แนะรัฐประกาศแก้ปัญหาค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ ดึงเอกชนเข้าร่วมในภาคปฏิบัติ เชื่อต่างด้าวยังหลบซ่อน 2-3 แสนคน เหตุไม่มีนายจ้าง วอนเปิดโอกาสให้จดทะเบียนและจัดหานายจ้าง
วันนี้ (2 ก.ย.) นายสมพงษ์ สระแก้ว ผอ.มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (แอลพีเอ็น) กล่าวถึงกรณี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า เชื่อว่าจะมาสานต่อการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวตามนโยบายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ได้มีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ทั้งพม่า กัมพูชา และลาว มาจดทะเบียนเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้มาขึ้นทะเบียนโดยเป็นแรงงานต่างด้าวที่ตกงานไม่มีนายจ้าง แรงงานที่หลบซ่อนตัวอยู่ และลูกหลานแรงงานต่างด้าวที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 2-3 แสนคน และส่วนใหญ่เป็นคนพม่า ทางรัฐบาลควรเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ได้มาจดทะเบียนให้ได้รับใบ ทร.38/1 เพื่อให้อาศัยอยู่ในไทยได้ชั่วคราวแล้วจัดหานายจ้างมาจ้างงานเพื่อจะได้มีงานทำ
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากแรงงานต่างด้าวได้รับการจดทะเบียนแล้ว อยากให้รัฐบาล และกระทรวงแรงงาน ดูแลแรงงานต่างด้าวให้ได้รับการการคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งค่าจ้างและสวัสดิการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเช่นเดียวกับแรงงานไทย จะได้ไม่ถูกนายจ้างละเมิดสิทธิ เอารัดเอาเปรียบโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวในภาคประมงต้องดูแลให้มีการขึ้นทะเบียน มีสัญญาจ้างชัดเจน และควรได้รับค่าจ้างมากกว่าวันละ 300 บาท โดยควรให้วันละ 500-600 บาท และสวัสดิการที่ดี เนื่องจากเป็นงานหนักและเสี่ยงอันตราย เพื่อจูงใจให้แรงงานต่างด้าวมาทำงานในภาคประมง
นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า หากจะให้การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ได้ผลมากขึ้น รัฐบาลควรประกาศให้การแก้ปัญหาค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้นและจริงจัง มีแผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน รวมทั้งมีการทำงานเชิงรุกในระดับล่าง โดยให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยในงานด้านปฏิบัติในระดับพื้นที่และดูแลไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากการค้ามนุษย์ เช่น การนำหญิงต่างด้าวมาค้าประเวณี และใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพราะเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนข้อหนึ่งที่ทำให้อเมริกามองว่าไทยไม่พยายามแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (2 ก.ย.) นายสมพงษ์ สระแก้ว ผอ.มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (แอลพีเอ็น) กล่าวถึงกรณี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า เชื่อว่าจะมาสานต่อการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวตามนโยบายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ได้มีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ทั้งพม่า กัมพูชา และลาว มาจดทะเบียนเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้มาขึ้นทะเบียนโดยเป็นแรงงานต่างด้าวที่ตกงานไม่มีนายจ้าง แรงงานที่หลบซ่อนตัวอยู่ และลูกหลานแรงงานต่างด้าวที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 2-3 แสนคน และส่วนใหญ่เป็นคนพม่า ทางรัฐบาลควรเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ได้มาจดทะเบียนให้ได้รับใบ ทร.38/1 เพื่อให้อาศัยอยู่ในไทยได้ชั่วคราวแล้วจัดหานายจ้างมาจ้างงานเพื่อจะได้มีงานทำ
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากแรงงานต่างด้าวได้รับการจดทะเบียนแล้ว อยากให้รัฐบาล และกระทรวงแรงงาน ดูแลแรงงานต่างด้าวให้ได้รับการการคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งค่าจ้างและสวัสดิการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเช่นเดียวกับแรงงานไทย จะได้ไม่ถูกนายจ้างละเมิดสิทธิ เอารัดเอาเปรียบโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวในภาคประมงต้องดูแลให้มีการขึ้นทะเบียน มีสัญญาจ้างชัดเจน และควรได้รับค่าจ้างมากกว่าวันละ 300 บาท โดยควรให้วันละ 500-600 บาท และสวัสดิการที่ดี เนื่องจากเป็นงานหนักและเสี่ยงอันตราย เพื่อจูงใจให้แรงงานต่างด้าวมาทำงานในภาคประมง
นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า หากจะให้การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ได้ผลมากขึ้น รัฐบาลควรประกาศให้การแก้ปัญหาค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้นและจริงจัง มีแผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน รวมทั้งมีการทำงานเชิงรุกในระดับล่าง โดยให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยในงานด้านปฏิบัติในระดับพื้นที่และดูแลไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากการค้ามนุษย์ เช่น การนำหญิงต่างด้าวมาค้าประเวณี และใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพราะเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนข้อหนึ่งที่ทำให้อเมริกามองว่าไทยไม่พยายามแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
