“อภิชาติ” สั่งตรวจสอบจัดซื้อครุภัณฑ์วิทย์ 600 ล้านบาท ลั่นโรงเรียนแห่งไหนดำเนินการไม่โปร่งใส ตั้งกรรมการสอบวินัย
วันนี้ (29 ม.ค.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่าจากกรณีที่ตนทำหนังสือถีงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทั่วประเทศ เพื่อให้ขอตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ชุดพัฒนาทักษะวิทยาศาสตร์ประถมศึกษา ที่ สพฐ.ได้จัดสรรงบประมาณประจำ และงบแปรญัตติ ประจำปี พ.ศ.2556 ให้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศโรงเรียนละ 185,000 บาท ที่พบว่าอาจมีความไม่โปร่งใสนั้น ว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการก่อนที่ตนจะมาดำรงตำแหน่ง และมีผู้ที่มีส่วนได้เสียที่เป็นผู้ขายและผู้ผลิต ร้องเรียนว่ามาตรฐานครุภัณฑ์ หรือวัสดุที่ขอกำหนดไปเหมือนเป็นการล็อกสเปกจึงได้แจ้งไปให้ สพป.แจ้งโรงเรียนให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นน่าเห็นใจ เนื่องจากโรงเรียนไม่รู้ว่ามีการยกเลิกมาตรฐานครุภัณฑ์เก่าและ สพฐ.ได้ประกาศใช้มาตรฐานคุรุภัณฑ์ใหม่ จึงทำให้โรงเรียนจัดซื้อโดยยึดมาตรฐานครุภัณฑ์เก่า เท่าที่ทราบเมื่อมีการประกาศยกเลิกทางโรงเรียนอาจจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร จึงดำเนินการไม่ถูกต้อง โดยงบประมาณที่จัดซื้อนี้ประมาณ 600 ล้านบาท และโรงเรียนส่วนใหญ่ได้ดำเนินการจัดซื้อไปหมดแล้ว
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า เมื่อ สพป.ไปตรวจสอบแล้วหากพบว่าโรงเรียนดำเนินการไม่ถูกต้อง จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนว่าการดำเนินการจัดซื้อมีเจตนาดำเนินการไม่ถูกต้องก็ต้องลงโทษทางวินัย แต่หากไม่มีเจตนาดำเนินการผิดและจัดซื้อราคาถูกกว่าราคามาตรฐานกลางทำให้ราชการไม่เสียประโยชน์ก็อาจจะรอดตัว และอาจถูกลงโทษแค่ว่ากล่าวตักเตือนหรือภาคทัณฑ์ อย่างไรก็ตาม สพฐ.ไม่ทราบว่ามีการผูกขาดการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทเอกชนรายใดรายหนึ่งหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับร้องเรียนมาจากผู้ขาย ผู้ผลิต และข้อมูลของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่แจ้งมายัง สพฐ.ไม่ได้ระบุบริษัท
“หน่วยงาน สพฐ.กว้างใหญ่มาก จนทำให้เราไปดูไม่ได้ว่าเขตพื้นที่การศึกษานี้ซื้อจากบริษัทไหน นอกจากมีเรื่องร้องเรียนถึงจะไปเจาะได้ อันนี้คือความใหญ่โตของหน่วยงานของ สพฐ.บางทีเขตพื้นที่การศึกษาหนึ่งอาจจะมีหลายบริษัทจัดซื้อจัดจ้างได้ หรือบางบริษัทก็ไปชนะการจัดซื้อจัดจ้างที่เขตพื้นที่การศึกษาอื่นใกล้เคียง” นายอภิชาติ กล่าวและว่า ครุภัณฑ์ชุดพัฒนาทักษะวิทยาศาสตร์ประถมศึกษาได้จัดซื้อไปหมดแล้ว และหลายแห่งได้รับมอบและจ่ายเงินไปแล้ว ดังนั้นจะไปยกเลิกสัญญาไม่ได้ หากพบว่าผิดก็ต้องลงโทษกับผู้อำนวยการโรงเรียนที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไป