กลุ่มคนรักประกันฯ โยนข้าราชการทำร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อน 5 ปี ชี้ถ้าคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ไม่ใช้บริการอย่างพร่ำเพรื่อ บัตรทองจะนำกลับมาพิจารณา
นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพมีจุดยืนที่ชัดเจนใน การปฏิรูประบบสุขภาพ ต้องกำหนดในรัฐธรรมนูญให้มีกองทุนเดียวเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว ไม่ต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล เพราะประชาชนจ่ายผ่านภาษีแล้ว แต่เมื่อข้าราชการ กระทรวงสาธารณสุขบางส่วนเห็นว่า การร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล “เป็นเรื่องที่ต้องทำ” เราขอสนับสนุนให้ทดลองทำกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการก่อน
“เมื่อข้าราชการ สธ. บางส่วนเห็นว่า การร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล (co-pay) เป็นเรื่องต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดการใช้บริการอย่างพร่้ำเพรื่อ และไม่ให้เป็นภาระงบประมาณแผ่นดินมากเกินไป ระบบต้องล้มเพราะค่าใช้จ่าย กลุ่มคนรักหลักประกันก็ขอสนับสนุนให้ทดลองทำกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการก่อน จนกว่าจะมีหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างน้อย 5 ปี ว่า สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ไม่ทำให้ข้าราชการใช้บริการอย่างพร่ำเพรื่ออีกต่อไปแล้ว จึงกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” นายอภิวัฒน์ กล่าว
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า การเริ่มทดลองใช้ระบบร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล (co-pay) กับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการก่อนoyho หากประสบความสำเร็จจะสามารถทำให้ประเทศประหยัดงบประมาณและนำไปสู่การใช้งบ ประมาณในการดูแลสุขภาพประชาชนที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมาระบบสวัสดิการข้าราชการเพิ่มขึ้นทุกปี โดยที่ยังไม่สามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ และกลายเป็นแหล่งหากำไรของอุตสาหกรรมยาข้ามชาติ
“งานวิจัยพบว่า คนในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการใช้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วย มากกว่าคนระบบประกันสังคมและระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยที่ กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการมีสมาชิกที่เป็นข้าราชการและครอบครัว เพียง 5 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณมากกว่า 60,000 ล้านบาท ถือเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงมาก คือ ประมาณ 12,000 กว่าบาทต่อหัวต่อปี เมื่อเทียบกับกองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดูแลประชากร 48 ล้านคน ด้วยเงินงบประมาณ 109,718,581,300 บาท หรือ 2,755.60 ต่อคนต่อปีเท่านั้น ดังนั้น หากเริ่มทดลองกับระบบสวัสดิการข้าราชการจะให้ภาพที่ชัดเจนที่สุด” นายอภิวัฒน์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพมีจุดยืนที่ชัดเจนใน การปฏิรูประบบสุขภาพ ต้องกำหนดในรัฐธรรมนูญให้มีกองทุนเดียวเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว ไม่ต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล เพราะประชาชนจ่ายผ่านภาษีแล้ว แต่เมื่อข้าราชการ กระทรวงสาธารณสุขบางส่วนเห็นว่า การร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล “เป็นเรื่องที่ต้องทำ” เราขอสนับสนุนให้ทดลองทำกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการก่อน
“เมื่อข้าราชการ สธ. บางส่วนเห็นว่า การร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล (co-pay) เป็นเรื่องต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดการใช้บริการอย่างพร่้ำเพรื่อ และไม่ให้เป็นภาระงบประมาณแผ่นดินมากเกินไป ระบบต้องล้มเพราะค่าใช้จ่าย กลุ่มคนรักหลักประกันก็ขอสนับสนุนให้ทดลองทำกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการก่อน จนกว่าจะมีหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างน้อย 5 ปี ว่า สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ไม่ทำให้ข้าราชการใช้บริการอย่างพร่ำเพรื่ออีกต่อไปแล้ว จึงกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” นายอภิวัฒน์ กล่าว
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า การเริ่มทดลองใช้ระบบร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล (co-pay) กับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการก่อนoyho หากประสบความสำเร็จจะสามารถทำให้ประเทศประหยัดงบประมาณและนำไปสู่การใช้งบ ประมาณในการดูแลสุขภาพประชาชนที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมาระบบสวัสดิการข้าราชการเพิ่มขึ้นทุกปี โดยที่ยังไม่สามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ และกลายเป็นแหล่งหากำไรของอุตสาหกรรมยาข้ามชาติ
“งานวิจัยพบว่า คนในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการใช้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วย มากกว่าคนระบบประกันสังคมและระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยที่ กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการมีสมาชิกที่เป็นข้าราชการและครอบครัว เพียง 5 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณมากกว่า 60,000 ล้านบาท ถือเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงมาก คือ ประมาณ 12,000 กว่าบาทต่อหัวต่อปี เมื่อเทียบกับกองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดูแลประชากร 48 ล้านคน ด้วยเงินงบประมาณ 109,718,581,300 บาท หรือ 2,755.60 ต่อคนต่อปีเท่านั้น ดังนั้น หากเริ่มทดลองกับระบบสวัสดิการข้าราชการจะให้ภาพที่ชัดเจนที่สุด” นายอภิวัฒน์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่