ยอดแรงงานเสียชีวิตจากเหตุตึกถล่มเพิ่มอีก 7 ราย คาดยังติดอยู่ในซากตึก 4 ราย ก.แรงงาน พร้อมช่วยเหลือหากถูกลอยแพ แนะร้องเรียนกับหน่วยงานต้นสังกัด ด้าน สปส. รุดมอบเงินช่วยเหลือญาติแรงงานผู้เสียชีวิต 5 ราย ขณะที่ ผู้ว่าฯปทุมธานี ยืนยันยังไม่หยุดค้นหา
วันนี้ (14 ส.ค.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายเป็นห่วงแรงงานไทยและต่างด้าวที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างถล่มในจ.ปทุมธานี ทั้งแรงงานของบริษัทรับเหมาและบริษัทเอาท์ซอร์สจะถูกเลิกจ้างและไม่ได้รับเงินค่าจ้าง เนื่องจากนายจ้างถูกดำเนินคดีว่า ตั้งแต่ วันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงแรงงาน เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ไปตั้งโต๊ะเพื่อช่วยเหลือแรงงานและญาติ ซึ่งสามารถมาร้องเรียนปัญหาต่างๆ กับหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน ทางกระทรวงแรงงานจะนำข้อมูลการร้องเรียนมาพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายพานิช จิตร์แจ้ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า จะสั่งการให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานีไปตรวจสอบข้อมูลว่า มีแรงงานไทยและต่างด้าวที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารยูเพลส คอนโด ทั้งแรงงานของบริษัทรับเหมาและบริษัทเอาท์ซอร์สเป็นจำนวนทั้งหมดเท่าใด และมีปัญหาในเรื่องใดบ้าง หากเป็นกรณีค่าจ้างค้างจ่ายและเงินสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ควรได้รับตามสัญญาจ้างก็จะติดตามนายจ้างแต่ละรายให้ แต่หากติดตามนายจ้างไม่ได้จะหารือกับคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เพื่อนำเงินกองทุนมาช่วยเหลือก่อนและไปฟ้องร้องกับนายจ้างภายหลังเพื่อนำเงินมาคืนกองทุน ส่วนกรณีถ้าถูกเลิกจ้างจะประสานกับกรมการจัดหงาน (กกจ.) เพื่อหางานให้ทำ
นางอำมร เชาวลิต เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ในวันนี้ได้มอบเงินค่าทำศพให้กับญาติแรงงานที่เสียชีวิต 5 รายๆ ละ 30,000 บาท และค่าทดแทนให้กับทายาทร้อยละ 60 ของค่าจ้าง เป็นเวลา 8 ปี หรือประมาณ 449,280 บาทต่อราย ได้แก่ นายเชษฐา กำภูชาติ, นางเพียบ มงคล, นายสิทธิโชค แกมมะณี, นายธนากร ตรีเมฆ และ นายดนัย สุขสม ซึ่งสามารถตรวจสอบสิทธิประกันสังคมเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นลูกจ้างของนายใกล้รุ่ง ทับครบุรี และบริษัท ปลูกแปลง ทั้งนี้ สำนักงาจประกันสังคมจะเชิญญาติของผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นทายาท หรือเป็น บิดา มารดา ของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ก่อนจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าว ที่สำนักงานประกันสังคม จังหวัดปทุมธานี สาขาคลองหลวง ส่วนแรงงานไทยและต่างด้าวที่เสียชีวิตและบาดเจ็บที่เหลือจะเร่งตรวจสอบข้อมูลประวัติ รวมทั้งการขึ้นทะเบียนกับกองทุนเงินทดแทนและกองทุนประกันสังคม หลังจากนั้น ก็จะทยอยมอบเงินสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แต่ละราย
นางอำมร กล่าวด้วยว่า ส่วนแรงงานไทยและต่างด้าวที่บาดเจ็บจะได้เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีหยุดงานเพื่อพักรักษาตัวโดยเงินที่ได้รับเป็นไปตามระยะเวลาการรักษาตัว หากทุพพลภาพจะได้รับเงินค่าทดแทนเป็นระยะเวลา 15 ปี พร้อมค่าฟื้นฟูด้านการแพทย์และอาชีพ ส่วนกรณีแรงงานไทยและต่างด้าวที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับระบบประกันสังคม ทางสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะออกคำสั่งให้บริษัทที่เป็นนายจ้างต้องจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามสิทธิที่ต้องได้รับจากองทุนเงินทดแทน
นายพงศธร สัจจชลพันธ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต โดยยืนยันการค้นหายังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากมีการเดินทางมาแจ้งว่าญาติหายหลายคน ซึ่งการค้นหาจะแบ่งเป็น 4 จุด ในการค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ อาจจะมียอดผู้ที่ติดอยู่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเดิม 33 คน รวมทั้งกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพราะเกรงว่าจะมีสิ่งของตกลงมาจากแรงสั่นสะเทือนในการค้นหา
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ แรงงานจังหวัดปทุมธานี สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ได้รับแจ้งข้อมูลจากทางนายอำเภอ ว่า จากการขุดย้ายซากอาคารถล่มได้พบศพแรงงานเสียชีวิตเพิ่มอีก 7 คน ได้แก่ 1. นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี 2. นางเพียบ มงคล 3. นายสิทธิโชค แกมมะณี 4. นายธนากร ตรีเมฆ 5. นายดนัย สุขสม 6. นางสุนี ไม่ทราบนามสกุล และ 7. นายอิมเครือ แรงงานกัมพูชา
นอกจากนี้ คาดว่า ยังมีแรงงานติดอยู่ใต้ซากตึกอีก 4 คน เป็นแรงงานไทย 2 คน และแรงงานต่างด้าว 2 คน ทำให้ยอดแรงงานไทยและต่างด้าวที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้เพิ่มเป็น 10 คน โดยก่อนหน้านั้นมีแรงงานและเด็กเสียชีวิต 3 คนคือ นายเชษฐา กำพูชาติ นางอ้วนไม่ทราบนามสกุลซึ่งตั้งท้อง 7 เดือน รวมทั้งลูกชายของนางอ้วน ไม่ทราบชื่อ ส่วนแรงงานที่บาดเจ็บยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 6 คนเช่นเดิม ทั้งนี้ ขณะนี้ทุกหน่วยงานกำลังเร่งขุดและย้ายซากตึกเพื่อนำร่างแรงงานที่ติดในซากตึกออกมา รวมทั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบบเบ็ดเสร็จในพื้นที่ประสบเหตุได้รับลงทะเบียนและประสานกับญาติแรงงานเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือต่างๆ โดยเร็ว
ด้านนางประภาศิริ สัจจชลพันธ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทยและต่างด้าวที่ประสบเหตุอาคารกำลังก่อสร้างถล่มใน จ.ปทุมธานี ถล่ม ว่า ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ทางเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานีไปตั้งซุ้มทำอาหารแจก และน้ำดื่มให้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่ช่วยเหลือแรงงานไทยและต่างด้าว รวมทั้งญาติของแรงงาน นอกจากนี้ ยังได้ไปเยี่ยมแรงงานไทยและต่างด้าวที่บาดเจ็บในโรงพยาบาลต่างๆ โดยได้มอบเงินช่วยเหลือให้รายละ 3-5 พันบาท โดยในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่บาดเจ็บคือ นายจันทร์ ชาวกัมพูชา ซึ่งบาดเจ็บสาหัสกระดูกสันหลังแตกรักษาตัวที่ รพ.ปทุมธานี ไม่มีญาติคอยดูแล ซึ่งเบื้องต้นเหล่ากาชาดจึงได้ซื้อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าอ้อม แป้ง ยาสีฟัน ให้แก่แรงงานคนดังกล่าว รวมทั้งประสานกับหน่วยงานต่างๆเช่น สำนักงานประกันสังคมโรงพยาบาลเพื่อดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายในการรักษา
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
