เผยชื่อ ผอ.ร.ร. และครู 2 รายที่สอบครูผู้ช่วยนามสกุลเดียวกัน “จาตุรนต์” ชี้พฤติกรรมส่อทุจริตชัด เหตุมาสอบทั้งที่ไม่จำเป็น สั่ง สพฐ. เร่งหาข้อเท็จจริงพบมีมูลตั้ง กก. สอบข้อเท็จจริง รวมทั้งให้จับตาบางจังหวัด โดยเฉพาะบุรีรัมย์ ที่คนต่างพื้นที่รวมกลุ่มสมัครสอบที่เดียว ด้าน เลขาธิการ กพฐ. ระบุสั่งเขตพื้นที่ฯ เร่งทำรายงานส่ง ระบุภาพรวมจัดสอบ 2 วันไม่พบทุจริต
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่สองของการจัดสอบแข่งขันคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครั้งที่ 1/2557 ใน 89 เขตพื้นที่การศึกษา และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) รวม 90 เขต โดยมีตำแหน่งว่างบรรจุได้ 1,888 อัตรา โดยกำหนดจัดสอบภาค ก และ ข พร้อมกันทั่วประเทศระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน ซึ่งการจัดสอบครั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการจัดสอบและออกข้อสอบทั้งหมด
โดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมสนามสอบครูผู้ช่วยที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า ที่นี่มีผู้สมัครสอบทั้งหมด 5,600 คน เข้าสอบจริง 4,800 คน ส่วนที่เหลือไม่มาสอบ โดยทั่วประเทศมีผู้ไม่เข้าสอบทั้งหมดประมาณ 9,000 คน คิดเป็น 13% ของจำนวนผู้สมัครทั้งหมด เท่าที่ได้รับรายงานอาจเป็นเพราะผู้สมัครบางคนสมัครสอบหลายที่ส่วนที่เหลือไม่ทราบสาเหตุ คงต้องให้ สพฐ. ไปวิเคราะห์ว่าผู้ที่ไม่มาสอบเพราะสาเหตุใด
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ นายพิทักษ์ ศุภเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไทร จ.บุรีรัมย์ เข้าสอบที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สมุทรสาคร และนายชุมพล ศุภเลิศ ครูโรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ซึ่งเป็นน้องชายของนายพิทักษ์ และครูอีกหนึ่งคนนั้น นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รายงานว่า ในการสอบภาค ข วันนี้ทั้ง 3 รายไม่ได้เข้าสอบ ซึ่งกรณีนี้ สพฐ. จะต้องสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลว่าอาจจะนำไปสู่การทุจริตก็จำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และเรื่องนี้เป็นที่น่าสงสัยว่าจะส่อไปในทางทุจริตอยู่แล้ว เพราะคนที่เป็นระดับผู้อำนวยการโรงเรียน และครู คงไม่มีความจำเป็นต้องมาสอบครูผู้ช่วยอีก จึงขอให้สพฐ. ตรวจสอบให้แน่ใจเพื่อให้การสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้มีความโปร่งใสมากที่สุด
“มีอีกกรณีที่น่าสงสัยและต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ มีบางจังหวัด มีคนจากต่างพื้นที่รวมตัวมาเป็นกลุ่ม และสมัครสอบที่เดียวกัน โดยเฉพาะจากจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่เบื้องต้นทางสนามสอบแก้ปัญหาโดยการให้ผู้สมัครที่มาจากจังหวัดเดียวกันแยกให้นั่งห่างกัน และหากพบว่ามีสัญญาณที่ส่อว่าจะมีการทุจริต ก็จะให้มีผู้บริหารระดับผู้ใหญ่เข้าไปดูแลทันที” นายจาตุรนต์ กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ภาพรวมของการจัดสอบครูผู้ช่วย ทั้ง 2 วันเป็นไปอย่างเรียบร้อย และไม่มีรายงานว่าพบพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตแต่อย่างใด ขณะเดียวกันได้รับรายงานวันนี้ว่าผู้เข้าสอบรายหนึ่งของ สพป.ตราด ทราบชื่อคือ น.ส.เหมือนแพร พรมลี สอบวิชาเอกเทคโนโลยีทางการศึกษา เจ็บท้องคลอดลูก จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลตราด และคลอดลูกสาวอาการปลอดภัยทั้งแม่และลูก ส่วนที่ออกก่อนเวลาก็ไม่ถือว่าเสียสิทธิ์เพราะ น.ส.เหมือนแพร ฝืนทำข้อสอบจนเสร็จและกรรมการคุมสอบอนุโลมให้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของการตรวจข้อสอบซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) หรือในบางพื้นที่ก็จะเริ่มตรวจข้อสอบตั้งแต่ค่ำวันนี้โดยส่วนใหญ่จะเป็นเขตพื้นที่ฯ ที่ใช้ข้อสอบที่ออกโดยมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นต้น ซึ่งกระบวนการต่างๆ จะถูกกำหนดไว้ในขอบเขตงาน หรือ ทีโออาร์ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทำสัญญาไว้กับสถาบันอุดมศึกษานั้นๆ
“ภาพรวมปีนี้เรียบร้อยไม่พบปัญหาส่วนหนึ่งเพราะ สพฐ. เข้มงวดในทุกขั้นตอน เมื่อได้ข้อมูลเบาะแสอะไรมาก็ลงพื้นที่ตรวจเข้มเอาจริงเอาจังด้วย ส่วนกรณีของ ผอ.โรงเรียน และข้าราชการครูอีก 2 รายที่เข้าสอบภาค ก วานนี้นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้เขตพื้นที่ฯ ที่ทั้ง 3 รายไปเข้าสอบ รวมถึงเขตพื้นที่ฯ ที่ทั้ง 3 รายได้ยื่นสมัครสอบไว้จัดทำรายงานส่งมายัง สพฐ. โดยเบื้องต้น ต้องสอบถามข้อเท็จจริงของการมาสอบในครั้งนี้ว่าสาเหตุเพราะอะไร หรือมีเหตุผลใด เนื่องจากเป็นทั้ง 3 รายเป็นระดับ ผอ.โรงเรียนที่มีวิทยฐานะสูง และเป็นข้าราชการครูอยู่แล้วซึ่งไม่มีความจำเป็นจะต้องมาสอบในตำแหน่งครูผู้ช่วย เมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็จะพิจารณาอีกครั้งหากพบว่ามีพฤติกรรมที่น่าสงสัยก็อาจจะต้องตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป” นายอภิชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ สพฐ. ได้ลงทีมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณี ผอ.โรงเรียนและครูอีก 2 รายเข้าสอบครูผู้ช่วยในครั้งนี้ด้วย พบว่านอกจากนายพิทักษ์ ศุภเลิศ ผอ.โรงเรียนบ้านหนองไทร และนายชุมพล ศุภเลิศ ครูโรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม ซึ่งทั้งสองสังกัด สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 แล้วยังพบว่าครูอีกรายที่เข้าสอบก็นามสกุลเดียวกัน คือ นายธนกฤต ศุภเลิศ ครูโรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 อย่างไรก็ตามในการสอบวันที่สองปรากฏว่าทั้งสามคนไม่ได้เดินทางเข้าสอบแต่อย่างใด มีเพียงผู้สมัครคนอื่นๆ ที่เดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ ที่ยังมาเข้าสอบตามปกติ โดยกรรมการคุมสอบได้เฝ้าระวังเพื่อให้การสอบเป็นไปอย่างบริสุทธิ์