บอร์ด กช. ไฟเขียวปรับอัตราเก็บเพดานค่าธรรมเนียมการศึกษาใหม่ เฉลี่ย 1-2 พันบาท หลังไม่ได้ปรับมานานถึง 10 ปี เริ่มทันทีปีการศึกษา 57 ระบุเป็นอัตราที่ สกศ. เคยศึกษาไว้นานแล้ว พร้อมมอบไปดูใหม่ให้ทันสมัยและเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ
นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ว่า คณะกรรมการ กช. มีมติเห็นชอบตามที่ สช. เสนอขอปรับเพิ่มเพดานการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาของโรงเรียนเอกชนที่รับเงินอุดหนุนรายหัวจากรัฐจำนวนกว่า 3,000 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยการปรับเพดานครั้งนี้ เป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกในรอบ 10 ปี สาเหตุที่ต้องปรับเพิ่มเพดานการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา เนื่องจากโรงเรียนเอกชนกำลังได้รับความเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อีกทั้งยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มจากนโยบายการเพิ่มเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทของรัฐบาล ทำให้ต้องปรับเพิ่มเงินเดือนและค่าตอบแทนของครูโรงเรียนเอกชนเพิ่มตามด้วย
ทั้งนี้ เพดานการเก็บค่าธรรรมเนียมของโรงเรียนเอกชน จะต้องอ้างอิงตามตัวเลขค่าใช้จ่ายรายหัวที่เหมาะสมซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้ทำวิจัยอัตราค่าธรรมการศึกษาที่เหมาะสมไว้ในปี 2553 ซึ่งจะปรับเพิ่มจากอัตราที่เก็บอยู่เดิม ดังนี้ ระดับก่อนประถมศึกษา เดิม 13,260 บาทต่อปี เป็น 14,900 บาทต่อปี ประถมศึกษา เดิม 12,960 บาทต่อปี เป็น ระดับประถมศึกษา 14,900 บาทต่อปี มัธยมต้น เดิม 15,652 บาทต่อปี เป็น 17,780 บาท มัธยมปลายสายสามัญ เดิม 15,952 บาทต่อปี เป็น 17,780 บาทต่อปี และมัธยมปลายสายอาชีพ เดิม ระหว่าง 16,222-22,000 บาทต่อปี เป็น 19,910-29,970 บาทต่อปี แต่ที่ผ่านมา สช. ยังไม่เคยปรับเพดานค่าธรรมเนียมตามนั้น ก็จะถือโอกาสนี้ปรับเพดานค่าธรรมเนียมตามอัตราค่าใช้จ่ายรายหัวใหม่
“โรงเรียนในกลุ่มนี้จะรับเงินสนับสนุนจากรัฐ 70% ของอัตราค่าใช้จ่ายรายหัวข้างต้น ที่เหลืออีก 30% อนุญาตให้โรงเรียนเรียกเก็บจากผู้ปกครองในรูปของค่าธรรมเนียมการศึกษาได้ ซึ่งปัจจุบันโรงเรียน จะเรียกเก็บประมาณปีละ 3,000 บาท สำหรับระดับก่อนประถมศึกษาและประถมศึกษา ส่วนระดับมัธยมเรียกเก็บประมาณ 2,000 บาท เพราะฉะนั้น การปรับเพิ่มเพดานค่าธรรมเนียมครั้งนี้ จะส่งผลให้ผู้ปกครองจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มแค่ 1,000-2,000 บาท ซึ่งไม่น่าจะสร้างความเดือดร้อนให้มากนัก อีกทั้งผู้ปกครองที่เป็นราชการก็สามารถเบิกค่าเล่าเรียนได้ ซึ่งกระทรวงการคลังก็ปรับเพดานการเบิกค่าเทอมให้เพิ่มอีก 400 บาท”นายบัณฑิต กล่าวและว่า จากนี้ สช. จะต้องออกระเบียบการขึ้นค่าธรรมเนียมการเรียนของโรงเรียนเอกชนเสนอให้ รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ลงนาม เพื่อมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 เป็นต้นไป โดยเพดานใหม่นี้อาจจะใช้แค่ ปีการศึกษา 2557 นี้เท่านั้น โดยที่ประชุมได้มอบให้ สกศ. ไปวิจัยหาตัวเลขค่าใช้จ่ายรายหัวที่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน และอาจจะนำมาใช้ปรับเพดานค่าธรรมเนียมการเรียนของโรงเรียนเอกชนใหม่อีกครั้งในปีการศึกษา 2558
นายบัณฑิตย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลังจากที่ระเบียบการขึ้นค่าธรรมเนียม มีผลบังคับใช้แล้ว โรงเรียนต้องประกาศให้ผู้ปกครองทราบอย่างละเอียดตั้งแต่ก่อนเปิดภาคเรียน ว่าจะเรียกเก็บรายการใดในอัตราเท่าไหร่บ้าง เพื่อให้ผู้ปกครองมีสิทธิตัดสินใจล่วงหน้าว่า จะให้บุตรหลานเรียนที่โรงเรียนเอกชนแห่งนั้นๆ หรือไม่ สำหรับโรงเรียนเอกชนการกุศลที่รับเงินอุดหนุนจากรัฐ 100% มีประมาณ 100 กว่าโรงเรียนจะไม่สามารถเรียกเก็บเงินใดๆ เพิ่มเติมจากผู้ปกครองอีกได้ แต่สช. จะต้องเตรียมหางบประมาณ 700 ล้าน ไว้เพื่อรองรับโรงเรียนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งหากจำเป็นอาจต้องของบกลางเพิ่ม