กพร.ผนึก ก.ต่างประเทศ จัดอบรมฝีมือแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา ลาว ก.งบ 14 ล้านบาท เริ่ม เม.ย.-ก.ย.นี้ เล็งอบรมเจียระไนเพชรพลอย-ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรม-งานบริการ-โรงแรม สั่ง ศพจ.ติดแนวชายแดนสำรวจความต้องการอบรมของแรงงานเพื่อนบ้าน-ผู้ประกอบการคนไทย
วันนี้ (25 ก.พ.) นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือกับนายธานี แสงรัตน์ ผอ.กองเอเชียตะวันออก 2 กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อร่วมมือกันจัดโครงการพัฒนาทักษะแรงงานประเทศเพื่อนบ้านโดยกรมเอเชียตะวันออกจะให้งบประมาณแก่ กพร.จำนวน 14 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ดำเนินการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่แรงงานพม่า กัมพูชา และลาว ที่อยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในช่วงตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.นี้
อธิบดี กพร.กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้ศูนย์พัฒนาแรงงานจังหวัด (ศพจ.) ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เช่น ศพจ.สระแก้ว จันทบุรี ตาก อุบลราชธานี ไปสำรวจความต้องการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือของแรงงานทั้ง 3 ประเทศ และความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนทำธุรกิจ หรือเปิดโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน และให้เร่งสรุปผลรายงานมายัง กพร.ภายในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการจัดทำแผนฝึกอบรมและเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ และครูฝึก ซึ่งการฝึกอบรมนั้นทำได้หลายรูปแบบทั้งส่งครูฝึกไปจัดอบรมที่ประเทศเพื่อนบ้านหรือให้แรงงาน ประเทศเพื่อนบ้านเดินทางมาเข้าอบรมที่ ศพจ.ในจังหวัดที่ติดกับแนวชายแดนโดยหลักสูตรการอบรมจะใช้เวลา 2-3 เดือน ส่วนจำนวนแรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่จะให้เข้าร่วมโครงการนั้นไม่ได้กำหนดจำนวนไว้ชัดเจน แต่จะจัดอบรมไปเรื่อยๆ กระทั่งหมดงบประมาณ
นายนคร กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเท่าที่มีข้อมูลในส่วนของกัมพูชาในพื้นที่ที่ติดกับ จ.จันทบุรี มีชาวกัมพูชาที่เจียระไนเพชรพลอยจำนวนมาก แต่ทักษะฝีมือยังไม่ดี ทำให้กัมพูชาต้องการให้ไทยช่วยอบรมพัฒนาทักษะฝีมือซึ่งสอดรับกับความต้องการของ สมาคมผู้ค้าอัญมณีจันทบุรีซึ่งได้ขยายธุรกิจไปยังกัมพูชาก็มีต้องการช่างเจียระไนเพชร พลอยจำนวนมาก ทางพม่ามีคนไทยที่ทำธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มย้ายโรงงานจากไทยไปตั้งในพม่าหลายบริษัทโดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดกับ จ.ตาก อยากให้อบรมแรงงานพม่าให้มีทักษะเย็บจักรอุตสาหกรรม ส่วนพม่าต้องการให้ช่วยพัฒนาแรงงานด้านโลจิสติกส์ ก่อสร้าง ช่างเชื่อม ช่างปูกระเบื้องเพื่อรองรับการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย ขณะที่ลาวมีคนไทยไปเปิดโรงแรม อยากให้ช่วยฝึกอบรมแรงงานลาวให้มีทักษะด้านงานบริการและโรงแรม
“การดำเนินโครงการเช่นนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านเพราะแรงงานประเทศเพื่อนบ้านไม่ต้องอพยพเข้ามาทำงานในไทย ทำให้ไทยไม่ต้องดูแลแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ได้ช่วยคนไทยที่ย้ายโรงงานหรือไปทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านได้แรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่มีทักษะฝีมือดีและค่าจ้างไม่สูง หากสิ้นสุดโครงการแล้วได้ผลดี กรมเอเชียตะวันออกจะดำเนินโครงการนี้ร่วมกับ กพร.อีกในปีหน้า” นายนคร กล่าว
วันนี้ (25 ก.พ.) นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือกับนายธานี แสงรัตน์ ผอ.กองเอเชียตะวันออก 2 กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อร่วมมือกันจัดโครงการพัฒนาทักษะแรงงานประเทศเพื่อนบ้านโดยกรมเอเชียตะวันออกจะให้งบประมาณแก่ กพร.จำนวน 14 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ดำเนินการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่แรงงานพม่า กัมพูชา และลาว ที่อยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในช่วงตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.นี้
อธิบดี กพร.กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้ศูนย์พัฒนาแรงงานจังหวัด (ศพจ.) ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เช่น ศพจ.สระแก้ว จันทบุรี ตาก อุบลราชธานี ไปสำรวจความต้องการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือของแรงงานทั้ง 3 ประเทศ และความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนทำธุรกิจ หรือเปิดโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน และให้เร่งสรุปผลรายงานมายัง กพร.ภายในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการจัดทำแผนฝึกอบรมและเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ และครูฝึก ซึ่งการฝึกอบรมนั้นทำได้หลายรูปแบบทั้งส่งครูฝึกไปจัดอบรมที่ประเทศเพื่อนบ้านหรือให้แรงงาน ประเทศเพื่อนบ้านเดินทางมาเข้าอบรมที่ ศพจ.ในจังหวัดที่ติดกับแนวชายแดนโดยหลักสูตรการอบรมจะใช้เวลา 2-3 เดือน ส่วนจำนวนแรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่จะให้เข้าร่วมโครงการนั้นไม่ได้กำหนดจำนวนไว้ชัดเจน แต่จะจัดอบรมไปเรื่อยๆ กระทั่งหมดงบประมาณ
นายนคร กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเท่าที่มีข้อมูลในส่วนของกัมพูชาในพื้นที่ที่ติดกับ จ.จันทบุรี มีชาวกัมพูชาที่เจียระไนเพชรพลอยจำนวนมาก แต่ทักษะฝีมือยังไม่ดี ทำให้กัมพูชาต้องการให้ไทยช่วยอบรมพัฒนาทักษะฝีมือซึ่งสอดรับกับความต้องการของ สมาคมผู้ค้าอัญมณีจันทบุรีซึ่งได้ขยายธุรกิจไปยังกัมพูชาก็มีต้องการช่างเจียระไนเพชร พลอยจำนวนมาก ทางพม่ามีคนไทยที่ทำธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มย้ายโรงงานจากไทยไปตั้งในพม่าหลายบริษัทโดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดกับ จ.ตาก อยากให้อบรมแรงงานพม่าให้มีทักษะเย็บจักรอุตสาหกรรม ส่วนพม่าต้องการให้ช่วยพัฒนาแรงงานด้านโลจิสติกส์ ก่อสร้าง ช่างเชื่อม ช่างปูกระเบื้องเพื่อรองรับการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย ขณะที่ลาวมีคนไทยไปเปิดโรงแรม อยากให้ช่วยฝึกอบรมแรงงานลาวให้มีทักษะด้านงานบริการและโรงแรม
“การดำเนินโครงการเช่นนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านเพราะแรงงานประเทศเพื่อนบ้านไม่ต้องอพยพเข้ามาทำงานในไทย ทำให้ไทยไม่ต้องดูแลแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ได้ช่วยคนไทยที่ย้ายโรงงานหรือไปทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านได้แรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่มีทักษะฝีมือดีและค่าจ้างไม่สูง หากสิ้นสุดโครงการแล้วได้ผลดี กรมเอเชียตะวันออกจะดำเนินโครงการนี้ร่วมกับ กพร.อีกในปีหน้า” นายนคร กล่าว