สพฐ.เรียกประชุม ผอ.ร.ร.ดัง กำชับ รับ นร.ปี 57 ต้องเป็นตามนโยบาย ลั่นห้ามประมูลเก้าอี้แลกที่นั่ง เตรียมปรับเกณฑ์รับ นร.ปี 58 ลดขนาดห้องเรียนเหลือไม่เกิน 40 คน สอดคล้องตามนโยบาย รมว.ศึกษาธิการ ทั้งทบทวนการรับ นร.ม.4 พร้อมฝากให้ ร.ร.สร้างความเข้าใจผู้ปกครอง พร้อมเตรียมแผนรับสถานการณ์ลดขนาดห้องเรียน
วันนี้ (22 ม.ค.) ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมสัมมนาการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2557 ในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงซึ่งมีผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง 293 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม ว่า ในที่ประชุมได้กำชับ ผอ.โรงเรียนดังให้ปฏิบัติตามประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนปี 2557 อย่างเคร่งครัด เพราะทุกๆ ปีจะมีข้อกล่าวหาว่าโรงเรียนเรียกรับเงินแลกที่นั่งเรียนมาโดยตลอด เข้าใจว่าโรงเรียนมีความจำเป็นที่จะต้องระดมทรัพยากร เพราะรายจ่ายของโรงเรียนมากกว่างบประมาณที่รัฐจัดสรรให้ แต่โรงเรียนก็ต้องหาวิธีระดมทรัพยากรที่อธิบายต่อสังคมได้ และต้องไม่นำการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ มาประมูลเก้าคิดราคา การรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษต้องมีหลักเกณฑ์ที่โปร่งใสและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา และให้จำกัดจำนวนรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษและนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ รวมกันไม่เกินห้องละ 10 คน
สำหรับการรับนักเรียนในปี 2557 นี้ สพฐ.จำเป็นต้องเดินหน้าตามเกณฑ์รับนักเรียนที่ประกาศไว้แล้ว โดยรับนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาห้องละ 40 คน ขยายได้ 10 คน รวมเป็น 50 คน แม้ว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายให้ลดขนาดห้องเรียนเหลือห้องละไม่เกิน 40 คน แต่การปรับเปลี่ยนใดๆ ต้องมีการประกาศล่วงหน้า จึงไม่สามารถสนองนโยบายดังกล่าวได้ในปีนี้ แต่หลังจากการรับนักเรียนปี 2557 ผ่านพ้นไปแล้ว สพฐ.ก็จะเดินหน้าปรับเกณฑ์การรับนักเรียนปี 2558 ลดขนาดห้องเรียนเหลือไม่เกินห้องละ 40 คน พร้อมทบทวนการรับนักเรียนชั้น ม.4 ด้วย ทั้งนี้ การลดขนาดห้องเรียนอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้โดยเฉพาะในกลุ่มโรงเรียนดังที่ผู้ปกครองนิยมส่งลูกเข้าเรียนเพราะฉะนั้นก่อนที่จะมีการลดขนาดห้องเรียน โรงเรียนจะต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
“ได้กำชับ ผอ.ร.ร.ไปด้วยว่ากระบวนการออกข้อสอบคัดเลือกนั้น จะต้องเป็นความลับ และคณะกรรมการออกข้อสอบจะต้องไม่ส่งลูกหลานตัวเองเข้ามาสอบในโรงเรียนนั้น รวมถึงไม่ให้โรงเรียนออกข้อสอบเกินหลักสูตร อีกทั้งการออกข้อสอบจะต้องร่วมกันออกหลายคนไม่ใช่ให้คนใดคนหนึ่งออก และยังกำชับให้โรงเรียนจัดเจ้าหน้าที่รับสมัครนักเรียนในช่วงพักเที่ยงด้วย เพราะที่ผ่านมามีผู้ปกครองร้องเรียนมากันมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันยังได้กำชับว่าในวันประกาศผลจะต้องประกาศในวันที่กำหนดและรักษาเวลาการประกาศผลอย่างเคร่งครัด โดยช้าสุดจะต้องติดประกาศให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้ทราบผลไม่เกิน 6 โมงเช้าของวันที่จะประกาศ” นายอภิชาติ กล่าว