แค่ครึ่งปีปอดบวมคร่าชีวิตคนไทยแล้ว 459 ราย คาดป่วยหนักช่วง ส.ค.-ก.ย.ถึง 1.8 หมื่นราย จี้กลุ่มเสี่ยงสูงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี แนะดูแลสุขภาพร่างกายก่อนป่วย
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงนี้ฝนตกชุก ผู้ที่มีภูมิต้านทานน้อยอาจเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจง่าย โดยเฉพาะโรคปอดบวมซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมด โดยตลอดปี 2556 พบผู้ป่วยปอดบวมทั่วประเทศ 184,510 คน เสียชีวิต 1,174 คน สำหรับปี 2557 ตั้งแต่ต้นปี - 16 มิ.ย. พบป่วยแล้ว 87,279 คน พบในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปมากที่สุดร้อยละ 35 รองลงมาคือกลุ่มอายุ 55-64 ปี และเด็กอายุ 1 ปี มีผู้เสียชีวิต 459 คน ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา คาดว่าปีนี้จะมีรายงานผู้ป่วยสูงสุดใน ส.ค.-ก.ย. ประมาณเดือนละ 18,000 ราย โดยตนกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด ย้ำเตือนประชาชนในการดูแลสุขภาพ สวมใส่เสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ หากเปียกฝนให้รีบชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที และขอให้กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย มะเร็งที่กำลังให้เคมีบำบัดและเบาหวาน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ฟรี ที่โรงพยาบาลในสังกัด สธ.
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า โรคปอดบวมเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ หายใจหอบเหนื่อย มักจะเกิดตามหลังป่วยไข้หวัด 3 วัน ผู้ป่วยจะไข้ไม่ลด ไอมีเสมหะ เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ทั้งนี้ ในผู้ป่วยเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ อาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจนหรือไม่ครบทุกอย่าง ควรให้ความสนใจและสงสัยมากกว่าปกติ โดยในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ หรือตัวอุ่นๆ และซึมลงเท่านั้น หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี สังเกตได้จากเด็กจะมีไข้สูง ซึมลง ไม่กินน้ำ กินนม หายใจหอบเร็วหรือหายใจมีเสียงดังหวีด หรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดการเสียชีวิตลงได้
“ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มผักและผลไม้ให้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ถ้าเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรหยุดพัก งดทำงาน งดไปโรงเรียน ควรใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่คนแออัด หมั่นล้างมือให้สะอาดภายหลังสัมผัสสิ่งของหรือผู้ป่วย” อธิบดี คร.กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงนี้ฝนตกชุก ผู้ที่มีภูมิต้านทานน้อยอาจเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจง่าย โดยเฉพาะโรคปอดบวมซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมด โดยตลอดปี 2556 พบผู้ป่วยปอดบวมทั่วประเทศ 184,510 คน เสียชีวิต 1,174 คน สำหรับปี 2557 ตั้งแต่ต้นปี - 16 มิ.ย. พบป่วยแล้ว 87,279 คน พบในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปมากที่สุดร้อยละ 35 รองลงมาคือกลุ่มอายุ 55-64 ปี และเด็กอายุ 1 ปี มีผู้เสียชีวิต 459 คน ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา คาดว่าปีนี้จะมีรายงานผู้ป่วยสูงสุดใน ส.ค.-ก.ย. ประมาณเดือนละ 18,000 ราย โดยตนกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด ย้ำเตือนประชาชนในการดูแลสุขภาพ สวมใส่เสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ หากเปียกฝนให้รีบชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที และขอให้กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย มะเร็งที่กำลังให้เคมีบำบัดและเบาหวาน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ฟรี ที่โรงพยาบาลในสังกัด สธ.
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า โรคปอดบวมเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ หายใจหอบเหนื่อย มักจะเกิดตามหลังป่วยไข้หวัด 3 วัน ผู้ป่วยจะไข้ไม่ลด ไอมีเสมหะ เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ทั้งนี้ ในผู้ป่วยเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ อาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจนหรือไม่ครบทุกอย่าง ควรให้ความสนใจและสงสัยมากกว่าปกติ โดยในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ หรือตัวอุ่นๆ และซึมลงเท่านั้น หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี สังเกตได้จากเด็กจะมีไข้สูง ซึมลง ไม่กินน้ำ กินนม หายใจหอบเร็วหรือหายใจมีเสียงดังหวีด หรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดการเสียชีวิตลงได้
“ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มผักและผลไม้ให้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ถ้าเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรหยุดพัก งดทำงาน งดไปโรงเรียน ควรใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่คนแออัด หมั่นล้างมือให้สะอาดภายหลังสัมผัสสิ่งของหรือผู้ป่วย” อธิบดี คร.กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
