พยาบาลลูกจ้างฯ ทวงถาม สธ.หลังบรรจุ ขรก.ปีแรกได้สัดส่วนน้อยกว่าที่คาด ขออีก 2 ปีเพิ่มขึ้นปีละ 27% ห่วงกระจายอำนาจให้เขตบริการพิจารณาการบรรจุ ขรก.ไม่โปร่งใส ด้านชมรมสหวิชาชีพเตรียมระดมพลอีก 1 พัน บุกกระทรวงขอความเป็นธรรมบรรจุ ขรก.ขณะที่รองปลัด สธ.ยัน มีระบบช่วยตรวจสอบ อ้างจ้างลูกจ้างเพิ่มทำให้ได้สัดส่วนบรรจุน้อยลง ยันต้องเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพยาบาลวิชาชีพได้เดินทางมาเรียกร้องกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่องค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำแต่ละวิชาชีพ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ.ได้เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าเรื่องการบรรจุเป็นข้าราชการ โดย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ.ได้ลงมาร่วมหารือกับตัวแทนพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวที่สภาการพยาบาล
น.ส.ศิริรัตน์ วงศ์บุดดา ประธานเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ.กล่าวว่า การมาเรียกร้องในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องค่าตอบแทน แต่อยากมาทวงถามความคืบหน้าเรื่องการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการ อย่างพยาบาลวิชาชีพที่มีการออกมาเรียกร้องให้บรรจุข้าราชการเมื่อปี 2555 โดย สธ.แก้ปัญหาด้วยการทยอยบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการจำนวน 22,641 อัตรา ในเวลา 3 ปี ครอบคลุม 75% ของลูกจ้างชั่วคราวที่มีอยู่ ซึ่งพยาบาลวิชาชีพเฉลี่ยแล้วควรได้รับการบรรจุปีละ 25% แต่ปีนี้ได้รับการบรรจุแค่ 21% เท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้อีก 2 ปีที่เหลือให้มีการแชร์สัดส่วนการบรรจุให้เหมาะสม โดยขอให้เพิ่มการบรรจุให้พยาบาลวิชาชีพเป็นปีละ 27% หรือประมาณ 4,571 คน
ด้าน นายวัฒนะชัย นามตะ ประธานชมรมสหวิชาชีพ สธ.กล่าวว่า ยังคงยืนยันเดินทางมาเรียกร้องขอความไม่เป็นธรรมในการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพ 24 สายงาน เนื่องจากขณะนี้มีการคัดเลือกที่อิงเส้นสาย พรรคพวก และไม่อิงตามอายุงาน ใครทำงานก่อน แทนที่จะได้รับการบรรจุ กลับเลือกคนมาทำงานไม่ถึง 3 เดือน ดังนั้น ในวันที่ 26 พ.ย.ตั้งแต่เวลา 8.00 น.พวกตนประมาณพันคนจะมาเรียกร้อง และขอความเป็นธรรมในการบรรจุตำแหน่งข้าราชการ หากไม่ได้ตามที่เสนอไว้จะขอค้างคืนอย่างต่ำเป็นเวลา 1-2 คืน แต่เชื่อว่าผู้บริหารกระทรวงฯจะเข้าใจและเห็นใจพวกตน
“ไม่อยากให้การเรียกร้องของตนไปอิงการเมือง เพราะขณะนี้มีโทรศัพท์ชักจูงให้ไปร่วมการชุมนุมเช่นกัน แต่ทางกลุ่มขอปฏิเสธ เนื่องจากต้องการเรียกร้องเรื่องที่เป็นภายในของกระทรวง” นายวัฒนะชัย กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ.ว่า สิ่งที่กลุ่มพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวกังวลก็คือ การที่ สธ.จะกระจายอำนาจไปยังเขตบริการสุขภาพ เพื่อให้เขตเป็นผู้พิจารณาการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการว่าจะไม่มีความโปร่งใส มีมาตรฐานการพิจารณาที่ต่างกัน และไม่มีธรรมาภิบาล ซึ่งเรื่องนี้ สธ.จะกำหนดหลักเกณฑ์ให้แน่ชัดให้ทุกเขตบริการมีแนวทางเดียวกันในการพิจารณา นอกจากนี้ จะมีระบบตรวจสอบเพื่อถ่วงดุลด้วย หากหน่วยบริการไม่มีความโปร่งใสก็สามารถยื่นอุทธรณ์ไปที่ระดับจังหวัด ระดับเขต และถึงระดับกระทรวงตามลำดับได้ เหมือนกับที่ ก.พ.มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เป็นต้น
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า สำหรับการแบ่งบรรจุข้าราชการของลูกจ้างชั่วคราวนั้น ล่าสุด มีทั้งหมด 25 สายงาน โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาสัดส่วนบรรจุข้าราชการทั่งระหว่างเขตและวิชาชีพ ในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งปัญหาคือมีการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเพิ่มขึ้นทำให้แต่ละวิชาชีพได้สัดส่วนการบรรจุไม่ได้เท่าเดิม อย่างที่กลุ่มพยาบาลมาเรียกร้องในครั้งนี้ก็เพราะได้รับสัดส่วนการบรรจุน้อยกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม การแบ่งสัดส่วนจะพยายามทำให้เกิดความเป็นธรรมที่สุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะได้ทุกคนหรือได้มากที่สุด แต่จะต้องมีการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพยาบาลวิชาชีพได้เดินทางมาเรียกร้องกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่องค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำแต่ละวิชาชีพ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ.ได้เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าเรื่องการบรรจุเป็นข้าราชการ โดย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ.ได้ลงมาร่วมหารือกับตัวแทนพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวที่สภาการพยาบาล
น.ส.ศิริรัตน์ วงศ์บุดดา ประธานเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ.กล่าวว่า การมาเรียกร้องในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องค่าตอบแทน แต่อยากมาทวงถามความคืบหน้าเรื่องการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการ อย่างพยาบาลวิชาชีพที่มีการออกมาเรียกร้องให้บรรจุข้าราชการเมื่อปี 2555 โดย สธ.แก้ปัญหาด้วยการทยอยบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการจำนวน 22,641 อัตรา ในเวลา 3 ปี ครอบคลุม 75% ของลูกจ้างชั่วคราวที่มีอยู่ ซึ่งพยาบาลวิชาชีพเฉลี่ยแล้วควรได้รับการบรรจุปีละ 25% แต่ปีนี้ได้รับการบรรจุแค่ 21% เท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้อีก 2 ปีที่เหลือให้มีการแชร์สัดส่วนการบรรจุให้เหมาะสม โดยขอให้เพิ่มการบรรจุให้พยาบาลวิชาชีพเป็นปีละ 27% หรือประมาณ 4,571 คน
ด้าน นายวัฒนะชัย นามตะ ประธานชมรมสหวิชาชีพ สธ.กล่าวว่า ยังคงยืนยันเดินทางมาเรียกร้องขอความไม่เป็นธรรมในการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพ 24 สายงาน เนื่องจากขณะนี้มีการคัดเลือกที่อิงเส้นสาย พรรคพวก และไม่อิงตามอายุงาน ใครทำงานก่อน แทนที่จะได้รับการบรรจุ กลับเลือกคนมาทำงานไม่ถึง 3 เดือน ดังนั้น ในวันที่ 26 พ.ย.ตั้งแต่เวลา 8.00 น.พวกตนประมาณพันคนจะมาเรียกร้อง และขอความเป็นธรรมในการบรรจุตำแหน่งข้าราชการ หากไม่ได้ตามที่เสนอไว้จะขอค้างคืนอย่างต่ำเป็นเวลา 1-2 คืน แต่เชื่อว่าผู้บริหารกระทรวงฯจะเข้าใจและเห็นใจพวกตน
“ไม่อยากให้การเรียกร้องของตนไปอิงการเมือง เพราะขณะนี้มีโทรศัพท์ชักจูงให้ไปร่วมการชุมนุมเช่นกัน แต่ทางกลุ่มขอปฏิเสธ เนื่องจากต้องการเรียกร้องเรื่องที่เป็นภายในของกระทรวง” นายวัฒนะชัย กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ.ว่า สิ่งที่กลุ่มพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวกังวลก็คือ การที่ สธ.จะกระจายอำนาจไปยังเขตบริการสุขภาพ เพื่อให้เขตเป็นผู้พิจารณาการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการว่าจะไม่มีความโปร่งใส มีมาตรฐานการพิจารณาที่ต่างกัน และไม่มีธรรมาภิบาล ซึ่งเรื่องนี้ สธ.จะกำหนดหลักเกณฑ์ให้แน่ชัดให้ทุกเขตบริการมีแนวทางเดียวกันในการพิจารณา นอกจากนี้ จะมีระบบตรวจสอบเพื่อถ่วงดุลด้วย หากหน่วยบริการไม่มีความโปร่งใสก็สามารถยื่นอุทธรณ์ไปที่ระดับจังหวัด ระดับเขต และถึงระดับกระทรวงตามลำดับได้ เหมือนกับที่ ก.พ.มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เป็นต้น
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า สำหรับการแบ่งบรรจุข้าราชการของลูกจ้างชั่วคราวนั้น ล่าสุด มีทั้งหมด 25 สายงาน โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาสัดส่วนบรรจุข้าราชการทั่งระหว่างเขตและวิชาชีพ ในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งปัญหาคือมีการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเพิ่มขึ้นทำให้แต่ละวิชาชีพได้สัดส่วนการบรรจุไม่ได้เท่าเดิม อย่างที่กลุ่มพยาบาลมาเรียกร้องในครั้งนี้ก็เพราะได้รับสัดส่วนการบรรจุน้อยกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม การแบ่งสัดส่วนจะพยายามทำให้เกิดความเป็นธรรมที่สุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะได้ทุกคนหรือได้มากที่สุด แต่จะต้องมีการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน