เอเจนซีส์ - เขตการศึกษาในมลรัฐเวอร์จิเนียสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งเพื่อความปลอดภัยเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) หลังมีเสียงร้องเรียนจากพ่อแม่ผู้ปกครอง กรณีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งให้การบ้านนักเรียนไปหัดเขียนตัวอักษรประดิษฐ์อิสลาม (Islamic Calligraphy) ซึ่งมีความหมายถึงการประกาศตนเป็นมุสลิม
พ่อแม่ส่วนใหญ่เห็นว่า การที่ครูรายนี้สั่งให้นักเรียนหัดเขียนตัวอักษรประดิษฐ์ภาษาอาหรับ เข้าข่ายปลูกฝังความเชื่อให้กับเด็ก
เจ้าหน้าที่ประจำเขตการศึกษาเทศมณฑลออกัสตา ยืนยันว่า คำสั่งปิดโรงเรียนทั่วทั้งเขตเป็นเพียงมาตรการป้องกันล่วงหน้า และไม่ได้รับการข่มขู่แต่อย่างใด ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนก็รับปากว่าจะเปลี่ยนไปใช้บทเรียนอื่นๆ ในอนาคต
สัปดาห์ที่แล้ว นักเรียนของโรงเรียน ริเวอร์เฮดส์ ไฮสกูล ซึ่งกำลังศึกษาวิชาภูมิศาสตร์ตะวันออกกลาง ถูกสั่งการบ้านให้ไปหัดลอกตัวอักษรประดิษฐ์อิสลามที่มีความหมายว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์ และมูฮัมหมัดคือศาสนทูตของอัลเลาะห์”
นักเรียนบางคนปฏิเสธที่จะทำการบ้านข้อนี้ ขณะที่พ่อแม่ก็กล่าวหาครู “เชอรีล ลาปอร์ต” ซึ่งเป็นผู้สั่งการบ้านว่าพยายามปลูกฝังอิสลามให้กับเด็ก และขอให้ทางโรงเรียนไล่เธอออก
“ฉันไม่ไว้ใจให้เธอสอนลูกชายฉัน และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ลูกฉันจะไม่เข้าเรียนกับเธออีกเป็นอันขาด” คิมเบอร์ลี เฮิร์นดอน ผู้ปกครองคนหนึ่งโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ซึ่งคำพูดของเธอถูกกดแชร์ไปแล้วกว่า 300 ครั้ง
เมื่อวันพุธ(16) ทางโรงเรียนได้สั่งปิดประตูใหญ่และเฝ้าจับตาสถานการณ์ เนื่องจากกระแสร้องเรียนทั้งทางโทรศัพท์และอีเมลเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ บ้างก็ใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเกลียดชังอย่างรุนแรง จนในที่สุดทางเขตการศึกษาตัดสินใจสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในวันศุกร์(18)
เจ้าหน้าที่เขตการศึกษายืนยันว่า บทเรียนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้เห็นถึงความซับซ้อนของภาษาอาหรับ ไม่ได้ต้องการปลูกฝังความเชื่อในศาสนาใดๆ แต่ในอนาคตก็จะสั่งให้คณาจารย์ทุกโรงเรียนใช้ตัวอย่างภาษาอาหรับที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาแทน
อย่างไรก็ตาม การสั่งปิดโรงเรียนทั้งเขตการศึกษาด้วยเรื่องเพียงเท่านี้ ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เชิงลบเช่นกัน
“ดูเหมือนความกลัวจะเป็นฝ่ายชนะอีกครั้ง” ชาวบ้านในชุมชนคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ นิวส์ เวอร์จีเนียน
เพจเฟซบุ๊กของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เต็มไปด้วยข้อความโต้เถียงระหว่างคนในพื้นที่เรื่องการสั่งปิดโรงเรียน โดยชายคนหนึ่งกล่าวว่า “บรรพบุรุษของพวกเราคงนอนกระสับกระส่ายอยู่ในสุสาน” ขณะที่อีกคนใช้ถ้อยคำประชดประชันว่า “พวกที่กลัวขึ้นสมองขนาดนี้ เขาเดินออกจากบ้านทุกวันได้อย่างไร”
เหตุวุ่นวายจากการสอนภาษาอาหรับในโรงเรียนครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความหวาดระแวงชาวมุสลิมที่กำลังลุกลามไปทั่วสังคมอเมริกัน หลังเกิดเหตุกราดยิงที่เมืองซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 14 ราย และทางการสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่าเป็น “การก่อการร้าย” ในประเทศที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)