ก.ค.ศ.ไฟเขียวปรับปรุงเกณฑ์สอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1/2557 ปรับให้ผู้สอบสัมภาษณ์ต้องผ่านสอบภาค ก และ ข ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ให้สมัครสอบได้หลายแห่งแต่ต้องสอบเพียงที่เดียว ซึ่งกำหนดจัดสอบพร้อมกันทั่วประเทศมอบ สพฐ.กำหนดปฏิทินมาเสนอ ก.ค.ศ.อีกครั้ง
วันนี้ (30 ม.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2557 เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557 โดยการจัดสอบครั้งนี้แบ่งเป็นการสอบข้อเขียน ภาค ก ความรอบรู้ 150 คะแนน ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง 150 คะแนน และสอบภาค ค หรือการสัมภาษณ์ 50 คะแนน ผู้ที่จะเข้าสอบภาค ค ได้จะต้องได้คะแนนภาค ก และ ข ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ซึ่งหลักเกณฑ์เดิมจะสอบภาค ก ภาค ข และภาค ค แล้วรวมคะแนนประกาศผลเลย
ในส่วนการจัดสอบจะให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการจัดสอบเองอาจรวมกลุ่มออกข้อสอบ หรือให้สถาบันอุดมศึกษามาช่วยออกข้อสอบได้ ทั้งนี้ในการสมัครสอบจะเปิดให้โอกาสให้ผู้สมัครมีสิทธิ์สมัครสอบได้หลายแห่งแต่จะมีสิทธิ์สอบได้เพียงแห่งเดียวเนื่องจากกำหนดวันสอบพร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนสาขาวิชาที่เปิดสอบในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาขอให้สำรวจข้อมูล เพื่อเปิดสอบในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่ขาดแคลน ตามภาพรวมของประเทศด้วย ทั้งนี้ สำหรับปฏิทินกำหนดการสอบคัดเลือกนั้นได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปหารือและกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมนำเสนออีกครั้งหนึ่ง
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(ผอ.สพท.) เช่น กำหนดการคัดเลือกออกเป็น 1.กลุ่มทั่วไปหรือกลุ่มสอบคัดเลือก คะแนนเต็มรวม 400 คะแนน แยกเป็นภาค ก 100 คะแนน ภาค ข 100 คะแนน และภาค ค 200 คะแนน 2.กลุ่มประสบการณ์หรือกลุ่มคัดเลือก คะแนนเต็มรวม 300 คะแนน แยกเป็นภาค ก 100 คะแนน และภาค ข 200 คะแนน โดยจำนวนผู้ผ่านการคัดเลือก 2 กลุ่มจะให้คัดเลือกไว้ไม่เกิน 2 เท่าของตำแหน่งว่างหรือเท่ากับจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ทั้งนี้ ยังได้เห็นชอบให้ควรเทียบประสบการณ์การปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารการประถมศึกษา/มัธยมศึกษา อาทิ ผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ช่วยศึกษาธิการอำเภอ เป็นต้นไป รวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษา อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยไม่ปิดกั้นการสอบข้ามเขตระหว่างผู้บริหารสายประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา
รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.หารือกับผู้แทน สพฐ.กรรมการผู้แทนผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนข้าราชการครูใน ก.ค.ศ.ไปหารือกันเพื่อความรอบคอบกรณีการพิจารณาขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านเกณฑ์การสรรหาร้อยละ 60 เพื่อบรรจุ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ในสังกัด สพฐ.ในการสอบคัดเลือกครั้งที่ผ่านมาปี 2555 จำนวน 1,224 ราย ที่ได้รับการขึ้นบัญชี เนื่องจากไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนดให้ขึ้นบัญชีผู้ที่สอบผ่านร้อยละ 60 เท่ากับจำนวนตำแหน่งว่างในปัจจุบันและตำแหน่งที่คาดว่าจะว่างจากการเกษียณ อายุราชการในสองปีงบประมาณ
ด้าน นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้อดีตครูผู้ช่วยที่ถูกให้ออกจากราชการจากกรณีปัญหาการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ หรือ ว12 สองรายที่ได้กลับเข้ารับราชการตามเดิมตามมติของของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ โดยจะให้ไปตั้งกรรมการสอบสวนให้ถูกต้องตามขั้นตอน เนื่องจากอดีตครูผู้ช่วยสองรายร้องทุกข์มาว่าถูกให้ออกจากราชการโดยไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตั้งกรรมการสอบสวนใหม่แล้วและพบว่ามีความผิดก็ต้องให้ออกจากราชการตามเดิม
วันนี้ (30 ม.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2557 เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557 โดยการจัดสอบครั้งนี้แบ่งเป็นการสอบข้อเขียน ภาค ก ความรอบรู้ 150 คะแนน ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง 150 คะแนน และสอบภาค ค หรือการสัมภาษณ์ 50 คะแนน ผู้ที่จะเข้าสอบภาค ค ได้จะต้องได้คะแนนภาค ก และ ข ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ซึ่งหลักเกณฑ์เดิมจะสอบภาค ก ภาค ข และภาค ค แล้วรวมคะแนนประกาศผลเลย
ในส่วนการจัดสอบจะให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการจัดสอบเองอาจรวมกลุ่มออกข้อสอบ หรือให้สถาบันอุดมศึกษามาช่วยออกข้อสอบได้ ทั้งนี้ในการสมัครสอบจะเปิดให้โอกาสให้ผู้สมัครมีสิทธิ์สมัครสอบได้หลายแห่งแต่จะมีสิทธิ์สอบได้เพียงแห่งเดียวเนื่องจากกำหนดวันสอบพร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนสาขาวิชาที่เปิดสอบในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาขอให้สำรวจข้อมูล เพื่อเปิดสอบในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่ขาดแคลน ตามภาพรวมของประเทศด้วย ทั้งนี้ สำหรับปฏิทินกำหนดการสอบคัดเลือกนั้นได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปหารือและกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมนำเสนออีกครั้งหนึ่ง
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(ผอ.สพท.) เช่น กำหนดการคัดเลือกออกเป็น 1.กลุ่มทั่วไปหรือกลุ่มสอบคัดเลือก คะแนนเต็มรวม 400 คะแนน แยกเป็นภาค ก 100 คะแนน ภาค ข 100 คะแนน และภาค ค 200 คะแนน 2.กลุ่มประสบการณ์หรือกลุ่มคัดเลือก คะแนนเต็มรวม 300 คะแนน แยกเป็นภาค ก 100 คะแนน และภาค ข 200 คะแนน โดยจำนวนผู้ผ่านการคัดเลือก 2 กลุ่มจะให้คัดเลือกไว้ไม่เกิน 2 เท่าของตำแหน่งว่างหรือเท่ากับจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ทั้งนี้ ยังได้เห็นชอบให้ควรเทียบประสบการณ์การปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารการประถมศึกษา/มัธยมศึกษา อาทิ ผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ช่วยศึกษาธิการอำเภอ เป็นต้นไป รวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษา อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยไม่ปิดกั้นการสอบข้ามเขตระหว่างผู้บริหารสายประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา
รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.หารือกับผู้แทน สพฐ.กรรมการผู้แทนผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนข้าราชการครูใน ก.ค.ศ.ไปหารือกันเพื่อความรอบคอบกรณีการพิจารณาขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านเกณฑ์การสรรหาร้อยละ 60 เพื่อบรรจุ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ในสังกัด สพฐ.ในการสอบคัดเลือกครั้งที่ผ่านมาปี 2555 จำนวน 1,224 ราย ที่ได้รับการขึ้นบัญชี เนื่องจากไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนดให้ขึ้นบัญชีผู้ที่สอบผ่านร้อยละ 60 เท่ากับจำนวนตำแหน่งว่างในปัจจุบันและตำแหน่งที่คาดว่าจะว่างจากการเกษียณ อายุราชการในสองปีงบประมาณ
ด้าน นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้อดีตครูผู้ช่วยที่ถูกให้ออกจากราชการจากกรณีปัญหาการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ หรือ ว12 สองรายที่ได้กลับเข้ารับราชการตามเดิมตามมติของของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ โดยจะให้ไปตั้งกรรมการสอบสวนให้ถูกต้องตามขั้นตอน เนื่องจากอดีตครูผู้ช่วยสองรายร้องทุกข์มาว่าถูกให้ออกจากราชการโดยไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตั้งกรรมการสอบสวนใหม่แล้วและพบว่ามีความผิดก็ต้องให้ออกจากราชการตามเดิม