สธ. เผยเหตุสารเคมีรั่วท่าเรือแหลมฉบัง ยอดผู้ป่วยพุ่งแล้ว 180 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นอนพักรักษาใน รพ. รวม 35 ราย อาการไม่รุนแรง ด้าน สสจ. ชลบุรี จัดหน่วยแพทย์ติดตามผลกระทบสุขภาพชาวบ้านรัศมี 5 กม.
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีสารบิวทิล อะคลิเลต (Butyl Acrylate) รั่วไหลที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวานนี้ ว่า เมื่อเวลา 8.30 น. วันนี้ (18 กรกฎาคม 2557) ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่สูดดมแก๊สที่แหลมฉบังเพิ่มขึ้นอีก 75 ราย ทำให้ยอดจำนวนผู้ป่วยเพิ่มจากเมื่อวานที่มี 105 ราย รวมเป็น 180 ราย ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แพทย์รักษาและให้กลับบ้านได้ ขณะนี้ยังนอนพักรักษาในโรงพยาบาล 35 ราย เป็นเด็ก 8 รายและผู้ใหญ่ 27 ราย โดยเข้ารับการรักษาที่ รพ. 5 แห่ง ดังนี้ 1. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 65 ราย 2. รพ.สมิติเวช ศรีราชา 2 ราย 3. รพ.แหลมฉบัง 61 ราย นอนพักรักษาตัว 3 ราย เป็นเด็ก 2 รายและผู้ใหญ่ 1 ราย 4. รพ.พญาไท ศรีราชา 29 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพนักงานจากท่าเรือแหลมฉบังทั้งหมด โดยนอนพักรักษาตัว 20 ราย และ 5. ที่ รพ.วิภาราม ศรีราชา 23 ราย นอนพักรักษาตัว 12 ราย เป็นเด็ก 6 รายและผู้ใหญ่ 6 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการมึนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แสบตา ตาแดง ไอ ง่วงซึม
นพ.วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในวันนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลแหลมฉบัง ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกเฝ้าระวัง และติดตามประเมินผลกระทบสุขภาพของเด็กนักเรียนและชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุในรัศมี 3 - 5 กิโลเมตร จนกว่าจะปลอดภัย ผลการให้บริการวานนี้ ได้ตรวจสุขภาพทั้งหมด 337 ราย พบผู้มีอาการเวียนศีรษะจำนวน 43 ราย แต่อาการไม่รุนแรง แพทย์พยาบาลได้ให้การดูแลรักษาเบื้องต้นที่บ้าน จนอาการเป็นปกติ และจะจัดหน่วยแพทย์ออกให้บริการจนกว่าไม่พบผู้ป่วยในชุมชน ล่าสุดนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นจากแก๊สแล้ว ทั้งนี้ได้ให้ความรู้ประชาชน นักเรียนในการดูแลป้องกันสุขภาพเบื้องต้นหากเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก คือ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก และออกจากพื้นที่โดยเร็ว หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ชำระล้างร่างกายเพื่อลดอาการแสบ และดื่มน้ำบรรจุขวด หากมีอาการผิดปกติเช่น หายใจติดขัด ไอ แสบตา ใจสั่น สามารถไปใช้บริการที่สถานบริการสาธารณสุขทั้งรัฐและเอกชนใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ หรือ โทร.แจ้งขอความช่วยเหลือที่หมายเลข 1669 ตลอดเวลา
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีสารบิวทิล อะคลิเลต (Butyl Acrylate) รั่วไหลที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวานนี้ ว่า เมื่อเวลา 8.30 น. วันนี้ (18 กรกฎาคม 2557) ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่สูดดมแก๊สที่แหลมฉบังเพิ่มขึ้นอีก 75 ราย ทำให้ยอดจำนวนผู้ป่วยเพิ่มจากเมื่อวานที่มี 105 ราย รวมเป็น 180 ราย ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แพทย์รักษาและให้กลับบ้านได้ ขณะนี้ยังนอนพักรักษาในโรงพยาบาล 35 ราย เป็นเด็ก 8 รายและผู้ใหญ่ 27 ราย โดยเข้ารับการรักษาที่ รพ. 5 แห่ง ดังนี้ 1. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 65 ราย 2. รพ.สมิติเวช ศรีราชา 2 ราย 3. รพ.แหลมฉบัง 61 ราย นอนพักรักษาตัว 3 ราย เป็นเด็ก 2 รายและผู้ใหญ่ 1 ราย 4. รพ.พญาไท ศรีราชา 29 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพนักงานจากท่าเรือแหลมฉบังทั้งหมด โดยนอนพักรักษาตัว 20 ราย และ 5. ที่ รพ.วิภาราม ศรีราชา 23 ราย นอนพักรักษาตัว 12 ราย เป็นเด็ก 6 รายและผู้ใหญ่ 6 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการมึนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แสบตา ตาแดง ไอ ง่วงซึม
นพ.วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในวันนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลแหลมฉบัง ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกเฝ้าระวัง และติดตามประเมินผลกระทบสุขภาพของเด็กนักเรียนและชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุในรัศมี 3 - 5 กิโลเมตร จนกว่าจะปลอดภัย ผลการให้บริการวานนี้ ได้ตรวจสุขภาพทั้งหมด 337 ราย พบผู้มีอาการเวียนศีรษะจำนวน 43 ราย แต่อาการไม่รุนแรง แพทย์พยาบาลได้ให้การดูแลรักษาเบื้องต้นที่บ้าน จนอาการเป็นปกติ และจะจัดหน่วยแพทย์ออกให้บริการจนกว่าไม่พบผู้ป่วยในชุมชน ล่าสุดนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นจากแก๊สแล้ว ทั้งนี้ได้ให้ความรู้ประชาชน นักเรียนในการดูแลป้องกันสุขภาพเบื้องต้นหากเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก คือ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก และออกจากพื้นที่โดยเร็ว หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ชำระล้างร่างกายเพื่อลดอาการแสบ และดื่มน้ำบรรจุขวด หากมีอาการผิดปกติเช่น หายใจติดขัด ไอ แสบตา ใจสั่น สามารถไปใช้บริการที่สถานบริการสาธารณสุขทั้งรัฐและเอกชนใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ หรือ โทร.แจ้งขอความช่วยเหลือที่หมายเลข 1669 ตลอดเวลา
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่