (19 ก.ย.) นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 22 กันยายนนี้ จะเชิญวิทยาลัยอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงประมาณ 6 โรงและวิทยาลัยอาชีวะเอกชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ตั้งอยู่ใกล้วิทยาลัยกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งหมด 18 โรงมาประชุมร่วมกันเวลา 09.00 น.ที่อาคารสำนักงานชั่วคราวของ สช.โรงเรียนโยนออฟอาร์ค เพื่อซักซ้อมมาตรการแก้ไขปัญหานักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาท ที่ได้ปรับใหม่ตามแนวทางชอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยสาระสำคัญของเกณฑ์ที่ปรับใหม่ คือ เมื่อนักศึกษาของโรงเรียนใดก่อเหตุจะถูกปิดการเรียนการสอนทันที ตั้งแต่ 3-7 วันระหว่างที่มีการสอบสวนหากโรงเรียนไม่สามารถทำแผนป้องกันเหตุให้ผ่านการพิจารณาของ สช.ได้ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เปิด ขณะเดียวกัน ถ้าโรงเรียนใดเป็นฝ่ายก่อเหตุครบ 3 ครั้งต่อปีให้งดรับนักศึกษาในปีการศึกษาถัดไป
ด้าน นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ในการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง พล.ร.อ.ณรงค์ และผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.วันนี้ (19 ก.ย.) รมว.ศึกษาธิการ ได้ย้ำถึงการป้องกันปัญหานักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีกครั้งและรมว.ศึกษาธิการได้ให้ความเห็นในที่ประชุมว่าควรมีการฝึกระเบียบวินัยให้แก่นักเรียน นักศึกษาเพิ่มขึ้นเพราะปัจจุบันวินัยของนักเรียน นักศึกษาค่อนข้างย่อหย่อน เด็กจึงทำอะไรไม่ยั้งคิด อาทิเช่น ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน เพราะฉะนั้นจะต้องเข้มงวดระเบียบวินัย ซึ่งตนได้ย้ำไปทาง สช.แล้วว่าถ้าโรงเรียนใดก่อเหตุครบ 3ครั้งให้งดรับนักศึกษาในปีถัดไป แต่ทันทีที่เกิดเหตุให้ปิดการเรียนการสอน 3-7 วันโดยเป็นอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาสั่งปิดได้ทันทีและให้รายงานมายัง สช.
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
