แถลงการณ์ 9 สมัชชาเครือข่ายปฏิรูปการศึกษา ชู 7 แนวทางปฏิรูป จี้รัฐลดกุมอำนาจ แต่กระจายไปสู่ท้องถิ่น ชุมชน ทำหน้าที่บริหารจัดการศึกษา และดึงทุกภาคส่วนร่วมจัดการศึกษามากขึ้น “ชัชวาลย์” จ่อยื่นข้อเสนอปฏิรูปให้รัฐบาลใหม่ ลั่นต้องผลักดันให้เกิดเป็นวาระแห่งชาติ และเร่งปฏิรูปทันทีในการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษ 2
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่โรงแรมเอบีน่าเฮาส์ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสมาคมสภาการศึกษาทางเลือก (สกล.) ร่วมกับ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ รองประธานกรรมการบริหาร สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว และ นพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกลุ่มสมัชชาเครือข่ายปฏิรูปการศึกษา 9 เครือข่าย ประกอบด้วย เครือข่ายการศึกษาทางเลือก เครือข่ายผู้ปกครอง เครือข่ายโรงเรียนขนาดเล็กสังกัด สพฐ. เครือข่ายสภาคณบดีคณะศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์แห่งประเทศไทย เครือข่ายโรงเรียนเอกชน เครือข่ายโรงเรียนสังกัด อปท. กลุ่มธุรกิจเอกชน กลุ่มเด็กและเยาวชน และกลุ่มสื่อและคนสื่อที่สนใจงานด้านเด็กเยาวชนและสังคม ได้ร่วมออกแถลงการณ์เวทีสมัชชาเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา : 7 ปฏิรูป 7 ขับเคลื่อน
โดย นายชัชวาลย์ กล่าวว่า สกล. ร่วมกับ สสส. และเครือข่ายฯ ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมา เพื่อรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะนำมาสู่การกำหนดแนวทางขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา มาตลอดเดือน มี.ค. 2557 โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาของสังคมไทยให้ดีขึ้น มุ่งเน้นส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนได้เต็มศักยภาพและเป็นตามธรรมชาติของแต่ละคนบนพื้นฐานความหลากหลาย เรียนรู้อย่างมีความสุข และต่อเนื่องตลอดชีวิตโดยผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้เพื่อการพัฒนาสังคม ชุมชน และชีวิตตนเองอย่างเหมาะสมไม่ใช่เพียงแค่มีความรู้ ความสามารถสนองความต้องการของสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการจัดการศึกษากระแสหลักที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ดังนั้น ในครั้งนี้ในนามสมัชชาเครือข่ายปฏิรูปการศึกษาไทย ได้ออกแถลงการณ์ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา 7 ปฏิรูป 7 ขับเคลื่อน มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การเสนอแนะแนวทางจัดการศึกษาที่เหมาะสม ดังนี้
สำหรับ 7 ปฏิรูป ได้แก่ 1. ปฏิรูปเป้าหมายทางการศึกษา โดยเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ของการศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพและสังคมที่เข้มแข็ง เชื่อมั่นในการเรียนรู้ที่หลากหลายตลอดชีวิต 2. ปฏิรูปการกระจายอำนาจ ลดบทบาทของส่วนกลางลง คืนสิทธิและกระจายอำนาจหน้าที่จัดการศึกษาให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม 3. ปฏิรูปนโยบาย/กฎหมายการศึกษา ต้องแยกการเมืองออกจากการศึกษาและผลักดันให้การศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ 4. ปฏิรูปกลไกการจัดการศึกษา โดยจัดตั้งองค์การอิสระด้านการศึกษาในระดับชาติที่มาจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง 5. ปฏิรูปการบริหารจัดการ ทำให้สถานศึกษามีอิสระในการจัดการ ให้ตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมบริหารจัดการ และมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนหลักสูตร การวัดผลและการประเมิน โดยเฉพาะควรจัดสรรงบประมาณกระจายให้ผู้จัดการศึกษา 80% ลดงบประมาณด้านบุคลากรให้เหลือ 20% และต้องจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องความเป็นจริง 6. ปฏิรูประบบการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีศูนย์พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาและสร้างหลักสูตรผลิตครูใหม่ เน้นผู้มีจิตวิญญาณความเป็นครูและมีจิตวิทยาในการสอน และ 7. ปฏิรูปการสื่อสารเพื่อการศึกษา สื่อควรมีบทบาทให้ข้อมูลข่าวสารให้สังคมตื่นตัวและจุดประกายให้ทุกภาคส่วนร่วมปฏิรูปการศึกษา
นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในส่วน 7 แนวทางขับเคลื่อน อาทิ จะเน้นปฏิบัติการทันที ทั้งในส่วนที่แต่ละกลุ่ม/เครือข่ายจะเร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างจริงจังเห็นผลเป็นรูปธรรมในระดับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชนท้องถิ่น และจังหวัด มีการสร้างภาคีเครือข่าย ขยายความร่วมมือหลากหลายและกว้างขวางขึ้น นอกจากนี้ จะมีการถอดบทเรียน จัดทำฐานข้อมูลเพื่อสร้างต้นแบบที่ดีให้แก่สังคม เพื่อจุดประกายให้คนตื่นตัวร่วมปฏิรูปการศึกษา เป็นต้น
“ในเชิงนโยบายเราจะร่วมกันผลักดันให้การศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ และจะให้มีการกำหนดว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีก็จะไม่ยกเลิกแนวทางปฏิรูปโดยยังต้องเดินหน้าต่อไปอีก 5-6 ปี ซึ่งทันทีที่ได้รัฐบาลชุดใหม่ผมและเครือข่ายจะนำข้อเสนอ 7 ปฏิรูปไปยื่นรวมทั้งจะเสนอให้จัดตั้งสภาปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ตั้งแต่ชุมชนถึงระดับชาติ ทั้งนี้ ข้อเสนอเหล่านี้อยากจะให้พิจารณาดำเนินการในช่วงปฏิรูปการศึกษา ทศวรรษที่ 2 ทันทีโดยเฉพาะในประเด็นที่ระบุว่าเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา แต่ในความเป็นจริงแล้วตลอดการปฏิรูปการศึกษาทั้ง 2 ทศวรรษที่ผ่านมากลับไม่มีการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ยังคงเป็นการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางจุดเดียว” นายชัชวาลย์ กล่าว