สพฐ. จัดทีมเฉพาะกิจช่วยเหลือ ร.ร. น้ำท่วมที่สุโขทัย ขณะที่ สอศ. ส่งทีม Fix it center เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมซ้ำซาก
วันนี้ (5 ก.ย.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งล่าสุดได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ว่า ในส่วนโรงเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ดูแลความปลอดภัยของนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดย สพฐ. ได้จัดเจ้าหน้าที่พิเศษเป็นชุดเฉพาะกิจลงไปประจำเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเด็กและโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงได้ทันทีเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเพิ่มความรุนแรง ทั้งนี้ ตนยังมอบให้เป็นดุลพินิจของผู้บริหารโรงเรียนเองในการสั่งปิดโรงเรียน ซึ่งขอให้โรงเรียนประเมินสถานการณ์เอาเอง นอกจากนี้โรงเรียนสามารถทำเรื่องแจ้งมายังส่วนกลางในการเสนอของบประมาณซ่อมแซมอาคารเรียนที่เสียหายจากน้ำท่วมได้ โดย สพฐ. จะเร่งจัดงบประมาณช่วยเหลือลงไปให้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 ก.ย. ตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่จังหวัดสุโขทัยด้วย
ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมเพิ่มมากขึ้นในหลายจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จึงสั่งตั้งศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) ขึ้น 36 ศูนย์ พร้อมจัดสรรงบดำเนินการจำนวน 14,730,000 บาท เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ยังสั่งการให้ทุกศูนย์เตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมซ้ำซาก เช่น จ.สุโขทัย จันทบุรี ปราจีนบุรี สงขลา และระนอง เป็นต้น โดยการช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ มีรูปแบบเหมือนทุกครั้ง คือบริการประชาชนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
“เราได้มอบหมายภารกิจหลัก 3 ประการให้ศูนย์ Fix it center ได้ดำเนินการ ภารกิจแรกคือการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากทุกปี อาทิ การทำแนวป้องกัน การจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ การตรวจสอบความปอดภัยของระบบไฟฟ้า และการจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์รถบริการเคลื่อนที่ เป็นต้น ภารกิจต่อมาคือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เช่น การขนย้ายสิ่งของ สูบน้ำออกจากบ้านพัก และจัดหาที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัย เป็นต้น และภารกิจสุดท้ายคือการช่วยเหลือปลังน้ำลด ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือน ซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เครื่องจักรกลการเกษตร เป็นต้น นอกจากนี้ จะจัดฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้นให้กับประชาชน เพื่อประกอบอาชีพใหม่หรือเป็นอาชีพเสริมในช่วงที่ไม่สามารถประกอบอาชีพหลักได้” เลขาธิการ กอศ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (5 ก.ย.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งล่าสุดได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ว่า ในส่วนโรงเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ดูแลความปลอดภัยของนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดย สพฐ. ได้จัดเจ้าหน้าที่พิเศษเป็นชุดเฉพาะกิจลงไปประจำเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเด็กและโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงได้ทันทีเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเพิ่มความรุนแรง ทั้งนี้ ตนยังมอบให้เป็นดุลพินิจของผู้บริหารโรงเรียนเองในการสั่งปิดโรงเรียน ซึ่งขอให้โรงเรียนประเมินสถานการณ์เอาเอง นอกจากนี้โรงเรียนสามารถทำเรื่องแจ้งมายังส่วนกลางในการเสนอของบประมาณซ่อมแซมอาคารเรียนที่เสียหายจากน้ำท่วมได้ โดย สพฐ. จะเร่งจัดงบประมาณช่วยเหลือลงไปให้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 ก.ย. ตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่จังหวัดสุโขทัยด้วย
ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมเพิ่มมากขึ้นในหลายจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จึงสั่งตั้งศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) ขึ้น 36 ศูนย์ พร้อมจัดสรรงบดำเนินการจำนวน 14,730,000 บาท เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ยังสั่งการให้ทุกศูนย์เตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมซ้ำซาก เช่น จ.สุโขทัย จันทบุรี ปราจีนบุรี สงขลา และระนอง เป็นต้น โดยการช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ มีรูปแบบเหมือนทุกครั้ง คือบริการประชาชนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
“เราได้มอบหมายภารกิจหลัก 3 ประการให้ศูนย์ Fix it center ได้ดำเนินการ ภารกิจแรกคือการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากทุกปี อาทิ การทำแนวป้องกัน การจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ การตรวจสอบความปอดภัยของระบบไฟฟ้า และการจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์รถบริการเคลื่อนที่ เป็นต้น ภารกิจต่อมาคือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เช่น การขนย้ายสิ่งของ สูบน้ำออกจากบ้านพัก และจัดหาที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัย เป็นต้น และภารกิจสุดท้ายคือการช่วยเหลือปลังน้ำลด ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือน ซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เครื่องจักรกลการเกษตร เป็นต้น นอกจากนี้ จะจัดฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้นให้กับประชาชน เพื่อประกอบอาชีพใหม่หรือเป็นอาชีพเสริมในช่วงที่ไม่สามารถประกอบอาชีพหลักได้” เลขาธิการ กอศ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
