สธ.-สปสช.เงียบ ยังไม่ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลัง สตง.ตรวจพบ สสจ.ใช้งบผิดวัตถุประสงค์ 15 จังหวัด ทั้งงบค่าเสื่อม ลือใช้งบไปดูงานต่างประเทศ ด้าน เลขาธิการ สปสช.เผยทำหนังสือลงนามตั้งคณะกรรมการ ส่งไปยัง สธ.แล้ว ระบุไม่ทราบว่าปลัด สธ.ลงนามแล้วหรือยัง ชี้ใช้งบผิดวัตถุประสงค์ อาจเพราะเข้าใจผิด ตีความหมายต่างกัน
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้งกระทรวงสาะารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทำหน้าที่เป็น สปสช.ระดับจังหวัด ผิดวัตถุประสงค์ ทั้งที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ทำหนังสือฉบับที่ ตผ 0037/3548 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2556 เรื่อง การทักท้วงเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แก่ทั้งสองหน่วยงาน รวมทั้งให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว แต่เรื่องยังเงียบ โดย สตง.พบว่ามีการใช้งบประมาณระหว่างปี 2554-2555 ผิดวัตถุประสงค์ เบื้องต้นพบถึง 400 ล้านบาท แต่ตรวจสอบพบในปี 2556 มีประมาณ 15 จังหวัดที่เข้าข่าย แต่ สธ.และสปสช.ยังไม่เปิดเผยตัวจังหวัด
“งบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นงบประมาณส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และยังเป็นงบค่าเสื่อม คือ งบที่ใช้สำหรับการปรับปรุง พัฒนาครุภัณฑ์ และการบริการทางการแพทย์ต่างๆ แม้จะไม่มาก เมื่อเทียบกับงบอื่นๆ แต่ก็ถือว่ามีจำนวนสูงและควรนำไปใช้ถูกวิธี เพราะ สตง.แจ้งว่ามีการใช้เงินไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยเฉพาะงบบัญชี 6 คือ 1.งบค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 2.งบตามมาตรา 41 เสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ 3.งบบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 4.งบค่าเสื่อม และ 5.การกันเงินค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายเพื่อบริหารจัดการในระดับจังหวัด” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ที่น่าสนใจคือ บุคลากรสาธารณสุขบางกลุ่มได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ในการอบรมบุคลากร และศึกษาดูงานนอกสถานที่ ซึ่งไม่แน่ชัดว่ามีการไปดูงานต่างประเทศหรือไม่ เรื่องนี้จึงควรตรวจสอบโดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยไว้คาราคาซัง อย่างไรก็ตาม แม้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.จะเรียกประชุมผู้ตรวจราชการฯ นายแพทย์ สสจ.ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ เพื่อหารือแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดถึงการตั้งคณะกรรมการสอบ มีเพียงจะขอหารือกับ สปสช.หากไม่สามารถเจรจาได้บุคลากรในสังกัด สธ.จะยกเลิกการเป็นกรรมการในกองทุนหลักประกันฯ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะก่อประโยชน์อย่างไร
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า สตง.ทำหนังสือให้ สธ.และ สปสช.จริง ซึ่งเมื่อ สตง.ตรวจพบปัญหาดังกล่าวใน 15 จังหวัด จึงทำหนังสือให้ สปสช.และ สธ.ร่วมกันตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมา ซึ่งตนได้ทำหนังสือเพื่อร่วมแต่งตั้งคณะกรรมการฯแล้วมีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง ผู้แทนจากสำนักงานปลัด สธ.และจาก สปสช.ซึ่งตนในฐานะเลขาธิการ สปสช.ลงนามแล้ว จึงส่งไปยัง สธ.เพื่อรอให้ปลัด สธ.ลงนามแล้วเมื่อสองสัปดาห์ ซึ่งไม่แน่ใจว่า ปลัด สธ.ลงนามแล้วหรือยัง แต่หากลงนามแล้วก็พร้อมจะนัดประชุมพิจารณาเรื่องทันที
“เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก เพราะเมื่อลงนามแล้วก็ตั้งคณะกรรมกาตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ สตง.แนะนำได้ทันที ทั้งนี้ การใช้งบผิดวัตถุประสงค์ จริงๆ อาจไม่เกี่ยวกับการทุจริต แต่มาจากความไม่เข้าใจก็ได้ อย่างงบค่าเสื่อมทางการแพทย์จะให้ในการนำไปปรับปรุงครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และการบริการสาธารณสุขต่างๆ ซึ่ง สสจ.มีการนำงบไปใช้ปรับปรุงหอพักแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข ซึ่งจริงๆ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงบค่าเสื่อม แต่สตง.อาจเข้าใจอีกความหมาย มองว่างบค่าเสื่อมต้องเป็นครุภัณฑ์อย่างเดียว ตรงนี้ก็ต้องมีการพิจารณา ส่วนที่บอกว่าอาจมีการนำงบไปใช้ดูงานต่างประเทศต้องมีการตรวจสอบ” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้งกระทรวงสาะารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทำหน้าที่เป็น สปสช.ระดับจังหวัด ผิดวัตถุประสงค์ ทั้งที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ทำหนังสือฉบับที่ ตผ 0037/3548 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2556 เรื่อง การทักท้วงเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แก่ทั้งสองหน่วยงาน รวมทั้งให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว แต่เรื่องยังเงียบ โดย สตง.พบว่ามีการใช้งบประมาณระหว่างปี 2554-2555 ผิดวัตถุประสงค์ เบื้องต้นพบถึง 400 ล้านบาท แต่ตรวจสอบพบในปี 2556 มีประมาณ 15 จังหวัดที่เข้าข่าย แต่ สธ.และสปสช.ยังไม่เปิดเผยตัวจังหวัด
“งบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นงบประมาณส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และยังเป็นงบค่าเสื่อม คือ งบที่ใช้สำหรับการปรับปรุง พัฒนาครุภัณฑ์ และการบริการทางการแพทย์ต่างๆ แม้จะไม่มาก เมื่อเทียบกับงบอื่นๆ แต่ก็ถือว่ามีจำนวนสูงและควรนำไปใช้ถูกวิธี เพราะ สตง.แจ้งว่ามีการใช้เงินไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยเฉพาะงบบัญชี 6 คือ 1.งบค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 2.งบตามมาตรา 41 เสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ 3.งบบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 4.งบค่าเสื่อม และ 5.การกันเงินค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายเพื่อบริหารจัดการในระดับจังหวัด” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ที่น่าสนใจคือ บุคลากรสาธารณสุขบางกลุ่มได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ในการอบรมบุคลากร และศึกษาดูงานนอกสถานที่ ซึ่งไม่แน่ชัดว่ามีการไปดูงานต่างประเทศหรือไม่ เรื่องนี้จึงควรตรวจสอบโดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยไว้คาราคาซัง อย่างไรก็ตาม แม้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.จะเรียกประชุมผู้ตรวจราชการฯ นายแพทย์ สสจ.ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ เพื่อหารือแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดถึงการตั้งคณะกรรมการสอบ มีเพียงจะขอหารือกับ สปสช.หากไม่สามารถเจรจาได้บุคลากรในสังกัด สธ.จะยกเลิกการเป็นกรรมการในกองทุนหลักประกันฯ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะก่อประโยชน์อย่างไร
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า สตง.ทำหนังสือให้ สธ.และ สปสช.จริง ซึ่งเมื่อ สตง.ตรวจพบปัญหาดังกล่าวใน 15 จังหวัด จึงทำหนังสือให้ สปสช.และ สธ.ร่วมกันตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมา ซึ่งตนได้ทำหนังสือเพื่อร่วมแต่งตั้งคณะกรรมการฯแล้วมีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง ผู้แทนจากสำนักงานปลัด สธ.และจาก สปสช.ซึ่งตนในฐานะเลขาธิการ สปสช.ลงนามแล้ว จึงส่งไปยัง สธ.เพื่อรอให้ปลัด สธ.ลงนามแล้วเมื่อสองสัปดาห์ ซึ่งไม่แน่ใจว่า ปลัด สธ.ลงนามแล้วหรือยัง แต่หากลงนามแล้วก็พร้อมจะนัดประชุมพิจารณาเรื่องทันที
“เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก เพราะเมื่อลงนามแล้วก็ตั้งคณะกรรมกาตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ สตง.แนะนำได้ทันที ทั้งนี้ การใช้งบผิดวัตถุประสงค์ จริงๆ อาจไม่เกี่ยวกับการทุจริต แต่มาจากความไม่เข้าใจก็ได้ อย่างงบค่าเสื่อมทางการแพทย์จะให้ในการนำไปปรับปรุงครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และการบริการสาธารณสุขต่างๆ ซึ่ง สสจ.มีการนำงบไปใช้ปรับปรุงหอพักแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข ซึ่งจริงๆ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงบค่าเสื่อม แต่สตง.อาจเข้าใจอีกความหมาย มองว่างบค่าเสื่อมต้องเป็นครุภัณฑ์อย่างเดียว ตรงนี้ก็ต้องมีการพิจารณา ส่วนที่บอกว่าอาจมีการนำงบไปใช้ดูงานต่างประเทศต้องมีการตรวจสอบ” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
