คณบดีศิริราชมอบรางวัลผลงาน R2R ดีเด่น ชี้ช่วยพัฒนาบุคลากร แก้ปัญหางานประจำ เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย เข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น ลดค่าใช้จ่าย ปลื้มแนวคิด R2R ขยายสู่วงการอื่น และต่างประเทศ สุดทึ่งหลากผลงาน รพ.สต. เปลี่ยนพฤติกรรม แก้ปัญหาสาธารณสุขทั้งหมู่บ้าน
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวภายหลังมอบรางวัลผลงาน R2R ดีเด่น ในการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากงานประจำสู่งานวิจัย (R2R) ครั้งที่ 7 “เสริมพลัง สร้างคุณภาพ สู่สุขภาวะ” ว่า ในปีนี้มีการส่งผลงาน R2R ซึ่งเป็นการนำการวิจัยมาใช้แก้ปัญหาและพัฒนางานประจำ รวมเกือบ 500 ผลงาน โดยคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกให้ได้รับผลงาน R2R ดีเด่นจำนวน 47 ผลงาน แบ่งเป็นผลงานของหน่วยบริการระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ งานด้านบริการ และนวัตกรรม ซึ่งประโยชน์ของงาน R2R นอกจากเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้ได้เรียนรู้การแก้ปัญหางานประจำด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ การดูแลรักษาผู้ป่วยให้ดีและมีคุณภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพยาบาล ผู้ป่วย และญาติมีความพึงพอใจต่อการให้บริการ ซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่องานด้านสาธารณสุข
ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวอีกว่า จากการเดินหน้าจัดงาน R2R มาเป็นเวลา 7 ปีร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ทั้ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) (สรพ.) และกระทรวงสาธารรณสุข (สธ.) นั้น ทำให้มีผู้เข้ามาร่วมทำงาน R2R เพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมมากถึง 1,500 คน ถือว่างาน R2R ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญมีผู้คนจากวงการอื่นนอกจากวงการสาธารณสุขเข้ามาร่วมประชุม เพราะเห็นความสำคัญของงาน R2R ด้วย อาทิ วงการศึกษา ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังขยายไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนด้วย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นต้น หากงาน R2R จะขยายไปทุกวงการทั่วประเทศ จะช่วยให้ประเทศเกิดการพัฒนาขึ้นได้ เพราะเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคคล
ด้าน รศ.นพ.เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนอาร์ทูอาร์ประเทศไทย กล่าวว่า แต่เดิมงาน R2R ครอบคลุมเพียง 9 เครือข่าย 65 จังหวัดทั่วประเทศ แต่ในปีนี้ สธ. ได้ความสนใจ จงทำให้งาน R2R แพร่หลายไปทั่ว ครอบคลุม 12 เครือข่าย ตามเขตบริการสุขภาพ บุคลากรทางด้านสาธารณสุขทุกระดับ ตั้งแต่ แพทย์ พยาบาล พนักงานระดับปฏิบัติการทุกระดับต่างๆ ได้พัฒนางานวิจัยจากงานประจำของตนเองมานำเสนอ ที่น่าสนใจคือระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) มีการดำเนินการได้ดีมาก บางงานสามารถปรับปรุงพฤติกรรมเพื่อแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขได้ทั้งหมู่บ้าน โดยเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาผลงานให้ได้รางวัลคือ ต้องเป็นปัญหาจากงานประจำ ผู้ปฏิบัติงานต้องเก็บข้อมูลเอง เกิดการเรียนรู้ ผลลัพธ์ต้องชัดเจนว่าผู้ป่วยได้อะไร และมีการนำไปใช้ให้เห็นผลจริง
“มีผู้คนหน้าใหม่มาร่วมงานประชุม R2R เพราะให้ความสนใจมากขึ้น อย่างปีนี้ผู้เข้าร่วมประชุมพบว่ากว่า 70% เป็นคนหน้าใหม่ที่มาเรียนรู้กระบวนการทำ R2R ทั้งสิ้น ซึ่งเกิดจากการที่โรงพยาบาลในสังกัด สธ. ให้ความสนใจ และชักชวนกันมาแลกเปลี่ยนรู้ โดยในงานประชุมเรามีคลินิกเริ่มต้นการทำ R2R ให้คำปรึกษาด้วย” รศ.นพ.เชิดชัย กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวภายหลังมอบรางวัลผลงาน R2R ดีเด่น ในการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากงานประจำสู่งานวิจัย (R2R) ครั้งที่ 7 “เสริมพลัง สร้างคุณภาพ สู่สุขภาวะ” ว่า ในปีนี้มีการส่งผลงาน R2R ซึ่งเป็นการนำการวิจัยมาใช้แก้ปัญหาและพัฒนางานประจำ รวมเกือบ 500 ผลงาน โดยคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกให้ได้รับผลงาน R2R ดีเด่นจำนวน 47 ผลงาน แบ่งเป็นผลงานของหน่วยบริการระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ งานด้านบริการ และนวัตกรรม ซึ่งประโยชน์ของงาน R2R นอกจากเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้ได้เรียนรู้การแก้ปัญหางานประจำด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ การดูแลรักษาผู้ป่วยให้ดีและมีคุณภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพยาบาล ผู้ป่วย และญาติมีความพึงพอใจต่อการให้บริการ ซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่องานด้านสาธารณสุข
ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวอีกว่า จากการเดินหน้าจัดงาน R2R มาเป็นเวลา 7 ปีร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ทั้ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) (สรพ.) และกระทรวงสาธารรณสุข (สธ.) นั้น ทำให้มีผู้เข้ามาร่วมทำงาน R2R เพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมมากถึง 1,500 คน ถือว่างาน R2R ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญมีผู้คนจากวงการอื่นนอกจากวงการสาธารณสุขเข้ามาร่วมประชุม เพราะเห็นความสำคัญของงาน R2R ด้วย อาทิ วงการศึกษา ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังขยายไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนด้วย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นต้น หากงาน R2R จะขยายไปทุกวงการทั่วประเทศ จะช่วยให้ประเทศเกิดการพัฒนาขึ้นได้ เพราะเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคคล
ด้าน รศ.นพ.เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนอาร์ทูอาร์ประเทศไทย กล่าวว่า แต่เดิมงาน R2R ครอบคลุมเพียง 9 เครือข่าย 65 จังหวัดทั่วประเทศ แต่ในปีนี้ สธ. ได้ความสนใจ จงทำให้งาน R2R แพร่หลายไปทั่ว ครอบคลุม 12 เครือข่าย ตามเขตบริการสุขภาพ บุคลากรทางด้านสาธารณสุขทุกระดับ ตั้งแต่ แพทย์ พยาบาล พนักงานระดับปฏิบัติการทุกระดับต่างๆ ได้พัฒนางานวิจัยจากงานประจำของตนเองมานำเสนอ ที่น่าสนใจคือระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) มีการดำเนินการได้ดีมาก บางงานสามารถปรับปรุงพฤติกรรมเพื่อแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขได้ทั้งหมู่บ้าน โดยเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาผลงานให้ได้รางวัลคือ ต้องเป็นปัญหาจากงานประจำ ผู้ปฏิบัติงานต้องเก็บข้อมูลเอง เกิดการเรียนรู้ ผลลัพธ์ต้องชัดเจนว่าผู้ป่วยได้อะไร และมีการนำไปใช้ให้เห็นผลจริง
“มีผู้คนหน้าใหม่มาร่วมงานประชุม R2R เพราะให้ความสนใจมากขึ้น อย่างปีนี้ผู้เข้าร่วมประชุมพบว่ากว่า 70% เป็นคนหน้าใหม่ที่มาเรียนรู้กระบวนการทำ R2R ทั้งสิ้น ซึ่งเกิดจากการที่โรงพยาบาลในสังกัด สธ. ให้ความสนใจ และชักชวนกันมาแลกเปลี่ยนรู้ โดยในงานประชุมเรามีคลินิกเริ่มต้นการทำ R2R ให้คำปรึกษาด้วย” รศ.นพ.เชิดชัย กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่