“คุรุสภา” ระดมความเห็นแจง นศ.ครูจบต้องสอบรับตั๋วครู เพื่อวางแผนดำเนินงานเป็นรูปธรรม ประธานคุรุสภา ชี้ฝ่ายสถาบันผลิตห่วงการสอบปิดกั้นโอกาสเด็ก ย้ำให้มองต่างเพราะเป็นการกระตุ้นให้เกิดคุณภาพ ซ้ำยังไม่ได้มีผลทันทีทันใด พร้อมฝากสถาบันผลิตเร่งปรับตัว วางยุทธศาตร์พัฒนาลั่นครูในอนาคตต้องไม่ทำงานรูทีน แต่ต้องปฏิวัติกำหนดแผนงานตนเองเพื่อพัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปสู่เด็ก
วันนี้ (12 ก.พ.) ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมสัมมนาเรื่อง “การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพ” เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ ว่า ตามที่ได้มีการประกาศคุรุสภา เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2557 นั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการดำเนินงานวิชาชีพครูค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นการจัดทำหลักสูตร การคัดเลือกคนเก่งมาเป็นครู ดังนั้นการประชุมครั้งนี้ จึงอยากให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหาร และคณาจารย์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ว่าประกาศฉบับดังกล่าวมีปัญหาทำให้เกิดผลในทางปฏิบัติไม่คล่องตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้ใช้และผู้วางหลักเกณฑ์ด้วย
เวลานี้ประกาศดังกล่าวถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ในวิชาชีพครู เพราะได้กำหนดให้ผู้เข้าเรียนตามหลักสูตรใหม่ปีการศึกษา 2557 เมื่อจบหลักสูตรครูแล้วจะต้องสอบ เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของวิชาชีพครูที่จะมีการต้องสอบเกิดขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมตัวเรื่องการสอบอย่างเต็มที่ โดยหลายฝ่ายมีการแสดงความคิดเห็นว่าการที่จะต้องสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูนั้นเสมือนเป็นการปิดกั้น แต่ความจริงแล้วการสอบไม่ได้ปิดกั้นอะไร แต่เป็นการกระตุ้นเพื่อให้ได้ครูที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวยังไม่ได้มีการบังคับใช้ทันที ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมการไว้ก่อน และการประเมินการทำงานสำหรับผู้ที่จะเข้าสู่วิชาชีพครูนั้นไม่ใช่ประเมินว่าจะต้องเก่งวิชาภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ เท่านั้น แต่การประเมินจะต้องเน้นสมรรถนะความรู้ขั้นสูงสุดด้วย
“สถาบันผลิตครู โดยเฉพาะคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ จะต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นสถาบันชั้นเลิศให้ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของหน่วยงานนี้ยังไม่มีความโดดเด่นเท่าที่ควรจะต้องมียุทธศาสตร์และวางเป้าหมายให้ชัดเจน โดยเฉพาะการพัฒนากรอบมาตรฐานคุณวุฒิครู ซึ่งการจะได้ครูดีต้องมาจากหลากหลายองค์ประกอบหากอยากได้ครูที่มีความสามารถสูงต้องมีวิสัยทัศน์ คิดนอกกรอบอย่างมียุทธศาสตร์ ครูในอนาคตจะต้องมีความเป็นผู้นำ พร้อมนำพาเด็กและสังคมไปสู่โลกยุคใหม่อย่างท้าทาย โดยเฉพาะการปฏิบัติงานของครูต้องไม่ใช่การทำงานแบบรูทีนอีกต่อไป แต่ครูโลกแห่งอนาคตจะต้องเป็นผู้กำหนดแผนงานด้วยตนเอง เพื่อให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง” ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าว