หญิงไทยขี้อาย ไม่กล้าตรวจคัดกรอง “มะเร็งปากมดลูก” ส่งผลป่วยมากอันดับ 2 ของประเทศ กรมอนามัยชวนคัดกรองด้วยวิธี VIA รู้ผลทันที พ่วงใช้กล้องส่องดูปากมดลูก กำลังขยายกว่า 100 เท่า ผลิตโดยหมอสูติฯ ศิริราช ราคา 2 พันบาท เล็งหนุนให้มีทุก รพ.สต.
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โรคมะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทยและทั่วโลก ซึ่งในไทยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,500 รายต่อปี พบผู้ป่วยรายใหม่ 8,000 รายต่อปี สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความอาย ไม่กล้าเข้ารับการตรวจคัดกรอง ทั้งที่หากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันที ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ เข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกัน เมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้ว หรืออายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งวิธีการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มี 2 วิธีคือ 1. แปปสเมียร์ นิยมใช้กันมากที่สุด ใช้เวลา 2 - 5 นาที รู้ผลภายใน 2 - 4 สัปดาห์ และ 2. เวีย (VIA) เป็นวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ รู้ผลทันที กำลังเป็นที่นิยมโดยการใช้น้ำส้มสายชูชนิดเจือจางป้ายที่บริเวณปากมดลูก ทิ้งไว้ 1 นาที น้ำส้มสายชูจะไปทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่ผิดปกติของปากมดลูกให้เห็นเป็นฝ้าขาว ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและรักษาได้ทันทีด้วยการจี้เย็น (Cryotherapy)
นพ.พรเทพ กล่าวว่า การค้นหาสตรีที่ปากมดลูกมีความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เพื่อเข้ารับการรักษาทันที จะได้ผลคุ้มค่ากว่าการรักษาเมื่อเป็นมะเร็ง กรมอนามัย ได้ร่วมมือกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และองค์การ JHPIEGO นำการตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA มาใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก โดยทำการคัดกรองแบบผสมผสานคือ คัดกรองด้วยวิธี VIA ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 30 - 45 ปี ร่วมกับวิธีแปปสเมียร์ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 46 - 60 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่าที่สุด เมื่อเทียบกับการคัดกรองด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งอย่างเดียว และคุ้มค่ามากกว่าการฉีดวัคซีน HPV ซึ่งยังมีราคาแพง
“กรมอนามัย ได้รับกล้องส่องดูปากมดลูก ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ผลิตโดยสูตินรีแพทย์ จากโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นกล้องส่องที่มีกำลังขยายมากกว่า 100 เท่า นำมาเชื่อมติดกับไฟฉาย หากซื้อจากต่างประเทศจะราคาสูงถึง 2 หมื่น - 1 แสนบาท แต่เมื่อประเทศไทยสามารถผลิตเองได้ ทำให้มีราคาเพียง 2 พันบาทเท่านั้น ซึ่งกรมอนามัยได้รับมอบมา 4 ตัว เพื่อทดลองใช้ หากใช้แล้วได้ผลดีกรมอนามัยจะสนับสนุนให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใช้กล้องดังกล่าว เพื่อให้การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทำได้ดีขึ้น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันมีหญิงไทยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA แล้วกว่า 600,000 ราย กรมฯจึงขยายการดำเนินงานไปยังจังหวัดต่างๆ ได้แก่ ร้อยเอ็ด หนองคาย อำนาจเจริญ ยโสธร มุกดาหาร เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ลพบุรี สระแก้ว สระบุรี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง สตูล ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ภายใต้ความร่วมมือของศูนย์อนามัยเขต 12 แห่ง ต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โรคมะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทยและทั่วโลก ซึ่งในไทยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,500 รายต่อปี พบผู้ป่วยรายใหม่ 8,000 รายต่อปี สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความอาย ไม่กล้าเข้ารับการตรวจคัดกรอง ทั้งที่หากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันที ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ เข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกัน เมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้ว หรืออายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งวิธีการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มี 2 วิธีคือ 1. แปปสเมียร์ นิยมใช้กันมากที่สุด ใช้เวลา 2 - 5 นาที รู้ผลภายใน 2 - 4 สัปดาห์ และ 2. เวีย (VIA) เป็นวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ รู้ผลทันที กำลังเป็นที่นิยมโดยการใช้น้ำส้มสายชูชนิดเจือจางป้ายที่บริเวณปากมดลูก ทิ้งไว้ 1 นาที น้ำส้มสายชูจะไปทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่ผิดปกติของปากมดลูกให้เห็นเป็นฝ้าขาว ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและรักษาได้ทันทีด้วยการจี้เย็น (Cryotherapy)
นพ.พรเทพ กล่าวว่า การค้นหาสตรีที่ปากมดลูกมีความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เพื่อเข้ารับการรักษาทันที จะได้ผลคุ้มค่ากว่าการรักษาเมื่อเป็นมะเร็ง กรมอนามัย ได้ร่วมมือกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และองค์การ JHPIEGO นำการตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA มาใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก โดยทำการคัดกรองแบบผสมผสานคือ คัดกรองด้วยวิธี VIA ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 30 - 45 ปี ร่วมกับวิธีแปปสเมียร์ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 46 - 60 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่าที่สุด เมื่อเทียบกับการคัดกรองด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งอย่างเดียว และคุ้มค่ามากกว่าการฉีดวัคซีน HPV ซึ่งยังมีราคาแพง
“กรมอนามัย ได้รับกล้องส่องดูปากมดลูก ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ผลิตโดยสูตินรีแพทย์ จากโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นกล้องส่องที่มีกำลังขยายมากกว่า 100 เท่า นำมาเชื่อมติดกับไฟฉาย หากซื้อจากต่างประเทศจะราคาสูงถึง 2 หมื่น - 1 แสนบาท แต่เมื่อประเทศไทยสามารถผลิตเองได้ ทำให้มีราคาเพียง 2 พันบาทเท่านั้น ซึ่งกรมอนามัยได้รับมอบมา 4 ตัว เพื่อทดลองใช้ หากใช้แล้วได้ผลดีกรมอนามัยจะสนับสนุนให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใช้กล้องดังกล่าว เพื่อให้การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทำได้ดีขึ้น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันมีหญิงไทยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA แล้วกว่า 600,000 ราย กรมฯจึงขยายการดำเนินงานไปยังจังหวัดต่างๆ ได้แก่ ร้อยเอ็ด หนองคาย อำนาจเจริญ ยโสธร มุกดาหาร เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ลพบุรี สระแก้ว สระบุรี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง สตูล ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ภายใต้ความร่วมมือของศูนย์อนามัยเขต 12 แห่ง ต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
