บุรีรัมย์ - หน.บ้านพักเด็กและครอบครัวบุรีรัมย์ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดี ด.ญ. 14 ปี ถูกรุมทำร้ายและบังคับค้าประเวณี เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิของเด็กที่ถูกกระทำ พร้อมเผยเบื้องต้นพบเด็กถูกบังคับค้าประเวณีมากว่า 1 ปีแล้ว ขณะเยาวชนถูกบังคับถ่ายคลิปวันเกิดเหตุ แฉมีการบังคับขายบริการจริง หากขัดขืนจะถูกทำร้าย
วันนี้ (5 เม.ย.) นางสำราญ ยิ้มชื่น หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ด.ญ.วัย 14 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น เยาชนหญิงอายุ 15-21 ปีรุมทำร้ายและบังคับค้าประเวณี ที่มีการแชร์คลิปผ่านสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลายก่อนหน้านี้
เพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง
นางสำราญเปิดเผยว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก พร้อมนักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ เข้าไปเยี่ยมบ้านเด็กที่ถูกกระทำ พบว่าปัจจุบันเด็กอาศัยอยู่กับปู่และย่าวัยกว่า 83 ปี เนื่องจากแม่ทิ้งตั้งแต่ยังเล็กและพ่อเสียชีวิตเมื่อ 4 ปีก่อน และปู่กับย่ามีฐานะยากจนมีอาชีพทำนาจึงไม่ได้มีเวลาดูแลเด็กเท่าที่ควรและจบการศึกษาแค่ชั้น ม.2 ทำให้ น.ส.สาวิตรี หรือเจ๊แนน เข้ามาตีสนิทกับ ด.ญ.บี (นามสมมติ) แล้วชักชวนให้ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย
จากนั้นหลอกล่อบังคับให้ ด.ญ.บีไปขายบริการ โดยมี น.ส.สาวิตรีเป็นคนจัดหาลูกค้าให้ หาก ด.ญ.บีไม่ยอมทำตามจะทำร้ายร่างกาย ซึ่ง ด.ญ.บีเคยหนีกลับบ้านหลายครั้ง แต่ น.ส.สาวิตรี ก็มาตามที่บ้านพร้อมข่มขู่ว่าหากไม่ไปจะทำร้ายปู่กับย่า ซึ่ง ด.ญ.บีได้ถูกบังคับค้าประเวณีมากว่า 1 ปีแล้วแต่ไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวจะถูกทำร้าย กระทั่งเกิดเหตุการณ์ตามรุมทำร้ายตามที่ปรากฏในคลิปจึงทำให้เรื่องจริงถูกเปิดเผย
นางสำราญกล่าวอีกว่า โดยภารกิจของบ้านพักเด็กเมื่อมีเหตุการณ์เด็ก เยาวชน ถูกกระทำรุนแรง ทางบ้านพักเด็กจะต้องเข้ามาคุ้มครองสิทธิเด็กที่ตกเป็นเหยื่อ โดยการให้ความช่วยเหลือนำตัวเด็กไปคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัว แต่กรณีนี้เด็ก และญาติไม่สมัครใจที่จะไปอยู่ที่บ้านพักเด็กโดยให้เหตุผลว่าสามารถดูแลเด็กได้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานกับผู้นำชุมชนให้ช่วยดูแลครอบครัว และเด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กตกเป็นเหยื่อถูกกระทำซ้ำอีก
ขณะที่ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 14 ปี ที่ถูกบังคับถ่ายคลิปวิดีโอในวันเกิดเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ด.ญ.บี ได้ออกมาให้ข้อมูลตรงกันว่า น.ส.สาวิตรี หรือเจ๊แนน ได้บังคับ ด.ญ.บีค้าประเวณีจริง หากไม่ทำตามจะถูกรุมทำร้าย ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยถูกบังคับให้ขายบริการเช่นกัน แต่ตนไม่ยินยอม และได้พยายามแยกตัวออกจากกลุ่มได้ถูก น.ส.สาวิตรี ส่งเฟซบุ๊ก และไลน์มาข่มขู่หลายครั้ง
พร้อมบอกว่า วันที่ถ่ายคลิปพยายามร้องขอให้หยุดแล้วแต่ น.ส.สาวิตรีข่มขู่จะทำร้ายจึงไม่กล้า รู้สึกสงสารเพื่อนแต่ทำอะไรไม่ได้ กระทั่งมีการปล่อยคลิปผ่านสังคมออนไลน์และมีการแจ้งความดำเนินคดีตนจึงได้มาเป็นพยาน และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีต่อ น.ส.สาวิตรี และพวกตามกฎหมายจนถึงที่สุด ให้สมกับที่กระทำ