xs
xsm
sm
md
lg

เสนอขึ้นแบล็กลิสต์ครูทุจริต ปรับระบบผลิตแม่พิมพ์สอบอัตนัย หลังพบเด็กไม่อยากเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สกอ.ชี้การคอร์รัปชันและใช้ระบบเส้นสายในการรับครู เป็นปัจจัยให้เด็กไม่อยากมาเรียนครู โดยเฉพาะคนไม่อยากไปสอนในถิ่นทุรกันดารจะเลือกวิธีการทุจริตแบบนี้ ระบุเป็นการทำลายเกียรติวิชาชีพครู พร้อมเสนอขึ้นแบล็กลิสต์กลุ่มครูผู้ช่วยที่ทุจริตด้วย เพราะอาจทำให้ผู้ปกครองขาดความเชื่อมั่นว่าจะสอนให้เด็กเป็นคนดี ขณะที่สถาบันผลิตครูต้องวางระบบผลิตใหม่ให้สอดคล้องความต้องการและได้คุณภาพ ระบุต้องเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 58 แนะเปลี่ยนแนวการสอบจากปรนัยที่เด็กเดาได้มาเป็นอัตนัยให้ได้คิดวิเคราะห์มากขึ้น
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี  (รองเลขาธิการ กกอ.)
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ การปฏิรูประบบการผลิตครูของประเทศไทย ในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติเรื่อง “เหลียวหลัง แลหน้า..ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์” จัดโดยคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ปัญหาระบบการผลิตครูเป็นปัญหาสำคัญของชาติ เนื่องจากเด็กที่ถูกมองว่าไม่เก่งและไม่มีคุณภาพมาจากครูที่ไม่เก่ง และครูที่ไม่เก่งก็มาจากสถาบันการผลิตครู หรือครูของครูไม่มีคุณภาพ ทั้งนี้ ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ถึงความต้องการครูเพื่อทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการใน 6 ปีข้างหน้า ปีการศึกษา 2557-2562 พบว่าปี 2557 ต้องการครูทดแทน 9,910 คน ปี 2558 ต้องการ 12,111 คน ปี 2559 ต้องการ 17,621 คน ปี 2560 ต้องการ 21,961 คน ปี 2561 ต้องการ 22,999 คน และปี 2562 ต้องการ 24,643 คน ขณะที่ผู้สำเร็จการศึกษา นักศึกษาคณะครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ ภายในเดือนพฤษภาคม ระยะ 5 ปีข้างหน้า ได้แก่ ปี 2556 จำนวน 23,579 คน ปี 2557 จำนวน35,428 คน ปี 2558 จำนวน 51,135 คน ปี 2559 จำนวน 60,798 คน และในปี 2560 จำนวน 52,570 คน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกำลังการผลิตครูในแต่ละปีจะเห็นมากกว่าความต้องการครู ดังนั้น ต้องมีการปรับแผนการผลิตครู ซึ่งแนวทางในการปรับแผนการรับนิสิต/นักศึกษาสาขาวิชาชีพครู

ปัจจุบันสถาบันต่างๆ ผลิตครูออกมาจำนวนมากเกินความต้องการแล้วปล่อยให้แข่งขันกัน ใครเก่งก็สามารถสอบเป็นครูได้ ใครสอบไม่ได้ก็ไปประกอบอาชีพอื่น ซึ่งเป็นการสูญเสียทรัพยากรและทำให้ไม่สามารถผลิตครูที่มีคุณภาพได้ แต่โครงการครูมืออาชีพ เป็นโครงการที่สามารถดึงคนเก่งเข้ามาเป็นครู ส่วนหนึ่งเพราะทำให้เด็กมั่นใจว่าเข้าโครงการนี้แล้วมีงานทำแน่นอน ทำให้เด็กอยากมาเรียนครูมากขึ้น แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กไม่อยากมาเรียนครู และหลายฝ่ายมองข้ามไป คือ ระบบการรับครู ที่ยังมีปัญหาคอร์รัปชัน ใช้เส้นสายเพื่อให้ได้ไปอยู่โรงเรียนดีๆ เด็กที่จบครูส่วนหนึ่งที่ไม่อยากไปเป็นครูสอนในโรงเรียนไกลบ้าน ถิ่นทุรกันดารก็จะใช้วิธีนี้ ดังนั้น จึงต้องปรับปรุงระบบการรับครูด้วย อีกทั้งสถาบันผลิตครูจะต้องสอนให้คนที่จะออกมาเป็นครู มีคุณธรรมจริยธรรม โดยเฉพาะความซื่อสัตย์ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ และหากพบว่ามีครูคนใดทุจริตก็น่าจะขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่ให้กลับมาเป็นครูอีก ดังกลุ่มคนที่ทุจริตการสอบครูผู้ช่วยที่ผ่านมาก็น่าจะขึ้นแบล็กลิสต์ไปด้วย เพราะครูเป็นวิชาชีพที่มีเกียรติ ครูต้องสอนให้เด็กมีความซื่อสัตย์ ดังนั้น หากคนเหล่านี้มาสอนเด็กผู้ปกครองก็จะไม่เชื่อถือว่าครูเหล่านี้จะสอนให้ลูกตนเองเป็นคนดีได้ ” รศ.นพ.กำจร กล่าว

รองเลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การปรับแผนการรับนิสิต/นักศึกษาสาขาวิชาชีพครู ที่ต้องเร่งดำเนินการคือต้องมีจำนวนความต้องการครูในอนาคตให้ตรงกัน ทั้งในส่วนของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และ สพฐ.เพื่อที่สถาบันการผลิตครู จะได้นำไปเป็นข้อมูล ปรับแผนการรับนักศึกษาในแต่ละปีให้สอดคล้องกันโดยควรจะเริ่ม ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 ที่ลดจำนวนรับนักศึกษาครูลง ขณะเดียวกันสถาบันการผลิตต้องปรับวิธีการเรียนการสอน ให้ทันสมัย และต้องปรับข้อสอบที่ใช้ในการทดสอบนิสิต/นักศึกษาในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ จากปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้ข้อสอบแบบปรนัยซึ่งเด็กสามารถใช้วิธีการเดาและอาจสอบผ่านได้ มาใช้ข้อสอบแบบอัตนัยมากขึ้นเพื่อให้นักศึกษาคิดวิเคราะห์มากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น