สธ. เตือนชมบอลโลกระวังนอนไม่พอ กระตุ้นฮอร์โมนอยากอาหาร ส่งผลกินมากระหว่างลุ้นแต่ละแมตช์ เสี่ยงโรคอ้วนถามหา เหตุนิยมกินอาหารให้พลังงานสูง แต่ประโยชน์น้อย แถมโหมโฆษณากระหน่ำช่วงบอลโลก แนะออกกำลังกายเผาผลาญพลังงาน นั่งชมให้ถูกท่า เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ คลายเมื่อย เลี่ยงเล่นพนันบอล
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 จะมีการถ่ายทอดสดในเวลาดึก และมีการถ่ายทอดสดติดต่อกันนานหลายวัน ประชาชนที่ต้องการดูการแข่งขัน หากไม่มีการเตรียมตัวที่ดีอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเรื่องการกินอาหาร อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและสามารถรับชมการแข่งขันได้ตลอดระยะเวลาของการถ่ายทอด สำหรับบางคนที่ไม่สามารถชมการแข่งขันได้ทุกคู่ก็ควรเลือกชมเฉพาะคู่พิเศษที่สนใจ จะช่วยลดปัญหาการพักผ่อนไม่เพียงพอได้ ทั้งนี้ ควรมีการนอนพักให้ได้ 6-8 ชั่วโมง แต่หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ควรหาเวลางีบหลับช่วงพักเที่ยงหรือหัวค่ำก่อนการแข่งขัน มิเช่นนั้น อาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแอและเป็นหวัดได้ง่าย ส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร จนกระตุ้นให้เกิดความหิวและนำไปสู่โรคอ้วน
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงฟุตบอลโลก มักมีการโฆษณาและจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนมากเป็นพวกขนมขบเคี้ยวที่มีไขมันสูง และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งให้พลังงานมาก แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อย เช่น ป็อบคอร์น มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวเกรียบทอด ไก่ทอด ไส้กรอก น้ำอัดลม ชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ เป็นต้น อย่างการดื่มชาเขียวรสน้ำผึ้ง 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี คู่กับมันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุง ขนาด 57 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี ร่างกายได้รับพลังงานทั้งหมด 570 กิโลแคลอรี ส่วนการดื่มน้ำอัดลม 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี คู่กับไส้กรอก 1 ถุง ขนาด 150 กรัม ให้พลังงาน 500 กิโลแคลอรี ร่างกายได้รับพลังงานถึง 700 กิโลแคลอรี ดังนั้น จึงควรควบคุมการบริโภคอย่างพอเหมาะและออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญให้มากขึ้น โดยเฉพาะหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งปริมาณเพียง 1 กรัม แต่ให้พลังงาน 7 กิโลแคลอรี หากดื่มเบียร์ 1 กระป๋อง ขนาด 350 มิลลิลิตร จะได้รับพลังงาน 137 กิโลแคลอรี หากได้รับปริมาณมากเกินความต้องการ จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน
“นอกจากนี้ การชมฟุตบอลผ่านจอโทรทัศน์ควรให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ควรนั่งชมในที่มืด ต้องเปิดไฟลดความจ้าของแสงโทรทัศน์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับตา และหากชมการแข่งขันเป็นเวลานานๆ ผู้ชมควรนั่งอย่างถูกวิธีด้วยการนั่งบนเก้าอี้พร้อมห้อยขาลง ไม่ควรนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรืองอเข่านานๆ หากรู้สึกเมื่อยควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ด้วยการลุกขึ้น หรือออกกำลังกายด้วยการยืดเหยียดอย่างง่ายๆ ระหว่างนั่งชมหรือช่วงพักการแข่งขัน เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ทั้งกล้ามเนื้อแขน ขา คอ และหลัง จะทำให้รู้สึกสบายขึ้น ที่สำคัญควรชมการแข่งขันฟุตบอลเพื่อความสนุกและการส่งเสริมกีฬาเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเล่นพนันบอล เพราะจะก่อให้เกิดความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตตามมา” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 จะมีการถ่ายทอดสดในเวลาดึก และมีการถ่ายทอดสดติดต่อกันนานหลายวัน ประชาชนที่ต้องการดูการแข่งขัน หากไม่มีการเตรียมตัวที่ดีอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเรื่องการกินอาหาร อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและสามารถรับชมการแข่งขันได้ตลอดระยะเวลาของการถ่ายทอด สำหรับบางคนที่ไม่สามารถชมการแข่งขันได้ทุกคู่ก็ควรเลือกชมเฉพาะคู่พิเศษที่สนใจ จะช่วยลดปัญหาการพักผ่อนไม่เพียงพอได้ ทั้งนี้ ควรมีการนอนพักให้ได้ 6-8 ชั่วโมง แต่หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ควรหาเวลางีบหลับช่วงพักเที่ยงหรือหัวค่ำก่อนการแข่งขัน มิเช่นนั้น อาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแอและเป็นหวัดได้ง่าย ส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร จนกระตุ้นให้เกิดความหิวและนำไปสู่โรคอ้วน
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงฟุตบอลโลก มักมีการโฆษณาและจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนมากเป็นพวกขนมขบเคี้ยวที่มีไขมันสูง และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งให้พลังงานมาก แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อย เช่น ป็อบคอร์น มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวเกรียบทอด ไก่ทอด ไส้กรอก น้ำอัดลม ชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ เป็นต้น อย่างการดื่มชาเขียวรสน้ำผึ้ง 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี คู่กับมันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุง ขนาด 57 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี ร่างกายได้รับพลังงานทั้งหมด 570 กิโลแคลอรี ส่วนการดื่มน้ำอัดลม 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี คู่กับไส้กรอก 1 ถุง ขนาด 150 กรัม ให้พลังงาน 500 กิโลแคลอรี ร่างกายได้รับพลังงานถึง 700 กิโลแคลอรี ดังนั้น จึงควรควบคุมการบริโภคอย่างพอเหมาะและออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญให้มากขึ้น โดยเฉพาะหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งปริมาณเพียง 1 กรัม แต่ให้พลังงาน 7 กิโลแคลอรี หากดื่มเบียร์ 1 กระป๋อง ขนาด 350 มิลลิลิตร จะได้รับพลังงาน 137 กิโลแคลอรี หากได้รับปริมาณมากเกินความต้องการ จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน
“นอกจากนี้ การชมฟุตบอลผ่านจอโทรทัศน์ควรให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ควรนั่งชมในที่มืด ต้องเปิดไฟลดความจ้าของแสงโทรทัศน์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับตา และหากชมการแข่งขันเป็นเวลานานๆ ผู้ชมควรนั่งอย่างถูกวิธีด้วยการนั่งบนเก้าอี้พร้อมห้อยขาลง ไม่ควรนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรืองอเข่านานๆ หากรู้สึกเมื่อยควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ด้วยการลุกขึ้น หรือออกกำลังกายด้วยการยืดเหยียดอย่างง่ายๆ ระหว่างนั่งชมหรือช่วงพักการแข่งขัน เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ทั้งกล้ามเนื้อแขน ขา คอ และหลัง จะทำให้รู้สึกสบายขึ้น ที่สำคัญควรชมการแข่งขันฟุตบอลเพื่อความสนุกและการส่งเสริมกีฬาเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเล่นพนันบอล เพราะจะก่อให้เกิดความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตตามมา” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่