เชียงใหม่ - ตำรวจเชียงใหม่นำสื่อลงพื้นที่ควานหาสปาฉาวกลางเมืองทันทีหลังเป็นข่าว แต่ไม่พบ แถมเตือนสื่อเสนอข่าวให้ระวังผลกระทบธุรกิจท่องเที่ยว-ผู้ประกอบการที่ดี ขณะที่คนวงในเผยหลังถูกแฉสปาค้ากามในเชียงใหม่กว่า 10 แห่งปิดบริการชั่วคราวกันทันที แถมด่าสื่อผ่านไลน์ลับเละเทะ
วันนี้ (24 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการนำเสนอข่าว พร้อมคลิป “พบสปาฉาวกลางเชียงใหม่ลอบค้ากาม โฆษณาผ่านเว็บ-เฟซบุ๊ก-ไลน์โจ๋งครึ่ม” ช่วงเย็นวานนี้ (23 ก.ย.) พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ รรท.ผกก.สภ.ช้างเผือก, พ.ต.ท.เจน โสภา สวป.สภ.ช้างเผือก, ร้อยเวรป้องกันปราบปราม และเจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมด้วยสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ที่มีการระบุว่า เป็นบ้านหรู หรือทาวน์เฮาส์ขนาดใหญ่จำนวน 2 ชั้น ย่านหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทันที
แต่ปรากฏว่ายังไม่พบสถานที่ที่เป็นร้านสปาตามที่เสนอข่าวแต่อย่างใด และหากประชาชนท่านใดทราบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่ สภ.ช้างเผือก 09-5686-6312, 0-5321-8443 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ทาง สภ.ช้างเผือกยังระบุด้วยว่า การนำเสนอในกรณีดังกล่าวควรใช้ความระมัดระวังเพราะมีผลกระทบด้านลบต่อผู้ประกอบการสปา และการนวดแผนโบราณที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย ตลอดจนผลเสียด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ติดอันดับต้น ๆ เมืองหนึ่งของโลกด้วย
พ.ต.อ.พิษณุบอกว่า หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่พบว่าบ้านหลังดังกล่าวไหวตัวปิดการให้บริการ แต่ก็อยากบอกผ่านสื่อมวลชนว่า การนวดแบบสปาไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีการขายบริการทางเพศเสมอ ร้านสปาบางร้านก็ดำเนินธุรกิจการให้บริการตามหลักโดยไม่มีการค้าประเวณีแอบแฝง
ส่วนที่มีคลิปที่เผยแพร่ออกไปก็จะต้องเข้ามาตรวจสอบว่ามีการค้าประเวณีจริงหรือไม่ เพราะการนวดแผนไทยหรือนวดแบบสปา ผู้นวดกับผู้ที่มาใช้บริการจะอยู่ในห้องสองต่อสอง อาจมีการตกลงกันโดยที่ทางร้านไม่รู้เรื่องก็เป็นได้ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการด้วย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในแวดวงธุรกิจเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีข่าวออกมาไม่กี่นาที ทำให้สปาลักษณะดังกล่าวที่มีอยู่ในเชียงใหม่มากกว่า 10 แห่งได้ปิดบริการอย่างไม่มีกำหนดทันทีทุกแห่ง นอกจากนี้ คนวงในที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสปาฉาวต่างพากันวิจารณ์การนำเสนอข่าวดังกล่าวอย่างเสียหาย พร้อมกับมีการพยายามตามหาต้นตอในการนำเสนอข่าวดังกล่าว