สธ.ตั้งคณะกรรมการชั่วคราว จัดทำร่างการตั้งและระเบียบข้อบังคับกองทุน พกส. สร้างหลักประกันแก่ พกส.ทั้งกรณีตาย ออกจากงาน เกษียณอายุ หรือลาออกจากกองทุน มีวาระ 1 ปี คาดประกาศใช้เป็นทางการภายในปี 2558
วันนี้ (11 มี.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.ดำเนินการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวประมาณ 1.3 แสนคน เป็นพนักงานกระทรวสาธารณสุข (พกส.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้คือการเตรียมจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นสวัสดิการส่งเสริมการออม และเป็นหลักประกันแก่ พกส.กรณีเสียชีวิต ออกจากงาน เกษียณอายุ หรือลาออกจากกองทุน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นการชั่วคราว 1 ชุด มีวาระหนึ่งปี เพื่อทำหน้าที่จัดทำร่างข้อบังคับกองทุนดังกล่าว ให้มีผลใช้บังคับภายใน 2 ปีนี้
นพ.วชิระ กล่าวว่า คณะกรรมการกองทุน พกส.ชุดชั่วคราวมี 23 คน มีปลัด สธ.เป็นประธานกรรมการ คณะกรรมการมาจากกรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 6 คน ประกอบด้วย รองปลัด สธ.ที่รับผิดชอบเรื่อง พกส.ผู้ตรวจราชการ สธ.ผู้อำนวยการ (ผอ.) กลุ่มประกันสุขภาพ ผอ.กลุ่มกฎหมาย ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล และ ผอ.สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ คณะกรรมการที่มาจากผู้แทนส่วนราชการ 8 คน ประกอบด้วย อธิบดีกรม ตัวแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และผู้แทน พกส.จากรมวิชาการและจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวม 8 คน สำหรับการเลือกกรรมการที่จะมาจากผู้แทน พกส. จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกมาจากกรมวิชาการ เฉพาะสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้เขตบริการสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เลือกอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อออกเสียงลงคะแนนเลือกผู้แทน พกส.2 คนผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด เพื่อความเป็นธรรมและความโปร่งใส ได้ผู้แทนที่เป็นที่ยอมรับทุกฝ่าย โดยคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯชุดชั่วคราวนี้มีวาระ 1 ปี ขณะนี้ได้ผู้แทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผลการประชุมคณะกรรมการฯครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาแนวทางการจัดทำร่างข้อบังคับกองทุน พกส.ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานย่อย 1 ชุด เพื่อจัดหาภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าร่วมจัดทำข้อบังคับกองทุน พกส.โดยกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน จากนั้นจะประชุมรับฟังความคิดเห็นจากบอร์ด เพื่อให้ความเห็นชอบ และเสนอปลัด สธ.ลงนามประกาศใช้ และยื่นขอจดทะเบียนกองทุนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามข้อกฎหมาย เพื่อใช้อย่างถาวรต่อไป” รองปลัด สธ. กล่าว
วันนี้ (11 มี.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.ดำเนินการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวประมาณ 1.3 แสนคน เป็นพนักงานกระทรวสาธารณสุข (พกส.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้คือการเตรียมจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นสวัสดิการส่งเสริมการออม และเป็นหลักประกันแก่ พกส.กรณีเสียชีวิต ออกจากงาน เกษียณอายุ หรือลาออกจากกองทุน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นการชั่วคราว 1 ชุด มีวาระหนึ่งปี เพื่อทำหน้าที่จัดทำร่างข้อบังคับกองทุนดังกล่าว ให้มีผลใช้บังคับภายใน 2 ปีนี้
นพ.วชิระ กล่าวว่า คณะกรรมการกองทุน พกส.ชุดชั่วคราวมี 23 คน มีปลัด สธ.เป็นประธานกรรมการ คณะกรรมการมาจากกรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 6 คน ประกอบด้วย รองปลัด สธ.ที่รับผิดชอบเรื่อง พกส.ผู้ตรวจราชการ สธ.ผู้อำนวยการ (ผอ.) กลุ่มประกันสุขภาพ ผอ.กลุ่มกฎหมาย ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล และ ผอ.สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ คณะกรรมการที่มาจากผู้แทนส่วนราชการ 8 คน ประกอบด้วย อธิบดีกรม ตัวแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และผู้แทน พกส.จากรมวิชาการและจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวม 8 คน สำหรับการเลือกกรรมการที่จะมาจากผู้แทน พกส. จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกมาจากกรมวิชาการ เฉพาะสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้เขตบริการสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เลือกอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อออกเสียงลงคะแนนเลือกผู้แทน พกส.2 คนผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด เพื่อความเป็นธรรมและความโปร่งใส ได้ผู้แทนที่เป็นที่ยอมรับทุกฝ่าย โดยคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯชุดชั่วคราวนี้มีวาระ 1 ปี ขณะนี้ได้ผู้แทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผลการประชุมคณะกรรมการฯครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาแนวทางการจัดทำร่างข้อบังคับกองทุน พกส.ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานย่อย 1 ชุด เพื่อจัดหาภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าร่วมจัดทำข้อบังคับกองทุน พกส.โดยกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน จากนั้นจะประชุมรับฟังความคิดเห็นจากบอร์ด เพื่อให้ความเห็นชอบ และเสนอปลัด สธ.ลงนามประกาศใช้ และยื่นขอจดทะเบียนกองทุนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามข้อกฎหมาย เพื่อใช้อย่างถาวรต่อไป” รองปลัด สธ. กล่าว