กลุ่มแซะห์ใต้แห่ร้องขอสับเปลี่ยนตัวผู้แสวงบุญฮัจญ์ปี 57 เพื่อให้สามี-ภรรยา ญาติ เดินทางไปพร้อมกัน ซัดระบบลงทะเบียนออนไลน์มีปัญหา ด้าน วธ. เร่งประชุมบอร์ดฮัจญ์ 14 พ.ค. นี้ ห่วงจองค่าพัก ตั๋วเครื่องบินไม่ทัน ซาอุฯ อาจตัดโควตาล็อตใหญ่
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าได้มีกลุ่มชมรมผู้นำกลุ่ม (แซะห์) ในพื้นที่ภาคใต้จากจังหวัดสงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสตูล ราวกว่า 300 คน เพื่อยื่นหนังสือและเรียกร้องให้กรมการศาสนา (ศน.) ทบทวนการสั่งห้ามสับเปลี่ยนรายชื่อผู้แสวงบุญฮัจญ์ประจำปี 2557 โดยมีการถือป้ายเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และอธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) ให้ความเป็นธรรมกรณีดังกล่าว
นายมุหรอด ใบสะมะอุ นายกสมาคมผู้ประกอบการฮัจญ์ภาคใต้ กล่าวว่า ระบบลงทะเบียนออนไลน์ของ ศน. ขัดข้องไม่สามารถเข้าชื่อลงทะเบียนได้หลายเดือน จนกระทั่ง ในวันที่ 3 มกราคม 2556 เปิดลงทะเบียนได้ ทำให้มีผู้รอลงทะเบียนออนไลน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งวันที่ 3 ม.ค. เพียงวันเดียวมีผู้มาเข้าลงทะเบียนพร้อมกันหลายหมื่นคน ส่งผลให้ชื่อของผู้แสวงบุญที่ขอลงทะเบียนที่เป็นคู่สามีภรรยาของบริษัทที่ยื่นจดทะเบียนออนไลน์กระจัดกระจายไม่เรียงตามลำดับอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และคู่สามีภรรยาไม่สามารถเดินทางไปแสวงบุญในปีเดียวกันได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญมาก เพราะตามหลักศาสนาแล้ว ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 45 ปี การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์จะต้องมีสามีหรือญาติพี่น้องเดินทางไปด้วย หากไม่มีการผ่อนปรนกฎเกณฑ์นี้ จะมีผู้ยกเลิกการเดินทางประมาณ 2 พันคน จึงอยากให้มีการผ่อนปรนทุกกรณีเหมือนปีที่ผ่านมา และอยากให้เรื่องดังกล่าวต้องได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ เพราะต้องดำเนินการจัดเช่าที่พัก และจองตั๋วเครื่องบินให้แล้วเสร็จใน 14 วันตามเวลาที่กำหนดไว้
ด้าน นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดี ศน. กล่าวว่า การสับเปลี่ยนผู้แสวงบุญในปี 2557 ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากตามประกาศเงื่อนไขการลงทะเบียนผู้แสวงบุญและประกาศมาตรการคุ้มครองผู้แสวงบุญกำหนดให้ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์การเดินทางตามลำดับคิวการลงทะเบียน การลงทะเบียนผู้แสวงบุญเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้แก่บุคคลได้ และปัจจุบันมีผู้แสวงบุญที่ลงทะเบียนออนไลน์ที่รอเดินทางล่าสุด 21,753 คน หากมีการสับเปลี่ยนโควตา ตามที่ผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ร้องขอ จะส่งผลกระทบต่อผู้ลงทะเบียนและอยู่ในลำดับสำรองที่คาดว่าจะได้รับสิทธิ์ในการเดินทางในลำดับถัดไป
ส่วนกรณีที่ผู้แสวงบุญได้รับสิทธิ์ไปประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปี 2557 แล้ว ไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ได้ หรือ กรณีที่มีเครือญาติได้รับสิทธิ์การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์คนละปี แต่ต้องการเดินทางไปในปีเดียวกันนั้น ที่ผ่านมาได้มีมาตรการแก้ไขดำเนินการ 2 รูปแบบ คือ 1. ตามเงื่อนไขประกาศการลงทะเบียนผู้แสวงบุญ กำหนดอัตราส่วนผู้แสวงบุญ 4 คน ต่อผู้ประกอบการ 1 คน ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการ 1 คนนั้นไม่มีการลงทะเบียนเป็นสิทธิ์ของผู้ประกอบกิจการ ดังนั้น กรณีที่สามี ภรรยา หรือญาติพี่น้องที่ได้รับสิทธิ์เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์คนละปีกัน ผู้ประกอบกิจการสามารถใช้สิทธิ์โควตาผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีเดียวกันได้
2. ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์ไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปี 2557 แล้วหากยังไม่พร้อมเดินทางในปีนี้ หรือมีเครือญาติในปีถัดไปสามารถขอเลื่อนการเดินทางไปในปีถัดไปได้ โดยไม่กระทบสิทธิ์ของบุคคลอื่น โดยแจ้งความจำนงผ่านผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ อย่างไรก็ตาม การเปิดลงทะเบียนออนไลน์และออกมาตรการดังกล่าวของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทยนั้นเป็นการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้แสวงบุญเป็นไปตามลำดับคิว ลำดับเวลา ให้โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
ด้าน นายสนธยา คุณปลื้ม รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้อธิบดี ศน. หารือกับผู้ประกอบกิจการและชี้แจง ไปตามระเบียบการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่กำหนดไว้ในเบื้องต้น ซึ่งกรณีที่ผู้ประกอบการขอให้ผ่อนปรนการสับเปลี่ยนรายชื่อผู้ลงทะเบียนที่เป็นคู่สามีภรรยา หรือญาติพี่น้องนั้น ส่วนตัวเห็นว่าทำได้ แต่ผู้ประกอบการจะต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ลงทะเบียนออนไลน์ที่ถูกข้ามสิทธิ์เป็นหลักฐานยืนยัน เพื่อป้องกันมิให้ ศน.ถูกฟ้องร้องในภายหลัง
นายปรีชา กันธิยะ ปลัด วธ. กล่าวภายหลังหารือกับสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจญ์มีมติพิจารณาขอให้มีการสับเปลี่ยนผู้แสวงบุญฮัจญ์โดยทางผู้ประกอบการได้เสนอแนวทางไว้หลายกรณี อาทิ คู่สามี ภรรยาหรือญาติ ต้องมีการรับรองเนื่องจากตามหลักศาสนาแล้วหากสามีเดินทางไปแสวงบุญฮัจญ์จะต้องนำภรรยาไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีกรณีผู้แสวงบุญฮัจญ์ที่ได้รับโควตาปีนี้แต่ไม่พร้อมเดินทางต้องการสับเปลี่ยนให้ผู้มีความพร้อม มีข้อแม้ว่า ผู้สับเปลี่ยนต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนในอยู่ในบริษัทเดียวกัน ทั้งนี้ หากไม่มีการแก้ไขให้มีการสับเปลี่ยนเพื่อให้ตรงกับจำนวนโควตาที่ขอมาจากทางการซาอุดิอาระเบียหรือมีคนไม่เดินทางเต็มจำนวนโควตาก็จะเกิดปัญหาตามมาทีหลัง ไทยอาจถูกตัดโควตาได้ ซึ่งตนจะนำข้อเสนอทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ปัญหาการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 14 พ.ค. นี้
ทั้งนี้ ถ้าหากมีการพิจารณาว่าทำได้ก็จะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาในการวางเงินประกันค่าเช่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบิน
