xs
xsm
sm
md
lg

เร่งปั๊มบุคลากรดูแลคนแก่ สกัดโรคอัมพฤกษ์-อัมพาต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เร่งปั๊มบุคลากรดูแลผู้สูงอายุ ตรวจประเมิน-สกัดโรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพฤกษ์-อัมพาต แนะสังเกตสัญญาณเตือน ควรตรวจสุขภาพประจำปีค้นหาปัจจัยเสี่ยง

วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่โรงแรมทีเค พาเลส กทม. นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังการอบรบเรื่อง “Stroke management : stroke prevention in Elderly” ว่า โรคหลอดเลือดสมองหรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตเป็นโรคที่ทำให้ผู้สูงอายุสูญเสียสุขภาวะอันดับแรก ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตหรือพิการช่วยเหลือตนเองไม่ได้ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกประมาณว่าทุกปีจะมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมากกว่า 15 ล้านคนทั่วโลก ซึ่ง 5 ล้านคนมีความพิการถาวร และอีก 5 ล้านคนเสียชีวิต โดย 2 ใน 3 เป็นประเทศกำลังพัฒนา สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องนี้ในไทย กรมการแพทย์ โดยสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ จะเน้นด้านการป้องกันโรค โดยประเมินหาปัจจัยเสี่ยง และการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อลดอัตราการตายจากโรคนี้ให้ไม่เกิน 12 ต่อประชากรแสนคน ตามตัวชี้วัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)

นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า การดำเนินงานจะกำหนดมาตรการ พัฒนาระบบบริการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้มีคุณภาพทั้งในสถานบริการและการบริการเชิงรุกในชุมชน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนผู้สูงอายุแห่งชาติฉบับที่ 2 ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการเพื่อพัฒนางานด้านผู้สูงอายุระดับชาติ และการพัฒนาบุคลากรด้านผู้สูงอายุ ให้มีการส่งเสริมและสนับสนุน รวมทั้งให้มีการผลิตหรือฝึกอบรมบุคลากรด้านผู้สูงอายุ ทั้งระดับวิชาชีพ และผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพและมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย

โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตมีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติญาติสายตรงเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม น้ำหนักเกิน สูบบุหรี่และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ดังนั้น ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจึงควรสังเกตสัญญาณเตือนที่อาจก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการทางระบบประสาทอย่างเฉียบพลัน อาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอาการร่วมกัน เช่น แขน ขา อ่อนแรงครึ่งซีก เดินเซ พูดลำบาก กลืนลำบาก ตามองไม่เห็น หรือเห็นภาพซ้อน สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกอาจมีอาการปวดศีรษะเฉียบพลัน อาเจียน ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาการซึม หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ ต้องรีบไปพบแพทย์ภายใน 3 ชั่วโมง จะสามารถช่วยรักษาชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว

นพ.สุพรรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองสำหรับผู้สูงอายุ คือ ควบคุมความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือด มีกิจกรรมทางกายที่เคลื่อนไหว และออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก ไม่ปล่อยให้อ้วน จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และบุหรี่มือสอง ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้วต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอห้ามหยุดยาเองโดยเด็ดขาด

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น