แพทย์ชี้พระเกจิชื่อดังละสังขารในโลง เป็นการฆ่าตัวตาย เหตุรู้ดีขาดอากาศ-น้ำ-อาหาร อย่างไรก็ต้องเสียชีวิต ย้ำคนทั่วไปที่รู้แต่ไม่ช่วย มีความผิดทางอาญา โทษจำคุก 1 เดือน
จากกรณีหลวงปู่ธนวัฒน์ สิริพิมโพ หรือ “หลวงปู่พิม” เจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน จ.ชัยภูมิ พระเกจิชื่อดังภาคอีสานเตรียมละสังขารคืนนี้เวลา 21.00 น. ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิด โดยเลือกละสังขารที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างกุฏิภายในวัด ด้วยการเข้าไปนอนภาวนาภายในโลงที่เตรียมไว้ โดยสั่งห้ามทุกคนเข้าบริเวณกุฏิจนกว่าจะครบ 3 วัน คือเวลา 13.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย. ทั้งนี้ จะมีพุทธศาสนิกชนและลูกศิษย์แห่มาร่วมทำบุญด้วยนั้น
วันนี้ (9 ก.ย.) ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ในทางการแพทย์ถือว่าการเข้าไปนอนภาวนาในโลงที่ปิดแน่นเช่นนี้ถือเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเมื่อเข้าไปนอนภาวนาในโลงแล้วไม่มีอากาศ ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร อย่างไรก็ต้องเสียชีวิต แต่เจตนาของเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวันถือเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่คงไม่สามารถตอบได้ แต่ที่แน่ชัดคือผู้ที่รับรู้ว่าท่านจะเข้าไปนอนภาวนาในโลง รู้ว่าเข้าไปนอนอย่างไรก็ต้องเสียชีวิตแน่ แต่กลับไม่ช่วย ถือว่ามีความผิดทางอาญา คือมาตรา 374 ที่ระบุว่า ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเข้าไปนอนอยู่ในโลงที่ปิดสนิทจะเสียชีวิตด้วยการขาดออกซิเจน เพราะร่างกายสามารถขาดน้ำได้ 1-2 วัน ขาดอาหารได้เป็นอาทิตย์ แต่ขาดออกซิเจนได้ไม่นานก็เสียชีวิตได้ ยิ่งในโลงที่ปิดแน่นเชื่อว่าคงเหลือออกซิเจนอยู่ไม่กี่ชั่วโมง โดยอาการขาดออกซิเจนจะเริ่มจากหน้ามืด เหมือนเวลาถูกคนอื่นบีบคอ จากนั้นจะหมดสติ เนื่องจากออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงสมอง ซึ่งเป็นศูนย์สั่งการร่างกาย ทำให้ศูนย์ควบคุมการหายใจไม่ทำงาน ก็จะหยุดหายใจและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งปกติถ้าขาดออกซิเจนประมาณ 8-9 นาที ยังพอช่วยชีวิตได้ แต่หากขาดออกซิเจนเกิน 10 นาทีขึ้นไปคงไม่สามารถช่วยได้
** เข้าข่ายอุตริหรือไม่
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ชัยภูมิ หารือกับเจ้าคณะปกครองว่า การที่พระสงฆ์ออกมาประกาศละสังขารเข้าข่ายอวดอุตริมนุษยธรรมหรือไม่ มีนัยอะไรแอบแฝง ซึ่งโดยปกติแล้ว หากพระรูปใดจะละสังขารส่วนใหญ่ ก็จะไม่มีการป่าวประกาศออกสื่อมวลชนหรือให้คณะลูกศิษย์ได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม คงจะต้องจับตาดูว่า ในคืนนี้เวลา 21.00 น. จะมีเหตุการณ์ตามที่ประกาศหรือไม่ หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงต้องให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
จากกรณีหลวงปู่ธนวัฒน์ สิริพิมโพ หรือ “หลวงปู่พิม” เจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน จ.ชัยภูมิ พระเกจิชื่อดังภาคอีสานเตรียมละสังขารคืนนี้เวลา 21.00 น. ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิด โดยเลือกละสังขารที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างกุฏิภายในวัด ด้วยการเข้าไปนอนภาวนาภายในโลงที่เตรียมไว้ โดยสั่งห้ามทุกคนเข้าบริเวณกุฏิจนกว่าจะครบ 3 วัน คือเวลา 13.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย. ทั้งนี้ จะมีพุทธศาสนิกชนและลูกศิษย์แห่มาร่วมทำบุญด้วยนั้น
วันนี้ (9 ก.ย.) ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ในทางการแพทย์ถือว่าการเข้าไปนอนภาวนาในโลงที่ปิดแน่นเช่นนี้ถือเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเมื่อเข้าไปนอนภาวนาในโลงแล้วไม่มีอากาศ ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร อย่างไรก็ต้องเสียชีวิต แต่เจตนาของเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวันถือเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่คงไม่สามารถตอบได้ แต่ที่แน่ชัดคือผู้ที่รับรู้ว่าท่านจะเข้าไปนอนภาวนาในโลง รู้ว่าเข้าไปนอนอย่างไรก็ต้องเสียชีวิตแน่ แต่กลับไม่ช่วย ถือว่ามีความผิดทางอาญา คือมาตรา 374 ที่ระบุว่า ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเข้าไปนอนอยู่ในโลงที่ปิดสนิทจะเสียชีวิตด้วยการขาดออกซิเจน เพราะร่างกายสามารถขาดน้ำได้ 1-2 วัน ขาดอาหารได้เป็นอาทิตย์ แต่ขาดออกซิเจนได้ไม่นานก็เสียชีวิตได้ ยิ่งในโลงที่ปิดแน่นเชื่อว่าคงเหลือออกซิเจนอยู่ไม่กี่ชั่วโมง โดยอาการขาดออกซิเจนจะเริ่มจากหน้ามืด เหมือนเวลาถูกคนอื่นบีบคอ จากนั้นจะหมดสติ เนื่องจากออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงสมอง ซึ่งเป็นศูนย์สั่งการร่างกาย ทำให้ศูนย์ควบคุมการหายใจไม่ทำงาน ก็จะหยุดหายใจและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งปกติถ้าขาดออกซิเจนประมาณ 8-9 นาที ยังพอช่วยชีวิตได้ แต่หากขาดออกซิเจนเกิน 10 นาทีขึ้นไปคงไม่สามารถช่วยได้
** เข้าข่ายอุตริหรือไม่
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ชัยภูมิ หารือกับเจ้าคณะปกครองว่า การที่พระสงฆ์ออกมาประกาศละสังขารเข้าข่ายอวดอุตริมนุษยธรรมหรือไม่ มีนัยอะไรแอบแฝง ซึ่งโดยปกติแล้ว หากพระรูปใดจะละสังขารส่วนใหญ่ ก็จะไม่มีการป่าวประกาศออกสื่อมวลชนหรือให้คณะลูกศิษย์ได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม คงจะต้องจับตาดูว่า ในคืนนี้เวลา 21.00 น. จะมีเหตุการณ์ตามที่ประกาศหรือไม่ หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงต้องให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่