xs
xsm
sm
md
lg

จับตา “ติวเตอร์” แอ๊บเนียนสอบครูผู้ช่วย สั่งตรวจข้อมูลผู้สอบทุกคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลขาฯ กพฐ. สั่งตรวจสอบข้อมูลเลข 13 หลักผู้เข้าสอบครูผู้ช่วยทุกคน นับจำนวนผู้บริหารและครู มีเท่าใด ส่วนกรณีเป็น ขรก. ครู แต่มาสอบหากขออนุญาตมาถูกต้องไม่ถือว่าเป็นความผิด และไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ย้ำเน้นจับตากลุ่มติวเตอร์ที่มาร่วมสอบโดยไม่ขออนุญาตผู้บังคับบัญชา ชี้มีไม่กี่กลุ่มส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ด้าน ผอ.สพป.นครราชสีมา 6 ย้ำไม่มีรายงานทุจริต แม้จะได้รับเบาะแสเข้ามาหลายกรณี แจงประกาศผลแล้ววานนี้

วันนี้ (23 เม.ย.) ตามที่ภาคเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ตรวจสอบกรณีมีข้าราชการครู คศ.1 ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งช่วยราชการอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด และเป็นติวเตอร์ชื่อดังได้ลงสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี 2557 ใน 2 เขตพื้นที่การศึกษา คือ สนามสอบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) บุรีรัมย์ เขต 32 และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 6 โดยลงสมัครพร้อมกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง 2 คนได้ที่นั่งสอบติดกันทั้ง 2 สนามสอบ อย่างไรก็ตามในวันสอบทั้ง 2 คนได้เลือกไปสอบที่สนามสอบ สพป.นครราชสีมา เขต 6

ล่าสุด นายศักดา จันทร์ฝอย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 6 กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานการทุจริตเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ของตนเอง ซึ่งกรณีดังกล่าวก็สามารถทำได้ เพราะอาจจะเป็นการมาสมัครสอบเพื่อต้องการโอนย้าย ทั้งนี้ หากกรรมการคุมสอบพบพิรุธจริงก็จะดำเนินการไล่ออกจากห้องสอบทันที่ แต่กรณีนี้ยังไม่มีรายงานที่จะพบพิรุธในการสอบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการสอบครูผู้ช่วยในเขตพื้นที่ฯของตนได้มีการประกาศผลสอบไปแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 เม.ย.

ด้าน นายสมเกียรติ บุญรอด ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า กรณีที่มีการออกมาเปิดเผยว่ามีติวเตอร์ที่เป็นครูกับภรรยาไปสอบครู ผู้ช่วยที่ สพป. นครราชสีมา เขต 6 นั้นในวันที่ 19 เม.ย. ที่เป็นวันสอบวันแรกตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ สพป. นครราชสีมา เขต 6 ก็พบว่าทั้งสองคนมาสมัครสอบจริงแต่ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชามาสอบถูกต้อง ตามระเบียบและสาเหตุที่มาสอบเนื่องจากทั้งสองคนต้องการมาสอบเพื่อย้ายมาอยู่ ที่เขตพื้นที่การศึกษานี้ ทั้งนี้เมื่อพบว่าทั้งสองคนที่เป็นสามีภรรยากันแต่คนละนามสกุลมาสอบในห้อง เดียวกันตนจึงได้ให้มีการแยกห้องสอบกันคนละห้อง ดังนั้นในกรณีนี้จึงไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด แม้ว่าครูที่เป็นสามีจะ เป็นติวเตอร์มาสอบก็ตาม

ส่วนที่ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการ กพฐ. มอบให้สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) ไปตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าสอบที่เป็นครูและผู้อำนวยการโรงเรียนที่อาจจะเข้ามาสอบนั้นกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งหากเป็นครูที่ขออนุญาตมามาสอบเพื่อย้ายก็ไม่ผิดปกติอะไร แต่ที่กำลังจับตาดูเป็นพิเศษคือกลุ่มที่เป็นชุดติวเตอร์ เปิดติวสอบครูแล้วแอบมาสอบโดยไม่ได้มีการขออนุญาตทาง สพฐ. กำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่ ซึ่งเท่าที่ทราบจะเป็นกลุ่มที่เปิดศูนย์ติวอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็น ส่วนใหญ่และมีอยู่ไม่กี่กลุ่มเท่านั้น

ขณะที่ นายอภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ สพร. กำลังตรวจสอบข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้เข้าสอบครูผู้ช่วยในครั้งใน 89 เขตพื้นที่การศึกษา และ 1 สำนักบริหารงานการศึกษา (สศศ.) ที่เปิดสอบครูผู้ช่วยว่าจะมีใครที่เป็นข้าราชการครู และผู้บริหารสถานศึกษามาสมัครสอบในคราวนี้บ้างซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเนื่องจากมีผู้มาสอบเป็นจำนวนมาก

นางภานิชา อินทร์ช้าง รองผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 รักษาการ ผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง นายธนกฤต ศุภเลิศ ครูโรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม สังกัด สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากมีการสืบพยานบุคคลและมีหลักฐานพบว่า มีกลุ่มผู้มาสมัครสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้เป็นผู้ที่ไปสมัครติวกับนายธนกฤต ดังนั้นขอรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนก่อน คาดว่าจะสรุปได้ไม่เกิน 1-2 วันนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น