กลุ่มพยาบาลลูกจ้างไม่เชื่อ ชมรมสหวิชาชีพฯจะร้องศาลปกครองคุ้มครองการบรรจุข้าราชการ สธ. หลังค้านเฉลี่ยการจัดสรรไม่เป็นธรรม เหตุกระทบวิชาชีพอื่นทั้งหมด เสนอปลัด สธ.นัดหารือ 21 สายงาน ด้าน สธ.ยันการจัดสรรใน รพ.สต. ใช้เกณฑ์ฐานประชากรไม่ใช่ FTE จ่อเรียกหารือ 25 ก.ค.
วันนี้ (24 ก.ค.) น.ส.ศิริรัตน์ วงษ์บุดดา ตัวแทนเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีชมรมสหวิชาชีพ สธ. เตรียมร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว การจัดสรรตำแหน่งข้าราชการ สธ. เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติเห็นชอบอัตราการกำลังบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการจำนวน 7,547 อัตรา ว่า หากชมรมฯ ดำเนินการจริง จะส่งผลต่อวิชาชีพอื่นทั้งหมด แต่เชื่อว่าคงไม่ดำเนินการ ดังนั้น จึงขอให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. เรียกตัวแทน 21 สายงานที่ได้รับการบรรจุมาหารือถึงเกณฑ์การจัดสรรตำแหน่งลงแต่ละพื้นที่อีกครั้ง สำหรับวิชาชีพพยาบาลนั้นมีจำนวนรอการบรรจุเป็นข้าราชการ 16,000 อัตรา โดยบบรจุปีแรก 2556 แล้ว 3,200 อัตรา ปี 2557 อีก 3,695 อัตรา คาดว่า การบรรจุรอบที่ 3 คือปี 2558 คงไม่มีทางบรรจุที่เหลืออีก 9,105 อัตราได้หมด ที่น่ากังวลคือ พยาบาลอาจถูกผลักให้ไปเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) เกิน 25% ทั้งที่เกณฑ์เงื่อนไขในการจัดสรรตำแหน่งของแต่ละวิชาชีพที่เคยประชุมและสรุปนั้น ทุกวิชาชีพจะได้รับการจัดสรรบรรจุสัดส่วนไม่เกิน 75% ส่วนที่เหลือ 25% จะต้องเป็น พกส.
นายวัฒนะชัย นามตะ ประธานชมรมสหวิชาชีพฯ กล่าวว่า จากการหารือกับวิชาชีพต่างๆ เห็นตรงกันว่า การจัดสรรตำแหน่งครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่มาก ซึ่งมาตรการร้องศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว จะเป็นทางเลือกสุดท้าย
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. กล่าวว่า กรณีที่ชมรมสหวิชาชีพฯ ค้านการจัดสรรของ สธ. โดยระบุว่าเงื่อนไขในส่วนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใช้หลักเกณฑ์ FTE ทำให้ไม่เป็นธรรมนั้น จริงๆ แล้ว การจัดสรรของ รพ.สต. จะใช้ฐานประชากรกำหนด เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กที่มีประชากรแตกต่างกัน โดยประชากร 1,250 คนให้จัดสรรบุคลากรสาธารณสุขประจำ 1 คน โดยให้พิจารณาเลือกวิชาชีพตามความจำเป็นของแต่ละพื้นที่ อย่างพยาบาลวิชาชีพจะมีอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง และเพิ่มอีก 1 ตำแหน่งต่อทุก 2,500 ประชากร อย่างไรก็ตาม วันที่ 25 ก.ค.จะมีการประชุมจัดสรรตำแหน่งแต่ละวิชาชีพ
“นอกจากนี้ ยังได้ให้กลุ่มบริหารบุคคลนำบัญชีเลขที่ตำแหน่งขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้ทุกจังหวัดดาวน์โหลดข้อมูลไปประกาศรับสมัคร เพื่อดำเนินการคัดเลือกบรรจุข้าราชการใหม่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำหนด ให้เสร็จสิ้นภายใน 29 ส.ค. และจะทบทวนภารกิจตามแผนปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงและเขตบริการสุขภาพ เพื่อเสนอขออัตรากำลังที่เหลืออีก 7,547 อัตรา สำหรับบรรจุในปีงบประมาณ 2558 ให้เสร็จสิ้นภายใน ส.ค. เพื่อบรรจุให้เร็วที่สุด โดยจะพิจารณาจัดสรรโดยใช้ข้อมูลร่วมกันทั้ง 3 ปี นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาเกลี่ยอัตราว่างจากการเกษียณอายุราชการ 1,000 กว่าอัตราด้วย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่รอการบรรจุ” รองปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
วันนี้ (24 ก.ค.) น.ส.ศิริรัตน์ วงษ์บุดดา ตัวแทนเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีชมรมสหวิชาชีพ สธ. เตรียมร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว การจัดสรรตำแหน่งข้าราชการ สธ. เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติเห็นชอบอัตราการกำลังบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการจำนวน 7,547 อัตรา ว่า หากชมรมฯ ดำเนินการจริง จะส่งผลต่อวิชาชีพอื่นทั้งหมด แต่เชื่อว่าคงไม่ดำเนินการ ดังนั้น จึงขอให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. เรียกตัวแทน 21 สายงานที่ได้รับการบรรจุมาหารือถึงเกณฑ์การจัดสรรตำแหน่งลงแต่ละพื้นที่อีกครั้ง สำหรับวิชาชีพพยาบาลนั้นมีจำนวนรอการบรรจุเป็นข้าราชการ 16,000 อัตรา โดยบบรจุปีแรก 2556 แล้ว 3,200 อัตรา ปี 2557 อีก 3,695 อัตรา คาดว่า การบรรจุรอบที่ 3 คือปี 2558 คงไม่มีทางบรรจุที่เหลืออีก 9,105 อัตราได้หมด ที่น่ากังวลคือ พยาบาลอาจถูกผลักให้ไปเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) เกิน 25% ทั้งที่เกณฑ์เงื่อนไขในการจัดสรรตำแหน่งของแต่ละวิชาชีพที่เคยประชุมและสรุปนั้น ทุกวิชาชีพจะได้รับการจัดสรรบรรจุสัดส่วนไม่เกิน 75% ส่วนที่เหลือ 25% จะต้องเป็น พกส.
นายวัฒนะชัย นามตะ ประธานชมรมสหวิชาชีพฯ กล่าวว่า จากการหารือกับวิชาชีพต่างๆ เห็นตรงกันว่า การจัดสรรตำแหน่งครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่มาก ซึ่งมาตรการร้องศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว จะเป็นทางเลือกสุดท้าย
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. กล่าวว่า กรณีที่ชมรมสหวิชาชีพฯ ค้านการจัดสรรของ สธ. โดยระบุว่าเงื่อนไขในส่วนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใช้หลักเกณฑ์ FTE ทำให้ไม่เป็นธรรมนั้น จริงๆ แล้ว การจัดสรรของ รพ.สต. จะใช้ฐานประชากรกำหนด เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กที่มีประชากรแตกต่างกัน โดยประชากร 1,250 คนให้จัดสรรบุคลากรสาธารณสุขประจำ 1 คน โดยให้พิจารณาเลือกวิชาชีพตามความจำเป็นของแต่ละพื้นที่ อย่างพยาบาลวิชาชีพจะมีอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง และเพิ่มอีก 1 ตำแหน่งต่อทุก 2,500 ประชากร อย่างไรก็ตาม วันที่ 25 ก.ค.จะมีการประชุมจัดสรรตำแหน่งแต่ละวิชาชีพ
“นอกจากนี้ ยังได้ให้กลุ่มบริหารบุคคลนำบัญชีเลขที่ตำแหน่งขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้ทุกจังหวัดดาวน์โหลดข้อมูลไปประกาศรับสมัคร เพื่อดำเนินการคัดเลือกบรรจุข้าราชการใหม่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำหนด ให้เสร็จสิ้นภายใน 29 ส.ค. และจะทบทวนภารกิจตามแผนปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงและเขตบริการสุขภาพ เพื่อเสนอขออัตรากำลังที่เหลืออีก 7,547 อัตรา สำหรับบรรจุในปีงบประมาณ 2558 ให้เสร็จสิ้นภายใน ส.ค. เพื่อบรรจุให้เร็วที่สุด โดยจะพิจารณาจัดสรรโดยใช้ข้อมูลร่วมกันทั้ง 3 ปี นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาเกลี่ยอัตราว่างจากการเกษียณอายุราชการ 1,000 กว่าอัตราด้วย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่รอการบรรจุ” รองปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่