ศูนย์ข่าวขอนแก่น- เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาชัยภูมิ พร้อม ผกก.คอนสาร เข้าตรวจสอบกรณี “หลวงปู่พิมพ์” นอนในโลงศพอ้างรู้เวลาละสังขารล่วงหน้า หวั่นเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ขณะพระลูกวัด น้องชายหลวงปู่พิม ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา พร้อมอ้างหลวงปู่เป็นโรงเกาต์ เคยนอนในโลงศพถือเคล็ดรักษาตัวมาแล้ว ครั้งนี้หากไม่มรณภาพก็จะทำกิจของสงฆ์ต่อไป หากมรณภาพจริงก็จะเปิดพินัยกรรมตามคำสั่ง
จากกรณีข่าวลือกระฉ่อนหลังจากมีการบอกเล่ากันปากต่อปากว่า หลวงปู่ธนวัฒน์ สิริพิมโพ หรือ “หลวงปู่พิมพ์” เจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชียภูมิ อายุ 65 ปี เตรียมละสังขารในคืนวันที่ 9 ก.ย.นี้ เวลา 21.00 น.และได้เข้าไปนอนในโลงศพ พร้อมกับย้ำไม่ให้ญาติโยมขึ้นไปรบกวน จนกว่าจะถึงเวลา 21.00 น. คืนวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) จนกลายเป็นประเด็นร้อนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย
รายงานข่าวความคืบหน้า ล่าสุด วันนี้ (10 ก.ย.) นายสุนันท์ ศรีสุข เจ้าหน้าที่พุทธศาสนา จ.ชัยภูมิ และ พ.ต.อ.พงศ์ศักดิ์ สุขอิ่ม ผกก.สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พร้อมคณะได้เดินทางไปที่วัดเวฬุวัน ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร ตามคำสั่งของสำนักพุทธศาสนา ให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อเดินทางมาถึงที่ศาลาการเปรียญด้านล่าง ทางคณะลูกศิษย์ได้พยายามพูดคุยอธิบายถึงเจตนาของหลวงปู่พิมพ์ ก่อนที่จะยินยอมให้คณะขึ้นไปบนศาลากุฏิ โดยมีพระมหาบัว ปิยวณุโณ พระลูกวัดซึ่ง เป็นน้องชายของหลวงปู่พิมพ์ พาขึ้นไป
หลังจากขึ้นไปได้ประมาณ 15 นาที นายสุนันท์ พร้อมคณะได้ลงมาด้านล่าง และได้กล่าวเพียงสั้นๆ แก่ชาวบ้านที่มารอฟังข่าว และสังเกตการณ์ว่า สาเหตุที่มาในครั้งนี้เพื่อมาตรวจดูความเรียบร้อยว่าเข้าข่ายเป็นการหลอกลวง เป็นกลุ่มมิจฉาชีพหรือไม่
ส่วนที่ขึ้นไปที่กุฏิหลวงปู่พิมพ์ ทำได้แค่มองผ่านช่องโลงศพด้านข้างเท่านั้น พบว่ามีคนนอนอยู่ภายในในท่านอนตะแคง ไม่ได้เข้าไปเปิดฝาโลงดู หรือรบกวนหลวงปู่แต่อย่างใด ตามคำขอร้องขอญาติโยม
พระมหาบัว ปิยวณุโณ พระลูกวัดน้องชายของหลวงปู่พิมพ์ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลวงปู่พิมพ์ ป่วยเป็นโรคเกาต์ และลำไส้มานาน หมอให้ยามารับประทานก็ไม่หาย หลวงปู่เลยเลิกทานยา และตั้งใจปฏิบัติฌาญสมาบัติ 4 ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ทั้งนี้ หลวงปู่เคยทำลักษณะนี้มาแล้วคือ นอนในโลงศพ แบบไม่ฉันอะไรเลย นอกจากน้ำมาแล้ว 7 วัน โดยห้ามคนไปยุ่งเหมือนกับครั้งนี้ และหลวงปู่ก็ไม่ตาย อาการป่วยต่างๆ ก็ดีขึ้น
ในครั้งนี้ก็เช่นกัน หลวงปู่ ก็ตั้งใจจะทำแบบเดิมโดยจะนอนอยู่ภายในโลง 3 วันแบบลักษณะปลงสังขาร และจะไม่ฉันอะไรเลย ไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ หรือรบกวนใดๆ จากนั้นในวันที่ 11 ก.ย. (พรุ่งนี้) เวลา 16.00 น. ให้ขึ้นไปดู หากมรณภาพก็ให้นำร่างไปเผาเวลา 21.00 น. แต่ถ้าไม่มรณภาพ ก็จะดำเนินกิจของสงฆ์ต่อไป
สำหรับที่เป็นข่าวว่าหลวงปู่จะมรณภาพนั้น อาตมาว่ามันยังไม่เกิดขึ้นไม่อยากให้คิด เพราะมันสามารถเป็นไปได้ทั้งสองแนวทาง คือ มรณภาพ และไม่มรณภาพ แต่ถ้ามรณภาพหลวงปู่ก็ได้ทำพินัยกรรมไว้ และจะนำมาเปิดเผยหลังจากที่เผาศพหลวงพ่อเป็นที่เรียบร้อย ส่วนถ้ายังไม่มรณภาพหลวงพ่อก็จะลงมาที่ศาลาการเปรียญ และชี้แจงอธิบายถึงสาเหตุให้ญาติโยมได้รับทราบ
ส่วนเงินที่ได้รับการบริจาค หรือทำบุญตลอดวานนี้ (9 ก.ย.) หลังจากที่เป็นข่าวโด่งดัง ประชาชนพากันมาทำบุญล้นวัดนั้นได้เงินประมาณ 2 แสนบาท อาตมาได้นำไปฝากไว้ที่ธนาคารเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งใจจะนำเงินดังกล่าวไปสร้างสะพานคอนกรีตเข้าหมู่บ้านให้เสร็จตามเจตนาของหลวงปู่พิมพ์
อย่างไรก็ตาม จากการให้สัมภาษณ์ของพระมหาบัวครั้งนี้ สังเกตได้ว่า มีท่าทีคำพูดต่างไปจากการให้สัมภาษณ์ของคณะลูกศิษย์ในวันแรกๆ ก่อนที่จะเป็นข่าวครึกโครมที่ว่าหลวงปู่พิมพ์รู้วันละสังขาร และจะมรณภาพแน่นอน และเมื่อนำโลงศพไปตั้งที่โขดหินไฟจะติดเอง
ส่วนบรรยากาศโดยรวมภายในวัดมีประชาชนนุ่งขาวห่มขาวมาปฏิบัติธรรมเหมือนปกติ และมีญาติโยมส่วนมาพักค้างแรมเพื่อรอดูศพของหลวงปู่พิมพ์ ที่ต่างเชื่อว่ามรณภาพ อยู่ภายในโลงศพ ซึ่งทุกคนจะทราบโดยพร้อมกันคือ เวลา 16.00 น.ของวันพรุ่งนี้